xs
xsm
sm
md
lg

เอเอสทีวีชนะคดี! ศาล ปค.เพิกถอนคำสั่งกรมประชาฯ-ชดใช้อีก 1.2 แสน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“ศาลปกครองกลาง”พิพากษาให้กรมประชาฯ เพิกถอนคำสั่งให้ กสท ระงับบริการดาวเทียมแก่เอเอสทีวี พร้อมให้เพิกถอนคำสั่ง กสท ที่สั่งระงับบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของเอเอสทีวีด้วย พร้อมทั้งให้ชดใช้ค่าเสียหายทางธุรกิจอีก 1.2 แสนบาท ภายใน 60 วัน

วันที่ 31 ม.ค.2551 เวลาประมาณ 14.00 น. ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาสั่งเพิกถอนหนังสือของกรมประชาสัมพันธ์ที่ให้บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด( มหาชน) ระงับการส่งสัญญาณของสถานีโทรทัศน์ ASTV ผ่านเครือข่ายของบริษัท กสท และเพิกถอนหนังสือของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด(มหาชน) ที่แจ้งให้บริษัทอินเทอร์เน็ต เซอร์วิส โพรวายเดอร์ จำกัด (ไอเอสเอสพี) ระงับการให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแก่บริษัทไทยเดย์ ด็อทคอม จำกัด รวมทั้งชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับบริษัทไทยเดย์ฯ เป็นเงิน 120,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 31 ม.ค. 49 ที่มีการฟ้องคดี จนกว่าจะชำระเสร็จ ภายใน 60 วันนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด

ทั้งนี้ คำพิพากษาระบุถึงเหตุผลในการมีคำสั่งเพิกถอนว่า กรณีที่อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตได้มีหนังสือลงวันที่ 16 พ.ย.48 แจ้ง ผอ.สถานีโทรทัศน์ News 1 ว่าได้รับการร้องเรียนว่าสถานีวิทยุโทรทัศน์ News 1 ทำการแพร่ภาพออกอากาศรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ใช้ถ้อยคำอันระคายเคืองต่อสถาบันเบื้องสูง จงใจให้เกิดการดูหมิ่นเหยียดหยามรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยไม่ปรากฏว่าได้รับอนุญาตให้แพร่ภาพออกอากาศ แสดงว่า กรมประชาสัมพันธ์ เห็นว่า บริษัทไทยเดย์ฯ กระทำความผิดฐานส่งวิทยุกระจายเสียง หรือวิทยุโทรทัศน์เพื่อให้บริการแก่สาธารณะหรือชุมชนโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ถือเป็นความผิดทางอาญา ที่อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ต้องร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีอาญา แต่ก็กลับไม่มีการดำเนินการ ซึ่งกรมประชาสัมพันธ์ โดย นางภัทรียา สุมะโน รองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ได้มีหนังสือลงวันที่ 20 ม.ค. 49 และหนังสือลง วันที่ 24 ม.ค. 49 แจ้งให้บริษัท กสท. ระงับการส่งสัญญาณ ของบริษัทไทยเดย์ฯ ที่ผ่านเครือข่ายของ กสท. ศาลเห็นว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการกระทำที่ปราศจากอำนาจ ล่วงละเมิดต่อสิทธิตามสัญญาการเช่าใช้บริการโกลบแซ็ต ที่บริษัทไทยเดย์ ฯ มีกับ บริษัท กสทฯ ซึ่งมีลักษณะเป็นการใช้สิทธิโดยสุจริต อันเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงสมควรให้เพิกถอนหนังสือดังกล่าวเสีย

นอกจากนี้ยังเห็นว่า การที่บริษัท กสท มีการระงับการให้บริการ ตามสัญญาการเช่าใช้บริการโกลบแซ็ต แม้ต่อมาศาลปกครองกลางจะมีคำสั่งกำหนด มาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา โดยห้ามมิให้บริษัท กสท ระงับการให้บริการสื่อสารผ่านดาวเทียมโกลบแซ็ต แต่ระหว่างการระงับให้บริการ ก็ทำให้บริษัทไทยเดย์ฯ ไม่สามารถถ่ายถอดสดรายการที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นผู้ดำเนินการ และรายการอื่นๆ ส่งไปให้บริษัท เอเชีย ไทมส์ ออนไลน์ จำกัด ตามสัญญาให้ทำรายการสื่อที่หลากหลาย รวม 6 ครั้ง ซึ่งต่อมานายจิตตนาถ ลิ้มทองกุล ให้ถ้อยคำว่า บริษัท เอเชีย ไทมส์ ออนไลน์ จำกัด ได้ใช้สิทธิตามสัญญาเรียกค่าปรับจากบริษัทไทยเดย์ฯ ที่ไม่ผลิตและผลิตรายการล่าช้าตั้งวันที่ 24 ม.ค. ถึง 2 ก.พ. 49 วันละ 2 แสนบาท และค่าเสียหายจากการขาดโอกาสทางธุรกิจ และขาดความไว้วางใจจากลูกค้า เป็นเงิน 2.6 ล้านบาท จึงเห็นว่า การที่บริษัท กสทฯ ระงับการให้บริการสื่อสารผ่านดาวเทียมโกลบแซ็ต แก่บริษัทไทยเดย์ฯ ทำให้บริษัทเกิดความเสียหาย จากการที่ไม่อาจปฏิบัติตามสัญญาและข้อตกลงที่ทำกับบริษัท เอเชียไทมส์ ออนไลน์ จำกัด รวมทั้งยังทำให้นายสนธิ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการรายการเมือองไทยรายสัปดาห์สัญจรได้รับความเสียหายโดยเสียเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางที่ชอบด้วยกฎหมาย และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูด การเขียน การพิมพ์ การสื่อความหมายโดยวิธีอื่น ตามมาตรา 37 วรรคหนึ่ง และ 39 วรรคหนี่ง แห่งรัฐธรรมนูญ 2540 ที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น ดังนั้นการกระทำของกรมประชาสัมพันธ์ และรองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ดังกล่าวจึงเป็นการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมาย ทำให้เกิดความเสียหายอันเป็นกระทำละเมิดต่อผู้ฟ้องคดีทั้งหมด

ส่วนที่บริษัทไทยเดย์ฯ ขอให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งหมดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนนั้น มีข้อพิจารณาว่าบริษัทเอเชีย ไทมส์ ออนไลน์ จำกัด มีสิทธิได้รับค่าเสียหายจากการขาดโอกาสในทางธุรกิจและขาดความไว้วางใจของลูกค้าเป็นเงิน 2.6 ล้านบาท ตามที่เรียกร้องหรือไม่ ซึ่งค่าปรับและค่าเสียหายดังกล่าวเป็นความเสียหายที่บริษัท เอเชีย ไทมส์ ออนไลน์ จำกัด จะต้องพิสูจน์ว่าได้รับความเสียหายจริงหรือไม่ เพียงใด ดังนั้นความเสียหายที่บริษัทไทยเดย์ฯ อ้างในคดีนี้จึงไม่ใช่ความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง และเป็นที่ยุติแล้ว และเมื่อพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์แลความร้ายแรงแห่งละเมิดที่กรมประชาสัมพันธ์ กระทำการไม่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว เห็นสมควรให้รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บริษัทไทยเดย์ฯ โดยพิจารณาจากการที่ไม่สามารถถ่ายทอดรายการสดนอกสถานที่ได้ จำนวน 6 ครั้ง ๆ ละ 2 หมื่นบาท รวมเป็นเงิน 120,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่ทำละเมิดอันถือเป็นวันผิดนัดในอัตราร้อยละ 7.5

สำหรับที่นายจิรชัย สีจร รองกรรมการผู้จัดใหญ่ รักการในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท ขณะนั้น ได้มีหนังสือลงวันที่ 26 ม.ค. 49 แจ้งให้บริษัทอินเทอร์เน็ต เซอร์วิส โพรวายเดอร์ จำกัด ระงับการให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ตแก่บริษัทไทยเดย์ฯ โดยอ้างเหตุผลตามหนังสือของกรมประชาสัมพันธ์ จึงเป็นการดำเนินการไปโดยความเข้าใจโดยสุจริตว่าการกระทำบริษัทไทยเดย์ฯ เป็นการดำเนินการโดยผิดกฎหมาย แต่ทราบว่าทางบริษัทอินเทอร์เน็ต เซอร์วิส โพรวายเดอร์ จำกัด ไมได้ระงับการให้บริษัทอินเทอร์เน็ตแก่บริษัทไทยเดย์ ตามหนังสือดังกล่าวแต่อย่างใด จึงถือว่าหนังสือฯดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ฟ้องคดีทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามเมื่อหนังสือดังกล่าวดำเนินการไปโดยอ้างเหตุผลตามหนังสือของกรมประชาสัมพันธ์ ที่ศาลได้วินิจฉัยไว้แล้วว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายจึงสมควรต้องเพิกถอนหนังสือดังกล่าวเสีย

นายสุวัตร์ อภัยภักดิ์ ทนายความเครือ"ผู้จัดการ" และเอเอสทีวี เปิดเผยว่า ศาลปกครองมีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของกรมประชาสัมพันธ์ที่สั่งให้ กสท ระงับการให้บริการดาวเทียมโกลบแซตแก่เอเอสทีวี เพราะเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดกับหลักรัฐธรรมนูญในประเด็นสิทธิเสรีภาพการรับรู้ข่าวสารของประชาชน

ทั้งนี้ เอเอสทีวีได้ใช้บริการดาวเทียมโกลบแซ็ตในการส่งสัญญาณจากรถถ่ายทอดสดมายังห้องส่งของเอเอสทีวีที่ถนนพระอาทิตย์ ซึ่งกรมประชาสัมพันธ์ในยุคที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีได้สั่งให้ กสท ระงับบริการดังกล่าว เมื่อต้นปี 2549 ในช่วงที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการและเอเอสทีวีออกมาเคลื่อนไหวขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกจากตำแหน่ง

นายสุวัตร์ กล่าวอีกว่า ในช่วงที่มีเคลื่อนไหวขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น พ.ต.ท.ทักษิณต้องการปิดเอเอสทีวี โดยอ้างว่า มีการจาบจ้วงบ้าง สร้างความวุ่นวายบ้าง ต่างๆ นานา แต่ก็ไม่มีกฎหมายฉบับใดที่จะสั่งปิดเอเอสทีวีได้ มีอยู่อย่างเดียวคือ เอเอสทีวีใช้บริการโกลบแซ็ตในการยิงสัญญาณถ่ายทอดสดจากเวทีปราศรัยตามที่ต่างๆ เช่น สวนลุมพินี ขึ้นดาวเทียมไทยคมเพื่อส่งสัญญาณมาที่ห้องส่งถนนพระอาทิตย์ ซี่งเอเอสทีวีมีสัญญาเช่าใช้บริการโกลบแซ็ต กับ กสท กรมประชาฯ จึงสั่งไปที่ กสท ให้เลิกสัญญาดังกล่าว เพื่อไม่ให้ส่งสัญญาณจากที่ชุมนุมไปยังห้องส่งได้

“พอกรมประชาฯ สั่ง กสท ก็มาขอยกเลิกสัญญากับเรา เราก็เลยต้องฟ้องศาลปกครอง แล้วให้ศาลคุ้มครองเรา ศาลก็มีคำสั่งคุ้มครอง เราก็ทำตามคำสั่งนั้นมาเรื่อย คดีก็เดินมาเรื่อยๆ จนวันนี้ ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาว่า คำสั่งของกรมประชาฯ เป็นคำสั่งทางการปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดกับรัฐธรรมนูญในเรื่องสิทธิเสรีภาพ จึงให้เลิกคำสั่งดังกล่าว พร้อมกับให้เลิกคำสั่งของ กสท ที่สั่งให้บริษัท ไอเอสเอสพี ยกเลิกบริการอินเทอร์เน็ตที่เราใช้ส่งสัญญาณไปฮ่องกงด้วย”นายสุวัตร์กล่าว

สำหรับคำสั่งของ กสท ที่ให้บริษัท ไอเอสเอสพี ระงับการให้บริการอินเทอร์เน็ตแก่เอเอสทีวี นั้น เป็นการดำเนินการตามคำสั่งของกรมประชาสัมพันธ์ ดังนั้นจึงถือว่าไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน

ทั้งนี้ เอเอสทีวีได้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตของ ไอเอสเอสพี เพื่อส่งข้อมูลรายการจากประเทศไทยไปส่งสัญญาณอัปลิงค์ขึ้นดาวเทียม เอ็นเอสเอส 6 ที่ฮ่องกง

นายสุวัตร์ กล่าวต่อว่า คำสั่งห้ามต่างๆ ถือว่ายกเลิกหมด ซึ่งหมายความว่า ต่อไปนี้ เอเอสทีวีดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จะพูดว่าทีวีเถื่อนไม่ได้ แม้ว่ากรมประชาสัมพันธ์ได้แจ้งความดำเนินคดีเอเอสทีวีเอาไว้ในข้อหาตั้งสถานีโทรทัศน์โดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นการทำผิดกฎหมายวิทยุและโทรทัศน์ แต่เราก็สู้ในประเด็นที่ว่าเราไม่ได้ใช้คลื่นในประเทศในการส่งสัญญาณเหมือนสถานีโทรทัศน์ทั่วไป แต่เราส่งทางคลื่นอิเล็คทรอนิคส์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไปยิงขึ้นดาวเทียมเอ็นเอเอส 6 ที่ฮ่องกง แล้วแพร่ภาพไปทั่วโลก ใครมีจานดาวเทียมก็สามารถรับสัญญาณได้

ความคืบหน้าของคดีนี้ ขั้นตอนยังอยู่ที่อัยการกำลังพิจารณาว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ ซึ่งนายสุวัตร์ กล่าวว่า จะส่งคำสั่งศาลปกครองกลางไปที่อัยการสูงสุด เพื่อให้เห็นว่า การดำเนินงานของเอเอสทีวีได้รับการคุ้มครองและไม่ผิดกฎหมาย จึงเชื่อว่า อัยการจะสั่งไม่ฟ้องในคดีนี้

"อัยการเขาก็ปวดหัวว่า เอเอสทีวีทำผิดอะไร การส่งสัญญาณในลักษณะอย่างนี้ เอเอสทีวีเป็นโปรดักชั่นเฮาส์ ที่ผลิตรายการส่งออกไปยิงขึ้นดาวเทียมที่ฮ่องกง ถ้าเอเอสทีวีผิด รอยเตอร์ เอพี หรือสำนักข่าวต่างประเทศในไทย ก็ผิดหมด แล้วทีวีดาวเทียมในไทยก็มีมากมายหลายเจ้า กรมประชาฯ ไม่เคยไปฟ้อง จึงเห็นได้ชัดว่าเป็นการเลือกปฏิบัติกับเฉพาะเอเอสทีวี ในช่วงที่มีบทบาทขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ จึงต้องการสั่งปิดเพื่อปิดหูปิดตาประชาชน"

อย่างไรก็ตาม นายสุวัตร์กล่าวว่า แม้เอเอสทีวีจะชนะคดีแต่ก็จะไม่ฟ้องกลับ เพราะต้องการเพียงแต่ปกป้องตัวเอง ไม่ให้ใครมาหาเรื่องเท่านั้น และคนที่ฟ้องหลายคนก็เกษียณอายุราชการไปแล้ว เช่น นายดุษฎี สินเจิมศิริ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ นางภัทรียา สุมะโน รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เป็นต้น

"กรมประชาสัมพันธ์อ้างว่า เอเอสทีวีแพร่ภาพยุยงส่งเสริมให้เกิดความแตกแยก จาบจ้วงสถาบัน แต่กลับไม่ไปแจ้งความดำเนินคดี อยู่ๆ มาสั่งเปรี้ยงให้เลิกออกอากาศ จึงเป็นคำสั่งที่มิชอบ"นายสุวัตร์กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับคดีนี้ บริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม และนายสนธิ ลิ้มทองกุล และพวกรวม 9 คน เป็นผู้ฟ้องคดีต่อกรมประชาสัมพันธ์ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 นายดุษฎี สินเจิมศิริ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 นางภัทรียา สุมะโน รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 4 นายพิศาล จอโภชาอุดม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 5 และนายจิรชัย สีจร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 6 ในกรณีที่บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ที่มีคำสั่งระงับการให้บริการเครือข่ายดาวเทียมโกลบแซตในการเผยแพร่สถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี และระงับการให้บริการระบบอินเทอร์เน็ต ทั้งที่บริษัท ไทยเดย์ ด็อทคอม ไม่ได้กระทำการผิดสัญญาใดๆ จึงเป็นคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 37 ที่ว่าด้วยสิทธิเสรีภาพในการสื่อสารถึงกัน และ พ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2545 นอกจากนี้ ยังขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 39 วรรค 3 ในเรื่องของการจำกัดสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นของสื่อมวลชน

  • ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • กรมกร๊วกแพ้คดี ศาลสั่งคุ้มครอง ASTV ต่อ
    ศาลไม่อนุมัติหมายค้น ASTV
    ตร.ยังสงวนท่าที บุกค้น-ยึดอุปกรณ์ ASTV
    รัฐคุกคามไม่เลิก! ออกหมายเรียกจ้องปิด ASTV
    เปิดคำสั่งศาลปกครองกลางให้ กสท เปิดสัญญาณ ASTV
    ทนาย “สนธิ” มั่นใจศาลคุ้มครองชั่วคราวแพร่ภาพ ASTV
    กรมกร๊วก-กสท ค้านไต่สวนฉุกเฉินตัดสัญญาณ ASTV
    “สนธิ” ฟ้องกรมประชาฯ - กสท กลั่นแกล้งปิด ASTV

    /0110
    กำลังโหลดความคิดเห็น