xs
xsm
sm
md
lg

แม่วีรชนทวงชีวิต “หมัก” ไม่หวัง “คำขอโทษ” เชื่อตายมากกว่าแถลง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ญาติวีรชน 6 ตุลา ตั้งวงชำแหละประวัติศาสตร์ โต้ “หมักศพเดียว” อีกรอบ พร้อมโชว์หลักฐานใบชันสูตรจาก รพ.ตำรวจ และ รพ.ศิริราช ปึกใหญ่ แม่ “มนู หนึ่งในวีรชนทวงถามความรับผิดชอบจากนายกฯ ผู้นำอาชีวะเชื่อมีศพมากกว่านี้ ขณะที่อาจารย์ประวัติศาสตร์ชี้สังคมไทยยังพร้อมจะเกิด 6 ตุลาอีก

วันนี้ (17 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาสี่แยกคอกวัว ทางคณะกรรมการญาติวีรชน 6 ตุลา ได้จัดแถลงข่าวกรณี นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ 6 ตุลา ว่า มีผู้เสียชีวิตเพียงหนึ่งรายนั้น โดยในระหว่างการแถลงข่าวได้มีการเปิดเผยเอกสารการชันสูตรศพของผู้ที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 41 ราย ซึ่งเป็นรายงานของโรงพยาบาลตำรวจและโรงพยาบาลศิริราชจำนวนหลายสิบหน้า

นายโอริสสา โอราวัณวัฒน์ อดีตเลขาธิการแนวร่วมอาชีวศึกษาเพื่อประชาชนแห่งประเทศไทยกล่าวว่า บทบาทการปลุกระดมของนายสมัครเป็นบทบาทสำคัญและก่อให้เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลาขึ้น ตนเป็นคนหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เนื่องจากถูกยิง หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นการยิงกรอกปากจนกรามแตก แต่บังเอิญรอด จึงเป็นคนที่ยังมีชีวิตอยู่และต้องออกมายืนยันความจริง

นายโอริสสา กล่าวต่อว่า ผู้เสียชีวิตไม่ได้มีแค่ 1 คน ตามที่นายสมัคร ระบุ แต่จากหลักฐานที่เป็นเอกสารของทางราชการเองก็ระบุว่ามีคนตาย 41 คน อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่า จำนวนผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์อาจมีมากกว่านั้น เพราะบางคนไม่พบแม้แต่ศพ ในขณะที่ญาติพี่น้องเองก็เกรงกลัวอำนาจในขณะนั้นจึงไม่ได้มีการแจ้ง

นางเล็ก วิทยาภรณ์ มารดาของ นายมนู วิทยาภรณ์ นักศึกษา ม.รามคำแหง ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์วันดังกล่าว กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ในวันนั้น ตนตามหาลูกเป็นเวลา 2 วันจนไปพบเป็นศพแล้วอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยร่างของลูกชายได้ถูกบรรจุใส่ไว้ในโลงเป็นที่เรียบร้อย ตนขอให้ทำความสะอาดร่างของลูกชาย แต่ได้รับการปฏิเสธ ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไม่ต้องทำอะไรแล้ว เพราะได้แถมโลงให้ด้วย

“เขาฆ่าลูกเราแล้วแถมโลงให้เราอีกใบหนึ่ง ยังไงเสียโลงใบหนึ่งเราก็มีปัญญาซื้อเราไม่ต้องการ เอาโลงไว้ใส่มือเพชฌฆาตเสียดีกว่า” นางเล็ก กล่าวและว่า นายสมัคร ที่ตอนนั้นเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย และตอนนี้เป็นถึงนายกรัฐมนตรี จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อการตายของลูกชายตน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าวได้มีการอ่านเอกสารชันสูตรศพ นายมนู ของโรงพยาบาลตำรวจ โดยระบุว่า เขาเป็นชายไทย อายุ 22 ปี สัญชาติไทย เชื้อชาติไทย นับถือศาสนาพุทธ เสียชีวิตด้วยสาเหตุกระสุนปืนทะลุผ่านหัวใจจนเลือดตกใน

ในขณะที่ นายคงเจตน์ พร้อมนำพล ประธานคณะกรรมการญาติวีรชน 6 ตุลา กล่าวว่า การกล่าวคำบิดเบือนของนายสมัครในครั้งนี้ ไม่คาดหวังว่าจะมีการขอโทษใดๆ แต่ตนต้องการเรียกร้องให้มีการเปิดเผยความจริงในกรณีนี้ และต้องการให้คนไทยยอมรับว่า มีการสังหารประชาชนและนักศึกษาในเหตุการณ์ดังกล่าวจริง แม้ว่าอยากเห็นการลงโทษผู้ที่ก่อเหตุในวันนั้น แต่ตนก็ไม่หวังว่ารัฐบาลสมัครจะดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้

ก่อนหน้านั้น เวลา 13.00 น.ทางคณะกรรมการญาติวีรชน 6 ตุลา ได้จัดให้มีการอภิปรายเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวโดยได้รับความสนใจจากผู้ที่เคยอยู่ในเหตุการณ์ ญาติพี่น้อง และผู้ที่สนใจ โดยนายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ อาจารย์ประวัติศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เหตุการณ์ 6 ตุลา เป็นเหตุการณ์ที่รัฐเป็นผู้ทำร้ายเปรียบเสมือนพระนารายณ์ที่อวตารลงมาเป็นมารเสียเอง ต่อประชาชน ซึ่งน่าจะมีสาเหตุ 3 ประการ ได้แก่ หนึ่ง ชนชั้นนำไทยมีความคับแคบและไม่ยอมรับกับความคิดที่แตกต่างจากตัวเองสองขาดบทเรียนที่จะรับมือกับการเคลื่อนไหวของประชาชน และสามชนชั้นนำไทยยังมีความคิดที่เหี้ยมโหดทารุณ ซึ่งทั้งหมดยังมีอยู่ในสังคมไทย ต่อจากนี้จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้นอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการเปิดอภิปรายถึงข้อเท็จจริงและความคิดเห็นต่อกรณีดังกล่าวได้มีการหยิบยกบทบาทของนายสมัคร ในการปลุกระดมผ่านวิทยุยานเกราะก่อนหน้าวันที่ 6 ต.ค.2519 พร้อมทั้งประณามการให้สัมภาษณ์บิดเบือนข้อเท็จจริงๆทั้งๆที่อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มนิสิตภาควิชาประวัติศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ออกแถลงการณ์เสนอแนะให้ นายสมัคร ทบทวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวโดยเร็วดำเนินการสืบสวนเหตุการณ์อย่างเปิดเผยเพื่อเพิ่มพูนความรู้กับสังคมและนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ






กำลังโหลดความคิดเห็น