สคบ.ลุยจัดระเบียบร้านทอง 7 พันแห่งทั่วประเทศ หลังนักลงทุนแห่ซื้อ ส่งผลราคาทะยานกว่า 14,000 บาท เตรียมเรียกหารือต้นเดือน ก.พ.นี้ เพื่อแก้ปัญหาโกง-ทองปลอม ระบุ เบื้องต้นบังคับให้ติดฉลากแจกแจงรายละเอียดสัดส่วนผสมทองคำ
นายนิโรธ เจริญประกอบ รองเลขาธิการสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวว่า ในช่วงต้นเดือนก.พ.นี้ทาง สคบ.จะเรียกประชุมหารือกับร้านจำหน่ายทองคำทั่วประเทศ 7 พันแห่ง ในการจัดระเบียบมาตรฐานน้ำหนักทองคำ ซึ่งควรจะอยู่ในระดับ 96.5% เพื่อแก้ปัญหาการโกงน้ำหนักทอง และทองปลอม ซึ่งทางสมาคมทองคำกำลังหารือแนวทางอยู่ในขณะนี้ โดยเบื้องต้นทาง สคบ.จะบังคับให้ร้านทองทั่วประเทศติดฉลากสัดส่วนผสมทองคำว่าจำนวนกี่เปอร์เซ็นต์ เพื่อปกป้องคุ้มครองผู้บริโภคในการเลือกซื้อทองคำ เพราะปัจจุบันพบปัญหาการปลอมสร้อย แหวน และกำไรทองคำจำนวนมากโดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด
“ทองเขียว และทองเปอร์เซ็นต์ต่ำ มีคนร้องเรียนมามาก เพราะบางร้านขายทองคำแค่ 70-80% ถือเป็นการหลอกลวงประชาชน มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 5 หมื่นบาท”
นายนิโรธ กล่าวว่า สาเหตุที่ทองคำมีน้ำหนักไม่เต็ม 100% เนื่องจากการทำทองต้องใช้น้ำประสาททองเป็นส่วนผสมเพื่อเชื่อม ดัดลวดลาย และทำให้เนื้อทองมีความแข็ง เพราะทองคำแท้ 100% จะมีความอ่อน ดังนั้น มาตรฐานในทองรูปพรรณควรจะมีน้ำประสาทผสมอยู่ 1-2% กล่าวคือ เนื้อทองคำแท้ประมาณ 93.5-94.5% ดังนั้น ผู้ซื้อทองจะรับทราบข้อมูลนี้อย่างดี และอีกแนวทาง คือ การนำเครื่องจักรในการผลิตทองรูปพรรณ ซึ่งจะได้น้ำหนักและสัดส่วนทองคำสูงถึง 100% แต่มีข้อเสีย คือ เครื่องจักรผลิตทองรูปพรรณไม่สามารถสร้างลวดลายละเอียดอ่อนได้
“ถ้ามีการนำเครื่องจักรทำทองรูปพรรณเข้ามาใช้จริง ก็จะทำให้วัฒนธรรมการทำลวดลายทองเก่าแก่ก็จะหายไป ทำให้ช่างทองตกงานนับหมื่นๆ คน และราคาทองคำจะสูงขึ้น แต่ผู้ซื้อทองที่เป็นคนไทยไม่นิยมใช้เครื่องทำทอง เพราะจะไม่มีลวดลายวิจิตรพิสดารจึงไม่เป็นที่นิยม” นายนิโรธ กล่าว
นายนิโรธ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะมีการจัดระเบียบบังคับให้ร้านทองคำผลิตทองคำรูปพรรณ กรอบพระทอง ต้องใช้ทองคำ 90% แต่มีผู้ค้าทองคำที่ฉวยโอกาสใช้ทองคำรูปพรรณ 70-80% ดังนั้น จะบังคับให้ทุกร้านทองติดฉลาดส่วนผสมของทองคำกับน้ำประสาททองให้ชัดเจนว่ามีเปอร์เซ็นต์เท่าไร
“เดี๋ยวนี้พบกันมาก ว่า มีผู้ค้าทองใน กทม.หิ้วทองรูปพรรณที่มีสัดส่วนทองประมาณ 70% ไปขายให้กับร้านค้าทองต่างจังหวัดในราคาถูก เพียงบาทละ 9,000 บาทเท่านั้น” รองเลขาธิการ สคบ.กล่าว
นายจิรชัย มูลทองโร่ย ผู้อำนวยการกองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สคบ.กล่าวว่า ปัจจุบันสมาคมค้าทองเป็นห่วงเกี่ยวกับการจัดระเบียบมาตรฐานทองคำให้อยู่ในระดับสากล เพราะทองของไทยมีการใช้น้ำประสานทองในการผสมมาก เนื่องจากต้องการสร้างลวดลายที่สวยงาม แต่หากต้องการใช้เนื้อทองเต็มร้อยจำเป็นต้องนำเข้าเครื่องจักรในการดำเนินการจากต่างประเทศ ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนสูงและทำให้ราคาทองในเมืองไทยเพิ่มขึ้นด้วย
“สมาคมยังห่วงว่า หากใช้เครื่องจักรจะทำให้แรงงานช่วงฝีมือในการแกะลวดลายทองจะตกงาน เชื่อว่า ทั้งในบริษัทผู้ผลิต 70 กว่าแห่ง และร้านทอง 7,000 แห่ง รวมถึงช่างนอกระบบจะมีสูงเป็นหลักหมื่นคน ซึ่งตรงนี้ สคบ.ก็เห็นด้วย จึงจำเป็นต้องหามาตรการต่อไป เพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ผู้ซื้อและยกระดับทองให้เทียบเท่าระดับสากลต่อไป”
