อดีต กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ แฉอีกปม “หมัก” ส่อต้องห้ามเป็นนายกฯ เหตุพ้นจากตำแหน่ง ส.ว.ไม่ถึง 2 ปี แนะชะลอทูลเกล้าฯ รายชื่อ ครม.แล้วให้ ส.ส.เข้าชื่อยื่นตุลาการ รธน.ตีความ ด้าน “พลังแม้ว” ฉุนจัดออกใบปลิวด่าอาจารย์ มสธ.ยับ
นายคมสัน โพธิ์คง อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ในฐานะอดีตกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ให้สัมภาษณ์รายการ “ชั่วโมงข่าวบ่าย 3” ทางเอเอสทีวี เมื่อวันที่ 31 ม.ค.เกี่ยวกับคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรีของ นายสมัคร สุนทรเวช ว่า นายสมัครน่าจะขาดคุณสมบัติ ตามมาตรา 174(6) ของรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งระบุว่า “ไม่เป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือเคยเป็นสมาชิกวุฒิสภาซึ่งสมาชิกภาพสิ้นสุดลงมาแล้ว ยังไม่เกินสองปีนับถึงวันที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี”
ทั้งนี้ นายสมัคร เคยเป็น ส.ว.จากการเลือกตั้งเมื่อเดือน เม.ย.2549 และพ้นจากตำแหน่งเมื่อมีการรัฐประหารวันที่ 19 ก.ย.2549 ดังนั้น หากนับจนถึงวันที่นายสมัครเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จึงยังไม่ถึง 2 ปี ถือว่านายสมัครมีคุณสมบัติต้องห้ามตามมาตราดังกล่าว
กรณีนี้เมื่อดูตามบทเฉพาะกาล ของรัฐธรรมนูญ ปรากฏว่า มาตรา 298 ได้ยกเว้นการนำมาตรา 174 มาใช้ เฉพาะกรณีการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่บริหารราชการแผ่นดินอยู่ในวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญนี้ ซึ่งหมายถึงรัฐบาลชุด พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เท่านั้น ไม่ได้รวมถึงรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งวันที่ 23 ธ.ค.ด้วย
จากปัญหาดังกล่าว นายคมสัน กล่าวว่า ควรจะมีการชะลอการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรีออกไปก่อน เนื่องจากตัวนายกรัฐมนตรีมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ แล้วให้ ส.ส.เข้าชื่อกันเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
ทั้งนี้ นอกจาก นายสมัคร จะมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติตามมาตรา 174(6) แล้ว นายสมัครยังมีปัญหาตามมาตรา 174(5) เนื่องจากเคยถูกคำพิพากษาจำคุกโดยไม่รอลงอาญา เป็นเวลา 2 ปี ในคดีหมิ่นประมาท นายสมารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม.ซึ่ง นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่น เตรียมจะยื่นร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินให้เสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญทำการวินิจฉัยในเร็วๆ นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การแสดงความคิดเห็นของ นายคมสัน ทำให้คนในพรรคพลังประชาชนไม่พอใจอย่างมาก ถึงขั้นทำใบปลิวโจมตี นายคมสัน อย่างรุนแรงว่าลิ้มรสเผด็จการจนลืมความเป็นอาจารย์ ตีความกฎหมายเข้าข้างตัวเอง ซึ่งใบปลิวดังกล่าว นายบุญยงค์ จรัสจรูญฤทธิ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 พรรคพลังประชาชน จ.สุราษฎร์ธานี ได้นำมาแจกจ่ายด้วยตัวเองที่พรรคพลังประชาชน วันนี้ (31 ม.ค.)
เนื้อหาในใบปลิวอ้างว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มีบทเฉพาะกาล มาตรา 305(2) ระบุว่า ภายใต้บังคับมาตรา 296 วรรค 3 มิให้นำบทบัญญัติมาตรา 102(10) เฉพาะในส่วนที่เคยเป็น ส.ว.มาตรา 115(9) และมาตรา 116 วรรค 2 มาบังคับใช้กับการเลือกตั้ง ส.ส.และการดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญนี้
นอกจากนี้ ยังอ้างว่า นายสมัคร ไม่เคยพูดยอมรับว่าเคยเป็น ส.ว.มา 5 เดือน เคยกล่าวแต่เพียงว่า เป็นผู้เสียหายจากการยึดอำนาจเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับมาตรา 305 นั้น เป็นบทเฉพาะกาลเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้สมัคร ส.ส.และ ส.ว.ไม่เกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีแต่อย่างใด
