xs
xsm
sm
md
lg

โพลชี้คนหนุน “หมัก” นั่งนายกฯ ต่ำกว่าครึ่ง-ไม่เชื่อมั่นแก้ปัญหาชาติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอแบคโพลล์ เผย ปชช.หนุน “สมัคร” เป็นนายกฯแค่ 44.3 % ส่วนอีก 55.7% ไม่สนับสนุน และขออยู่ตรงกลาง ส่วนความเชื่อมั่นต่อการแก้ปัญหาอยู่ในขั้นสอบตกทุกประเด็น โดยเฉพาะเรื่องไฟใต้ เชื่อมั่นแค่ 3.10 จากคะแนนเต็ม 10 เรื่องยาเสพติดและความซื่อสัตย์ของนักการเมือง เชื่อมั่นแค่ 3.39 และ 3.43 ตามลำดับ

วันนี้ (27ม.ค.) ศูนย์วิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชนใน 27 จังหวัด จำนวน 3,506 คน เกี่ยวกับ “ความหวัง/ความกลัวของประชาชนต่อสถานการณ์ของประเทศ และคนไทยกลุ่มไหนที่สนับสนุน/ไม่สนับสนุน นายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี” ผลปรากฏว่า ร้อยละ 44.3 ให้การสนับสนุนนายสมัครเป็นนายกฯ ในขณะที่ร้อยละ 38.4 ไม่ให้การสนับสนุน และ ร้อยละ 17.3 ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดหรือขออยู่ตรงกลาง

ทั้งนี้ จากผลสำรวจพบว่า นายสมัคร ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มพ่อบ้าน แม่บ้าน กลุ่มผู้เกษียณอายุ และกลุ่มผู้รับจ้างทั่วไป สูงกว่ากลุ่มอาชีพอื่น และกลุ่มประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ยังคงให้การสนับสนุนนายสมัคร สูงกว่ากลุ่มประชาชนในภาคอื่นๆ คือ ร้อยละ 55.3 และร้อยละ 51.9 ในขณะที่ประชาชนในภาคใต้ มีร้อยละ 18.1 ที่สนับสนุน

นอกจากนี้ ยังพบว่า ประชาชนเกือบครึ่งหนึ่ง หรือร้อยละ 48 ต้องการให้พรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาลนาน 3 ปี ถึงจนครบวาระ มีร้อยละ 16.5 ที่ต้องการให้เป็นรัฐบาลไม่เกิน 6 เดือน

ปัญหาสำคัญที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่ยกเป็นปัญหาหลัก หรือที่เรียกว่า เป็นวาระแห่งชาติ คือ ปัญหาราคาสินค้าและบริการ ในชีวิตประจำวันที่สูงขึ้น ร้อยละ 75.4 รองลงมาเป็นปัญหายาเสพติด ร้อยละ 68.3 ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ร้อยละ 65.2 ตามลำดับ นอกจากนี้ ยังพบว่า ปัญหาทางการเมือง เช่น การนิรโทษกรรม 111 อดีตผู้บริหารพรรคไทยรักไทย และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลับกลายเป็นปัญหาที่ประชาชนให้ความสนใจในอันดับท้ายๆ

ผลการสำรวจดังกล่าว ยังพบว่า คนไทยส่วนใหญ่หรือร้อยละ 55.4 ต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่แก้ปัญหาทันที ในขณะที่ร้อยละ 13.4 ยังให้เวลาเตรียมตัว 1-3 เดือน ร้อยละ 19.6 ให้เวลา 3-6 เดือน และร้อยละ 11.6 เท่านั้นที่ให้เวลารัฐบาลชุดใหม่เตรียมตัวเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ มากกว่า 6 เดือนขึ้นไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อสอบถามถึงระดับความเชื่อมั่นต่อประเด็นสำคัญของประเทศในรายละเอียด กลับพบว่า ค่าคะแนนความเชื่อมั่นโดยเฉลี่ยไม่ถึงครึ่งของค่าคะแนนเต็ม 10 คะแนน โดยเฉพาะเรื่องความสงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้เพียง 3.10 คะแนน เรื่องปัญหายาเสพติดจะหมดไปได้เพียง 3.39 คะแนน เรื่องความซื่อสัตย์สุจริตของกลุ่มนักการเมืองได้เพียง 3.43 คะแนน เรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชนได้เพียง 4.11 คะแนน เรื่องรัฐบาลชุดใหม่จะอยู่จนครบวาระ ได้เพียง 4.22 คะแนน เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น