“วิจิตร” อัด สช.ไม่ดูแลโรงเรียนกวดวิชาเถื่อน ปล่อยให้เอารัดเอาเปรียบนักเรียน สั่งให้คน สช.ศึกษากฎหมายฉบับใหม่ และนำไปใช้กำจัดโรงเรียนกวดวิชาเถื่อนด่วน พร้อมสั่งการเร่งพัฒนาบุคลากรครูให้มีคุณวุฒิปริญญาตรี เพราะขณะนี้ยังมีครูที่ไม่จบปริญญาตรีกว่า 30,000 คน
นายวิจิตร ศรีสอ้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกรณีมีโรงเรียนกวดวิชาเถื่อน ว่า ปัญหานี้เกิดกลไกการตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) หละหลวม ตรวจสอบไม่ทั่วถึง ทำให้โรงเรียนกวดวิชาเหล่านี้เอารัดเอาเปรียบนักเรียน และในฐานะที่ สช.มีหน้าที่ดูแลเรื่องนี้โดยตรง ต้องเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ เพราะกฎหมายใหม่ของ สช.นั้นมีบทลงโทษค่อนข้างรุนแรงเมื่อเทียบกับกฎหมายฉบับเดิม
ดังนั้น เจ้าหน้าที่ของ สช.ต้องลงพื้นที่ตรวจสอบ โรงเรียนแห่งไหนไม่มีใบอนุญาต เปิดโอกาสให้เขามาขึ้นทะเบียน ถ้าให้เวลาแล้วยังไม่มาขึ้นทะเบียนก็ดำเนินการตามกฎหมาย นอกจากนี้ จะต้องตรวจสอบครูผู้สอนทุกคนด้วยว่า มีใบประกอบวิชาชีพครู หรือไม่ เพราะทุกวันนี้ไม่ใช่มีโรงเรียนกวดวิชาเถื่อนเท่านั้น ยังมีครูเถื่อนด้วย
“กฎหมายใหม่ของ สช.ประกาศใช้แล้ว เพราะฉะนั้น เจ้าหน้าที่จะต้องศึกษากฎหมายแล้วนำไปปฏิบัติ อย่าให้มีข้อบกพร่องในหน้าที่”
นายวิจิตร กล่าวในประเด็นนโยบายครุสภา ว่า ตนฝากนโยบายแก่คุรุสภาให้ดำเนินการต่อ โดยให้เร่งพัฒนาบุคลากรให้มีคุณวุฒิปริญญาตรี เพราะขณะนี้ยังมีครูที่ไม่จบปริญญาตรีกว่า 30,000 คน
นอกจากนี้ ยังมีครูที่สอนไม่ตรงวุฒิ 30,000 คน และยังมีปัญหาเรื่องมาตรฐานผู้บริหารกับศึกษานิเทศก์ ลักลั่นกันอยู่ โดยศึกษานิเทศก์จบปริญญาโท แต่ผู้บริหารจบปริญญาตรี เพราะฉะนั้น จะต้องมีการพัฒนามาตรฐานวิชาชีพของผู้บริหารให้จบปริญญาโท เรื่องนี้อาจจะทไม่ได้ในทันที แต่ในอนาคตต้องทำมาตรฐานนี้ให้เท่ากัน
นอกจากนี้ ยังฝากให้คุรุสภาดูแลเรื่องคุณภาพของการบริการ เมื่อยกฐานะของวิชาชีพครูให้เป็นวิชาชีพชั้นสูง ประชาชนเขาหวังว่าครูให้บริการที่ดีแก่บุตรหลาน รวมถึงเพิ่มคุณภาพการศึกษาด้วย ถ้ายกฐานะวิชาชีพครูแล้วแต่คุณภาพการศึกษายังไม่ดีขึ้น ก็ไม่สมกับที่มีการยกฐานะวิชาชีพครู
และขอให้ดูแลเรื่องการผลิตครูใหม่ แม้มีหลักสูตร 5 ปี แต่ตามมาตรฐานต้องมีการติดตามผลว่า เมื่อจบแล้ว ผลเป็นอย่างไร เพื่อให้ได้ตามจุดมุ่งหมาย เพื่อดึงดูดคนดี คนเก่ง ให้มาเรียนครู และเมื่อจบแล้ว มีคุณภาพดี สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งการมีสถาบันที่พัฒนาในลักษณะต่อยอดในบางเรื่องตามลักษณะวิชาชีพ