xs
xsm
sm
md
lg

กกต.ลงมติ “ประชัย” พ้นสภาพหัวหน้าพรรค มฌ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ประชัย” ผีซ้ำด้ามพลอย กกต.ชี้พ้นสมาชิกพรรคมฌ.ตั้งแต่ 4 ธ.ค. ส่งผลให้ต้องหลุดจากสถานะหัวหน้าพรรค “ประพันธ์” ระบุถึงไม่มีหนังสือลาออกตัวจริง แต่จากปากคำพยานสอดรับกันมีการยื่นหนังสือลาออก แม้เปลี่ยนใจ ก็ไม่ทำให้ผลตามกม.สิ้นสุดลง

วันนี้ (31 ม.ค.) นาย ประพันธ์ นัยโกวิท กรรมการการเลือกตั้ง กล่าวภายหลังการประชุม กกต.ว่า ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นว่า นาย ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย ได้พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรค นับตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค. 50 ที่นายประชัย ได้ยื่นหนังสือลาอกต่อนาย ธนพร ศรียางกูร รองหัวหน้าพรรค ในฐานะทะเบียนสมาชิกพรรคมัชฌิมาธิปไตย ซึ่งเมื่อความเป็นสมาชิกพรรคสิ้นสุดลง ก็ส่งผลให้สถานภาพการเป็นหัวหน้าพรรคของนายประชัย สิ้นสุดลงไปด้วย

ทั้งนี้ นาย ประพันธ์ ยืนยันว่า การที่ กกต.มีมติดังกล่าวไม่ได้เป็นเพราะเกรงจะมีปัญหาทางการเมืองเกิดขึ้น เกี่ยวกับการที่พรรคมัชฌิมาธิปไตยมีมติ ในการเสนอชื่อบุคคลไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี แต่เป็นการพิจารณาไปตามพยานหลักฐานและข้อกฎหมาย ซึ่งในชั้นการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ มีทั้งพยานแวดล้อม และนายธนพร ที่เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค ก็ยืนยันว่า นายประชัย ได้ยื่นหนังสือลาออกในวันดังกล่าวจริง ซึ่งตามมาตรา 20 วรรค 2 ของพ.ร.บ.พรรคการเมือง ก็ได้บัญญัติว่า ความเป็นสมาชิกพรรคจะมีผลโดยสมบูรณ์เมื่อได้ยื่นใบลาออกต่อนายทะเบียนสมาชิกพรรค

“แม้ไม่มีหนังสือลาออกที่เป็นต้นฉบับตัวจริงก็ไม่เป็นปัญหา เพราะเมื่อนายทะเบียนฯ และพยานแวดล้อมยืนยัน ก็ถือได้ว่าความเป็นสมาชิกพรรคของนายประชัยสิ้นสุดแล้ว ส่วนพยานที่มาให้ปากคำอาจเป็นฝ่ายตรงข้ามกับนายประชัย เห็นว่า การให้ปากคำต่อคณะกรรมการสืบสวนฯ ถือว่าเป็นการให้การต่อเจ้าพนักงาน หากให้การเท็จก็มีสิทธิถูกดำเนินคดีอาญา”

เมื่อถามว่า หากการลาออกของนายประชัย มีผลเมื่อ 4 ธ.ค.50 ก่อนการเลือกตั้ง การหาเสียงในฐานะหัวหน้าพรรคของนายประชัย เข้าข่ายหลอกลวงให้เกิดความเข้าใจผิดหรือไม่ นายประพันธ์ กล่าวว่า กรณีนี้เป็นการตอบในข้อหารือ ที่พรรคมัชฌิมาธิปไตย สอบถามมาว่านายประชัย ยังมีสถานะเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่ กกต.จึงไม่ได้พิจารณาในประเด็นอื่นๆ รวมไปถึงไม่ได้พิจารณาว่า การพ้นจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคของนายประชัยจะมีผลต่อการเสนอชื่อบุคคลไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคมัชฌิมาธิปไตยหรือไม่ ซึ่งต้องไปดูข้อบังคับของพรรคมัชฌิมาธิปไตย ว่าการดำเนินการเสนอชื่อบุคคลไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ใครจะเป็นผู้มีอำนาจดำเนินการต่อไป

ส่วนนายประชัย จะสามารถยื่นอุทธรณ์ได้หรือไม่ นายประพันธ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเพียงการตอบข้อหารือ ซึ่งในที่นี่ถือว่ายุติแล้ว แต่หากว่านายประชัยมองว่าไม่ถูกต้อง ก็ต้องไปใช้สิทธิในการฟ้องร้องเอา

ด้านนาง สดศรี สัตยธรรม กกต. ด้านกิจการพรรคการเมือง กล่าวว่า ในการสอบปากคำพยาน 14 ปาก ทั้งฝ่ายนายธนาพร ผู้ร้องและนายทะเบียนพรรคการเมือง และพยานฝ่ายนายประชัย และพยานคนกลาง 2 ปาก คือ นาย สุนทร วิลาวัลย์ และพล.ต. อินทรัตน์ ยอดบางเตย ต่างก็ยืนยันว่านายประชัย ได้ยื่นใบลาออกให้นายธนพรแล้ว เท่ากับว่านายประชัย ได้แสดงเจตนาลาออกจากพรรคมัชฌิมาธิปไตยแล้ว ดังนั้นในช่วงเย็นวันเดียวกันนี้นาย อภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง จะแจ้งมติกกต.ไปยังพรรคมัชฌิมาธิปไตยทราบ และจากนี้พรรคจะต้องมีการประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ รวมทั้งต้องส่งหนังสือแจ้งกลับมาที่กกต.ภายใน 15 วัน หากพรรคไม่แจ้งกลับมา อาจมีความผิดถึงขั้นยุบพรรคการเมืองได้ ตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง

ส่วนปัญหาเรื่องการส่งรายชื่อบุคคลไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ก็เป็นเรื่องที่พรรคจะต้องดูให้เป็นไปตามมติพรรค ว่าเลขาธิการ คือนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน หรือนายธนพร มีสิทธิ์ในการส่งรายชื่อสมาชิกดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีได้หรือไม่ หากมติพรรคมีบอกว่า ให้เลขาธิการพรรค หรือนายทะเบียนพรรคการเมืองรับผิดชอบเรื่องการส่งรายชื่อแทนหัวหน้าพรรคได้ ก็ไม่มีปัญหา แต่หากมติพรรคไม่ได้อนุญาต แล้วทั้ง 2 คนมีการส่งรายชื่อคนเป็นรัฐมนตรีไปแล้ว ก็ต้องรอให้คนร้องเข้ามาก่อน กกต.ถึงจะพิจารณาว่าสามารถส่งรายชื่อรัฐมนตรี หรือที่ส่งไปแล้วจะมีปัญหาหรือไม่

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับผลการสอบสวนที่ทำให้ กกต.มีมติเป็นเอกฉันท์ ชี้ว่า นายประชัย พ้นจากสมาชิกพรรค เนื่องจากนายประชัย ก็ได้ให้ปากคำต่อคณะกรรมการสอบสวนว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจริง โดยให้ภรรยาเป็นผู้นำไปให้นาง อนงค์วรรณ เทพสุทิน เลขาธิการพรรค และเมื่อสอบพยานปากอื่น ก็ระบุว่า เมื่อนางอนงค์วรรณได้ลงนามรับรองหนังสือลาออกของนายประชัยแล้ว ก็ได้ส่งเอกสารไปให้ นายธนพร ที่เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรคฯ โดยนายธนพร ได้มีการเซ็นรับและสำเนาเอกสารเก็บไว้ โดยนำต้นฉบับตัวจริงมอบให้เจ้าหน้าที่ของพรรคไปดำเนินการเพื่อที่จะยื่นมายังนายทะเบียนพรรคการเมือง ของ กกต.เพื่อแจ้งถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว แต่ปรากฎว่า นายประชัยเกิดเปลี่ยนใจและมีการขอหนังสือลาออกต้นฉบับกลับคืนไป

“ตรงนี้นายทะเบียนพรรคการเมืองเห็นว่าตามมาตรา 20 วรรค 2 ของพ.ร.บ.พรรคการเมือง บัญญัติว่า ความเป็นสมาชิกพรรคจะมีผลโดยสมบูรณ์เมื่อได้ยื่นใบลาออกต่อนายทะเบียนสมาชิกพรรค ดังนั้นเมื่อผลการสอบสวน สอดรับกันทุกฝ่ายว่ามีการยื่นหนังสือลาออกดังกล่าวจริง ก็ถือว่านายประชัย พ้นจากการเป็นสมาชิกพรรคโดยสมบูรณ์ และเมื่อพ้นจากสมาชิกพรรคก็ทำให้ต้องพ้นจากสถานการณ์เป็นหัวหน้าพรรคไปโดยปริยาย”
กำลังโหลดความคิดเห็น