ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - กรรมการอิสลามประจำสงขลา ระบุพร้อมให้ความร่วมมือภาครัฐด้านการสมานฉันท์ หวัง มท.1 รัฐบาลใหม่ที่กระหายจะเป็นรัฐมนตรี จะช่วยแก้ปัญหาชายแดนใต้ให้สงบได้โดยเร็ว
นายอิสมาแอล หมินหวัง กรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา เขตอำเภอจะนะ กล่าวว่า เรื่องของความสมานฉันท์ ความจริงภาครัฐเองมีการเข้าถึงผู้นำศาสนา โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอชายแดนจังหวัดสงขลา ผ่านทางโครงการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่เราจะสมานฉันท์กัน ปรับความเข้าใจ และเป็นความพยายามของผู้ที่เกี่ยวข้องที่จะให้ผู้นำศาสนา ทราบถึงนโยบายของภาครัฐว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร
ทั้งนี้ ผู้นำศาสนาเองก็พร้อมที่จะสนองนโยบาย ถึงแม้ว่าจะไม่ 100% ทีเดียว เพราะต้องเข้าใจว่า ผู้นำศาสนาแต่ละคนมีพื้นฐานไม่เท่ากัน แต่จะพยายามสานต่องานของภาครัฐ ในการแก้ปัญหาเพราะพวกเราก็รักประเทศไทยเหมือนกัน เนื่องจากผู้นำศาสนาเป็นผู้นำจิตวิญญาณมีผลในการอบรมเยาวชนระดับรากหญ้า
นายอิสมาแอล กล่าวต่อไปว่า ในส่วนความต้องการของผู้นำศาสนา สิ่งสำคัญที่สุด ณ วันนี้ เราอยากให้มีโครงการอะไรก็แล้วแต่ ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ไม่อยากทำเป็นเฉพาะกิจ หรือนึกอะไรขึ้นมาได้ก็ทำกัน อยากจะให้มีการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการต่างๆ ที่เป็นระบบมากกว่านี้
ในขณะเดียวกันผู้นำศาสนา ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง น่าจะมีการแต่งตั้งให้ใครเป็นผู้รับผิดชอบและประสาน เพื่อทำให้งานต่อเนื่อง ไม่ใช่ว่าจะต้องมานับ 1 ใหม่เหมือนเช่นที่ผ่านมา เมื่อเกิดเหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่ เพราะฉะนั้น ขอให้นโยบายระดับเบื้องบน จะต้องชัดเจนมากกว่านี้
“ในส่วนของความคาดหวังรัฐบาลใหม่ เนื่องจากประชาชนได้เลือกนายกรัฐมนตรีเข้ามาแล้ว ต้องยอมรับว่า เป็นคนที่มีความสามารถ เราอย่าไปมองในภาพที่พยากรณ์ไปก่อน บุคคลในรัฐบาลมีความสามารถหลายท่าน
โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ ท่านกระหายที่จะเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย ก็คงเป็นความหวังของประชาชนภาคใต้ของเรา ในการที่จะรับนโยบายดี ๆให้กับพวกเรา ซึ่งจะต้องร่วมแก้ไขปัญหาต่อไป.
นายอิสมาแอล หมินหวัง กรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา เขตอำเภอจะนะ กล่าวว่า เรื่องของความสมานฉันท์ ความจริงภาครัฐเองมีการเข้าถึงผู้นำศาสนา โดยเฉพาะใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอชายแดนจังหวัดสงขลา ผ่านทางโครงการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่เราจะสมานฉันท์กัน ปรับความเข้าใจ และเป็นความพยายามของผู้ที่เกี่ยวข้องที่จะให้ผู้นำศาสนา ทราบถึงนโยบายของภาครัฐว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร
ทั้งนี้ ผู้นำศาสนาเองก็พร้อมที่จะสนองนโยบาย ถึงแม้ว่าจะไม่ 100% ทีเดียว เพราะต้องเข้าใจว่า ผู้นำศาสนาแต่ละคนมีพื้นฐานไม่เท่ากัน แต่จะพยายามสานต่องานของภาครัฐ ในการแก้ปัญหาเพราะพวกเราก็รักประเทศไทยเหมือนกัน เนื่องจากผู้นำศาสนาเป็นผู้นำจิตวิญญาณมีผลในการอบรมเยาวชนระดับรากหญ้า
นายอิสมาแอล กล่าวต่อไปว่า ในส่วนความต้องการของผู้นำศาสนา สิ่งสำคัญที่สุด ณ วันนี้ เราอยากให้มีโครงการอะไรก็แล้วแต่ ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ไม่อยากทำเป็นเฉพาะกิจ หรือนึกอะไรขึ้นมาได้ก็ทำกัน อยากจะให้มีการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการต่างๆ ที่เป็นระบบมากกว่านี้
ในขณะเดียวกันผู้นำศาสนา ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง น่าจะมีการแต่งตั้งให้ใครเป็นผู้รับผิดชอบและประสาน เพื่อทำให้งานต่อเนื่อง ไม่ใช่ว่าจะต้องมานับ 1 ใหม่เหมือนเช่นที่ผ่านมา เมื่อเกิดเหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่ เพราะฉะนั้น ขอให้นโยบายระดับเบื้องบน จะต้องชัดเจนมากกว่านี้
“ในส่วนของความคาดหวังรัฐบาลใหม่ เนื่องจากประชาชนได้เลือกนายกรัฐมนตรีเข้ามาแล้ว ต้องยอมรับว่า เป็นคนที่มีความสามารถ เราอย่าไปมองในภาพที่พยากรณ์ไปก่อน บุคคลในรัฐบาลมีความสามารถหลายท่าน
โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยคนใหม่ ท่านกระหายที่จะเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย ก็คงเป็นความหวังของประชาชนภาคใต้ของเรา ในการที่จะรับนโยบายดี ๆให้กับพวกเรา ซึ่งจะต้องร่วมแก้ไขปัญหาต่อไป.