กกต.แจงเหตุ คกก.ชุด “บุญทัน” สอบยุบทั้ง มฌ.-ชท.เนื่องจากลักษณะการกระทำผิดใกล้เคียงกัน เชื่อผลสอบจะได้มาตรฐานเดียวกันค าด 2 สัปดาห์รู้ผล ขณะที่ “ปริญญา” ปฏิเสธร่วมนั่งเป็นกรรมการ ไม่กระทบผลสรุปสำนวน
วันนี้ (1 ก.พ.) นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านพรรคการเมือง กล่าวว่า การที่ กกต.มีมติให้คณะอนุกรรมการสอบสวนกรณียุบพรรคมัชฌิมาธิปไตย สอบยุบพรรคชาติไทยด้วยก็เนื่องจากเห็นว่าคนที่กระทำผิดของทั้ง 2 พรรคมีตำแหน่งเป็นกรรมการบริหารพรรคเหมือนกัน อีกทั้งหากใช้คนละชุด ถ้าแต่ละคณะสรุปผลสวนทางกันก็จะเป็นปัญหาต่อ กกต.ภายหลัง อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวประเมินแล้วเห็นว่าผลสรุปของคณะกรรมการฯ จะไม่แตกต่างจากมติ กกต.และมติคณะกรรมการกฤษฎีกา
“โดยเบื้องต้นคณะอนุกรรมการได้รายงานให้ทราบว่าจะใช้เวลาสรุปสำนวนการยุบพรรคมัชฌิมาเต็มที่ประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนส่ง กกต.ลงมติเสนอให้อัยการสูงสุดและส่งศาลรัฐธรรมนูญต่อไป แต่ในส่วนของพรรคชาติไทยคาดว่าคณะอนุกรรมการจะใช้เวลาพิจารณาเสร็จใกล้เคียงกัน”
สำหรับคณะกรรมการสอบสวนขณะนี้เหลือ 4 คน จากทั้งหมด 5 คน ได้แก่ นายบุญทัน ดอกไธสง เป็นประธาน, พล.ต.อ.มีชัย นุกูลกิต, นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ และนายธนินทร์ ศรีประเทศ ส่วนนายปริญญา เทวานฤมิตกุล ได้ขอปฏิเสธที่จะร่วมเป็นกรรมการ โดยให้เหตุผลว่าไม่ว่าง แต่ทั้งนี้นายสดศรียืนยันว่าแม้กรรมการจะเหลือ 4 คนก็จะไม่กระทบต่อสำนวนการพิจารณา เนื่องจากการสรุปผลการสอบสวนของคณะอนุกรรมการไม่จำเป็นต้องลงมติ
นางสดศรี สัตยธรรม กกต.ด้านพรรคการเมือง ยังชี้แจงกรณีที่ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ระบุว่า การที่ กกต.มีมติสั่งนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ พ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคและสมาชิกพรรค เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันก่อนที่มีการเลือกตั้ง ทำให้พรรคเห็นว่ามติของ กกต.อาจทำให้พรรครอดพ้นจาการถูกยุบพรรค เพราะเท่ากับว่านายสุนทร วิลาวัลย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรค ก็ไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรคว่า เป็นคนละประเด็นกัน แม้ กกต.จะให้นายประชัยพ้นสภาพและต้องเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคใหม่ แต่การกระทำของนายสุนทรที่เกิดขึ้นยังถือว่าทำในตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคอยู่ ถือว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นแล้ว จนส่งผลให้ กกต.มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง แต่ทั้งหมดนี้ กกต.จะให้โอกาสสุดท้ายกับพรรคที่อาจจะถูกยุบ เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการสอบสวนที่มีนายบุญทัน ดอกไทสง เป็นประธาน
นายปริญญา เทวานฤนิตรกุล เปิดเผยว่า ตนยังไม่เห็นคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นคณะอนุกรรมการตรวจสอบดังกล่าว รวมทั้งยังไม่เคยได้รับการทาบทามก่อนที่จะมีคำสั่งดังกล่าวออกมา จึงอยากจะดูคำสั่งก่อน แต่เบื้องต้นทราบว่ามีภาระหน้าที่ต้องตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริง รวมถึงพยานหลักฐานและปากคำทุกฝ่าย จึงเกรงจะไม่มีเวลาเพียงพอที่จะรับภาระหน้าที่ดังกล่าวได้ เนื่องจากมีงานประจำทางวิชาการและงานบริหาร ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รวมทั้งยังป็นกรรมการตรวจสอบหอพรรคนักศึกษาของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่งของมนุษย์ด้วย
“กรรมการชุดที่จะมีการแต่งตั้งนี้แตกต่างจากกรรมการชุดตรวจสอบหอพักนักศึกษา เพราะต้องมารับฟังปากคำพยานเองทุกครั้ง ขณะที่การตรวจหอพักมีเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการเสร็จแล้วค่อยมาถามความเห็นของคณะกรรมการจึงใช้เวลาน้อยกว่า ส่วนตัวจึงคิดว่าที่เป็นกรรมการด้านกิจการพรรคการเมืองและออกเสียงประชามติของ กกต.ช่วยวางรากฐานเกี่ยวกับพรรคการเมืองก็อยู่ในวิสัยที่พอจะทำได้ แต่ถ้าเป็นชุดที่แต่งตั้งใหม่คงไม่มีเวลาที่เพียงพอ”