xs
xsm
sm
md
lg

กกต.ยัน “ประชัย” พ้นสมาชิก มฌ.ไม่เกี่ยวคดียุบพรรค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สดศรี” แจงมติให้อนุบาลการเมืองพ้นสมาชิก มฌ.ไม่มีผลทำให้พรรคหลุดรอดคดียุบพรรค แม้จะมีกรรมการบริหารชุดใหม่ เพราะถือว่าความผิดฐานทุจริตสำเร็จแล้ว สุดท้ายคงต้องไปสู้กันที่ชั้นศาล

วันนี้ (1 ก.พ.) นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณี กกต.มีมติให้นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคมัชฌิมาธิปไตย ส่งผลให้ต้องพ้นจากหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย (มฌ.) โดยปริยายว่า หลังจากนี้นายประชัยจะต้องส่งรายงานทางการเงินให้ กกต.ทราบภายใน 30 วัน นับจากวันที่ กกต.มีมติตอบข้อหารือ และพรรคต้องดำเนินการจัดประชุมใหญ่เพื่อหาหัวหน้าพรรคคนใหม่ และส่งรายงานการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคให้ กกต.รับทราบภายใน 45 วัน ซึ่งแรกทีเดียวจะต้องนับจากวันที่หัวหน้าพรรคฯ พ้นสภาพการเป็นหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรคแล้วซึ่งก็คือนับจากวันที่ 4 ธ.ค.50 แต่กรณีนี้นายทะเบียนพรรคการเมือง อาจจะมองว่าพรรคดังกล่าวค่อนข้างจะมีปัญหาภายใน จึงอาจจะยืดเวลาด้วยการให้ส่งรายงานการประชุมการเปลี่ยนแปลงกรรมการบริหารพรรคโดยให้ส่งภายใน 45 วันนับจากวันที่ กกต.มีมติตอบข้อหารือคือวันที่ 31 ม.ค. 51

นางสดศรี กล่าวอีกว่า ระหว่างนี้นายประมวล เลี่ยวไพรัตน์ รองหัวหน้าพรรคคนที่ 1 จะเป็นผู้รักษาการแทนหัวหน้าพรรค แต่ถ้ากระบวนการการประชุมพรรคเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกระบวนการรายชื่อบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ไม่มีนายประมวลร่วมอยู่ด้วยนั้นก็ต้องไปดูว่าข้อบังคับพรรคเขียนเปิดช่องไว้หรือไม่ หากข้อบังคับเปิดช่องไว้ก็ไม่มีปัญหา

ส่วนกรณีที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาฯ ออกมาระบุว่าการที่นายประชัยพ้นหัวหน้าพรรคก่อนเลือกตั้ง และนายสุนทร วิลาวัลย์ รองหัวหน้าพรรคฯ ที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งจะเป็นผลดีต่อการพิจารณาเรื่องยุบพรรค เพราะถือว่านายสุนทรพ้นจากกรรมการบริหารพรรคไปแล้วนั้น นางสดศรี กล่าวว่า การพิจารณาเรื่องยุบพรรคมัชฌิมาฯ ถือเป็นคนละประเด็นกับการให้นายประชัยพ้นจากการเป็นหัวหน้าพรรค แม้จะมีการดำเนินการประชุมเพื่อเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรคใหม่แล้ว แต่การกระทำของนายสุนทรในฐานะเป็นกรรมการบริหารพรรคก็ยังอยู่ เพราะถือว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นแล้ว จนส่งผลให้ กกต.มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง

“เมื่อพรรคมัชฌิมาธิปไตยมีการประชุมเพื่อเปลี่ยนหัวหน้าพรรคใหม่และเปลี่ยนกรรมการบริหารชุดใหม่ โดยสมมุติว่า นายสุนทรอาจจะไม่ได้เป็นรองหัวหน้าพรรคต่อไป แต่ความผิดของนายสุนทรในฐานะกรรมการบริหารพรรคก็ยังอยู่ หาก กกต.สอบสวนจนได้ข้อเท็จจริงว่าสมควรยุบพรรค และส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการยุบพรรคก็ต้องไปสู้กันศาล เพราะประเด็นนี้แล้วแต่การตีความของศาลรัฐธรรมนูญ”
กำลังโหลดความคิดเห็น