ครส.เดินหน้าจี้นายกฯ รับผิดชอบคำพูด หยุดทำตัวเป็น “เผด็จการความจริง” บิดเบือนเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ เรียกร้องตั้ง กก.อิสระชำระประวัติศาสตร์ ให้สังคมมีส่วนร่วม เปิดชื่อผู้เสียชีวิต 30 ราย ประจาน “สมัคร” ลวงโลก
วันนี้ (17 ก.พ.) นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน (ครส.) กล่าวถึงกรณีที่ นายสมัคร สุนทรเวช ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวต่างประเทศ ว่า มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ 6 ตุลาคม 2519 เพียงคนเดียวว่า เบื้องต้น ครส.ได้เรียกร้องรัฐบาลตั้งคณะกรรมการอิสระแห่งชาติชำระประวัติศาสตร์ 6 ตุลาคม 2519 ประกอบด้วย นักประวัติศาสตร์ นักวิชาการ ภาครัฐและเอกชน รวมถึงวีรชนที่อยู่ในเหตุการณ์ เพื่อบันทึกประวัติศาสตร์ผู้สูญเสียชีวิต ผู้สูญหายในเหตุการณ์ เพื่อชำระประวัติศาสตร์ที่เป็นบาดแผลของสังคมไทยนั้น ครส.มีความเห็นเพิ่มเติม ดังนี้
นายกรัฐมนตรีจะต้องรับผิดชอบคำพูดของตัวเอง โดยการตั้งคณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์สอบสวนข้อเท็จจริง อย่าแสดงตนเป็น “เผด็จการความจริง” บิดเบือนเรื่องที่ตนเองอาจมีส่วนร่วม คิดว่า ที่นายกรัฐมนตรีพยายามบิดเบือนประวัติเพราะเรื่องนี้ นายสมัคร อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะเอกสารประวัติศาสตร์มากมาย ระบุว่า นายสมัคร สนับสนุนวิทยุยานเกราะ ปลุกระดมให้มีการเกลียดชังนิสิตนักศึกษาที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ทั้งในจดหมายของนายสุรินทร์ มาศดิตถ์ อดีตรัฐมนตรีสมัยนั้น ที่เขียนเล่าเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ขณะบวชเป็นพระ ซึ่งถือเป็นเอกสารชิ้นประวัติศาสตร์ ก็ยังมีชื่อ นายสมัคร เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ เวลาลูกเสือชาวบ้าน กระทิงแดง และกลุ่มต่อต้านนักศึกษาสมัยนั้นชุมนุมที่ไหน นายสมัคร ก็จะไปที่นั่น จึงถือว่ามีบทบาทอย่างสำคัญในการสนับสนุนและปลุกระดมให้เกิดเหตุการณ์นองเลือดขึ้นจนมีผู้เสียชีวิตมากมาย และสูญหายอีกนับไม่ถ้วนในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สนามหลวงและกลางแม่น้ำเจ้าพระยา
เท่าที่ทราบมา คณะกรรมการรับข้อมูลและสืบพยานเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ของภาคประชาชน ได้เคยบันทึกว่า เท่าที่มีหลักฐานอยู่นั้น มีนิสิตนักศึกษาและประชาชนเสียชีวิต 41 ราย ในจำนวนนี้เป็นศพถูกเผา ระบุรายละเอียดแยกชายหญิงไม่ได้ จำนวน 4 ราย เป็นศพชายไทยไม่ทราบชื่อ จำนวน 6 ราย ผูกคอตายที่สถานีตำรวจนครบาลบางเขน ขณะเป็นผู้ต้องหา เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2520 1 ราย ชื่อ นายวันชาติ ศรีจันทร์สุข
คงเหลือศพที่ระบุชื่อได้ และมอบให้ญาติไปจัดการตามประเพณีแล้ว จำนวน 30 ราย ได้แก่ 1.นายพงษ์พันธ์ เพรามธุรส ถูกระเบิด 2.นายวิชิตชัย อมรกุล ถูกของแข็งมีคมและถูกรัดคอ 3.นายอับดุลรอเฮง สาตา ถูกกระสุนปืน 4.นายมนู วิทยาภรณ์ ถูกกระสุนปืน 5.นายสุรสิทธิ์ สุภาภา ถูกกระสุนปืน 6.นายสัมพันธ์ เจริญสุข ถูกกระสุนปืน 7.นายสุวิทย์ ทองประหลาด ถูกกระสุนปืน 8.นายบุนนาค สมัครสมาน ถูกกระสุนปืน 9.นายอภิสิทธิ์ ไทยนิยม ถูกกระสุนปืน 10.นายอนุวัตร อ่างแก้ว ถูกระเบิด
11.นายวีระพล โอภาสพิไล ถูกกระสุนปืน 12.นายสุพจน์ พันธุ์กาฬสินธุ์ ถูกกระสุนปืน 13. นางสาวภรณี จุลละครินทร์ ถูกกระสุนปืน 14.นายยุทธนา บูรศิริรักษ์ ถูกกระสุนปืน 15.นายภูมิศักดิ์ ศิระศุภฤกษ์ชัย ถูกกระสุนปืน 16.นางสาววัชรี เพชรสุ่น ถูกกระสุนปืน 17.นายดนัยศักดิ์ เอี่ยมคง ถูกกระสุนปืน 18.นายไพบูลย์ เลาจีรพันธ์ ถูกกระสุนปืน 19.นายชัยพร อมรโรจนาวงศ์ ถูกกระสุนปืน 20.นายอัจฉริยะ ศรีสวาท ถูกกระสุนปืน
21.นายสงวนพันธุ์ ซุ่นเซ้ง จมน้ำ 22.นางสาววิมลวรรณ รุ่งทองใบสุรีย์ ถูกกระสุนปืน 23.นายสมชาย ปิยะสกุลศักดิ์ ถูกกระสุนปืน 24.นายวิสุทธิ์ พงษ์พานิช ถูกกระสุนปืน 25.นายสุพล พาน หรือ บุญทะพาน ถูกกระสุนปืน 26.นายศิริพงษ์ มัณตะเสถียร ถูกกระสุนปืน 27.นายวสันต์ บุญรักษ์ ถูกกระสุนปืน 28.นายเนาวรัตน์ ศิริรังษี ถูกกระสุนปืน 29.นายปรีชา แซ่เซีย ถูกของแข็ง อาวุธหลายชนิด และถูกรัดคอ และ 30.นางสาวอรุณี ขำบุญเกิด ถูกกระสุนปืน
รายชื่อเหล่านี้ยังไม่นับรวมถึงผู้สูญหายอีกจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ติดตามหาศพไม่พบหรือมีการทำลายศพ โดยเฉพาะ นายจารุพงษ์ ทองสินธุ์ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่โดนคนของรัฐลากคอที่สนามฟุตบอล ซึ่งไม่น่าเชื่อว่า เราจะมีนายกรัฐมนตรีที่โกหกทางสาธารณะไปได้ทั่วโลกขนาดนี้ และทำร้ายจิตใจญาติวีรชน 6 ตุลา ผมจึงขอเรียกร้องให้สังคม ร่วมกันช่วยชำระประวัติศาสตร์ด้วย ร่วมกันเรียกร้องต่อรัฐบาลชุดนี้ เพื่อให้เหตุการณ์นี้มีบรรทัดฐานอย่างน้อยที่สุดก็ “ความจริง” ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย