พิจิตร - สคบ.เมืองชาละวัน เดินหน้าลุยตรวจผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าหลอกลวงประชาชน และด้อยคุณภาพ พร้อมลุยตรวจราคาสินค้า ทั้งนมผง และน้ำมันพืช หลังพาณิชย์อนุมัติปรับขึ้นราคา
วันนี้ (23 ม.ค.) นายสุเมธ ชัยเลิศวนิชกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยหลังจากประชุมคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคระดับจังหวัดพิจิตร ซึ่งประกอบไปด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยงานพาณิชย์ การค้าภายใน สาธารณสุข รวมถึงฝ่ายคุ้มครองสิทธิ์ของอัยการจังหวัด ซึ่งในขณะนี้มีประชาชนผู้เสียหายจากการคุ้มครองผู้บริโภคเข้าร้องเรียน สคบ.เพราะถูกผู้ประกอบการ กลุ่มผู้ทำธุรกิจหลายประเภทเอาเปรียบด้วยวิธีการโฆษณาชวนเชื่อเกินความเป็นจริง
อีกทั้งใช้ช่องว่างทางกฎหมายทำการเอาเปรียบผู้บริโภค โดยเฉพาะสินค้าขายตรงถึงบ้าน สินค้าเงินผ่อนระยะยาว แต่เรียกเก็บดอกเบี้ยแพงแบบรายวัน รวมทั้งครีมบำรุงผิว และผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ลักลอบนำเข้าจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นสินค้าด้อยคุณภาพนำไปจำหน่ายตามตลาดนัดต่างๆ และเมื่อมีประชาชนซื้อผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปใช้และเกิดผลกระทบตามมา
โดย นายสุเมธ ชัยเลิศวนิชกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้จัดตั้งคณะกรรมการชุดเฉพาะกิจขึ้น และได้ออกสุ่มตรวจสอบการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เอาเปรียบผู้บริโภคทั้งตามตลาดนัด ร้านค้าทั่วไป ไม่ให้มีการเอาเปรียบผู้บริโภคเกิดขึ้น โดยจะเน้นบังคับใช้กฎหมายดำเนินการรวมถึงประสานงานร่วมมือสรรพากรพื้นที่จังหวัดพิจิตรใช้กฎหมายกำกับภาษีเอาผิดกับนักธุรกิจเอาเปรียบประชาชนผู้บริโภคอีกด้วย
รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่การค้าภายในและพาณิชย์จังหวัดพิจิตร ได้ออกตรวจสอบจำหน่ายนมผงและน้ำมันพืชในห้างสรรพสินค้าชั้นนำของจังหวัด หลังจากกระทรวงพาณิชย์อนุมัติปรับขึ้นราคาจำหน่ายอีกและมีประชาชนร้องเรียนว่ามีการเอาเปรียบผู้บริโภค ซึ่งจากการสุ่มตรวจสอบ
ขณะนี้ยังพบว่า น้ำมันพืช น้ำมันปาล์มภายในห้างสรรพสินค้ายังมีการจำกัดการซื้อครอบครัวละ 1 ขวดเท่านั้น ถึงแม้จะมีการแก้ปัญหาด้วยเพิ่มปริมาณการนำเข้า และมีราคาจำหน่ายถูกลงแล้วก็ตาม ส่วนนมผงสำเร็จรูปที่มีการอนุมัติปรับขึ้นราคาเช่นเดียวกันกับน้ำมันพืช
โดยขณะนี้ผู้ประกอบการโรงงานผลิตนมผงไม่ได้ขึ้นราคาสินค้า แต่ใช้กลวิธีลดปริมาณที่บรรจุถุงลง แต่ยังจำหน่ายในราคาเดิมแทน เพื่อไม่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค เช่น นมผงสำเร็จรูปหนึ่งถุง 700 กรัม ก็ลดปริมาณการบรรจุลงเหลือเพียง 650 กรัม แทนที่จะปรับขึ้นราคา
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจังหวัดพิจิตร ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการไม่ให้นำสินค้าที่อยู่ในสตอกอยู่แล้ว นำมาฉวยโอกาสปรับราคาเท่ากับสินค้าชุดใหม่ที่ผลิตออกจากโรงงาน เพื่อไม่สร้างภาระเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้บริโภค