xs
xsm
sm
md
lg

นักวิชาการ ชี้ “หมัก” นั่งควบ กห.หวังสร้างฐานอำนาจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นักวิชาการห่วง รมต.นอมินี หาคนช่วยงานที่ไม่ถนัด “โคทม” หวั่นจะให้เรียนรู้งานตั้งแต่ ก.ไก่ ก็คงยาก แนะต้องรู้จักใช้คนให้เป็นชดเชยกับสิ่งที่ รมต.ขาดไป ขณะที่อาจารย์จุฬาฯ ชี้ สมัครควบกลาโหมหวังสร้างฐานอำนาจ


วันนี้ (6 ก.พ.) นายโคทม อารียา ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) ให้ความเห็นเกี่ยวกับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ว่า ตนยังเป็นห่วงอยู่ว่ารัฐมนตรีบางคนจะเหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่หรือไม่ ได้แต่คาดหวังว่า ผู้ที่เข้ามาทำงานจะมีความสามารถในการใช้คนทำงานเป็น โดยจะต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในภาระงานต่างๆ ที่ต้องรับผิดชอบเข้ามาช่วยงานที่รัฐมนตรีไม่ถนัดและจะให้บางคนมาเริ่มต้นงานตั้งแต่ ก.ไก่ ก็คงยาก

“รัฐมนตรีกระทรวงไหนรู้ว่าไม่เคยสัมผัสงานมาก่อน มีอาชีพ มีประสบการณ์ หรือเล่าเรียนมาอีกอย่าง ก็ต้องคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนอัจฉริยะเหมือนในรัฐบาล พล.อ.เปรม ที่ท่านรู้จักใช้คน เพราะยอมรับว่าตัวเองไม่ได้รู้ไปเสียหมด แต่ต้องหาคนที่เก่งและไว้ใจได้มาช่วยงาน”

เขากล่าวต่อว่า ผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเป็นนักวิชาการเสมอไป หากแต่อาจเป็นคนที่มีประสบการณ์ในด้านนั้นๆ อาจเป็นนักธุรกิจ หรือผู้ทำงานด้านประชาสังคมมาก่อนแล้วแต่ความเหมาะสม โดยอาจทำหน้าที่ให้ความเห็น คำแนะนำ หรือหากมีความสามารถในขั้นปฏิบัติการด้วยจะยิ่งดี เพื่อชดเชยกับสิ่งที่รัฐมนตรีแต่ละคนขาด รัฐมนตรีในบางกระทรวงก็ทำงานในระดับนโยบายเท่านั้น

ประธาน สป.ระบุต่อว่า ส่วนตัวเป็นห่วงการทำงานของ 3 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงมหาดไทย ซึ่งตนให้น้ำหนักว่าเป็นกระทรวงเกรดเอ ทั้งนี้ เนื่องจากกระทรวงศึกษาฯ ที่ดูแลการศึกษาของประเทศที่มีปัญหามาโดยตลอด แม้จะมีความพยายามปฏิรูปการศึกษา แต่ก็ยังต้องอาศัยความเร่งรัดและจริงจัง ในขณะที่กระทรวงต่างประเทศ อยู่ในฐานะโฆษกของประเทศที่ต้องสร้างความเชื่อถือให้กับอีกร้อยกว่าประเทศ มีภาระหน้าที่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่จำต้องพึ่งพาการนำเข้าส่งออกในขณะนี้ รวมถึงจะต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้านโดยเฉพาะมาเลเซียและพม่าเพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนของทั้งสองฝ่าย

นายโคทม กล่าวอีกว่า สำหรับกระทรวงมหาดไทยนั้นจะต้องเจอกับเรื่องท้าทายหลายประการ เพราะขณะนี้มีกฎหมายองค์กรชุมชนบังคับใช้แล้ว กระทรวงมหาดไทยจะต้องหันมาส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างจริงจัง ในขณะที่ก่อนหน้านี้ค่อนข้างจะให้น้ำหนักกับการปกครองส่วนท้องที่เสียมากกว่า

ด้าน นายปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงหน้าตาของรัฐมนตรีชุดใหม่ โดยเฉพาะงานด้านความมั่นคงที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีนั่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอีกตำแหน่งหนึ่งว่า ถือว่าเป็นการที่พลเรือนมานั่งตำแหน่งนี้เป็นคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย โดยมีปัจจัยเกื้อหนุนจากการที่พรรคพลังประชาชนได้เข้ามาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการรัฐประหาร การเข้ามานั่งในตำแหน่งนี้ของตัวนายสมัครเองก็เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้ทหารทำการยึดอำนาจอีกครั้ง โดยหลังจากนี้รัฐมนตรีพลเรือนจะเข้ามาทำหน้าที่ถ่วงดุลโดยการปรับโยกย้าย ซึ่งอาจดึงเอาให้นายทหารอีกขั้วหนึ่งเข้ามามีบทบาทมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม นายปณิธาน ระบุด้วยว่า เนื่องจากมีกฎหมายฉบับใหม่ที่จะบังคับใช้ในรัฐบาลชุดนี้ 2 ฉบับ ได้แก่ กฎหมายความมั่นคงภายใน และกฎหมายจัดระเบียบบริหารราชการกลาโหมที่อาจทำให้ฝ่ายการเมืองและฝ่ายทหารทำงานร่วมกันได้ใกล้ชิดและราบเรียบขึ้นกว่าก่อนหน้านี้

นายปณิธาน ตั้งข้อสังเกตว่า การที่ นายสมัคร เข้าควบตำแหน่ง รมว.กลาโหม อีกตำแหน่งนั้นก็เพื่อสร้างฐานอำนาจของตัวเองขึ้นมา เพราะตัวเองไม่ได้มีกลุ่มทางการเมืองหนุนหลัง การเป็นรัฐมนตรีกลาโหมก็เท่ากับมีแขนขาที่พร้อมจะอาสาเข้ามาช่วยเหลือ โดยผู้ที่เข้ามาใกล้ชิดก็จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ทั้งนี้ รัฐมนตรีกลาโหมที่เป็นพลเรือนซึ่งมีความเชี่ยวชาญไม่มาก ในขณะที่เวลาก็มีน้อยเพราะตัวเองต้องรับผิดชอบงานกว้างขวางในฐานะนายกรัฐมนตรี จึงน่าจะต้องมีรัฐมนตรีช่วยหรือไม่ก็มีคณะที่ปรึกษา

“คณะเสนาธิการของรัฐมนตรีจะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีที่จะต้องคอยประสานงานกับนายทหารในส่วนต่างๆ”
กำลังโหลดความคิดเห็น