ศูนย์วิจัยเอแบคนวัตกรรมทางสังคมการจัดการและธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หรือ เอแบคโพลล์ เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนต่อนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศ และลักษณะของรัฐมนตรีที่พึงประสงค์ จากการสอบถามความคิดเห็นของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่มีภูมิลำเนาใน 27 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 3,506 ตัวอย่าง ในช่วงระหว่างวันที่ 20-30 มกราคม ที่ผ่านมา โดยพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการนายกรัฐมนตรีที่มีคุณสมบัติเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตมากที่สุด รองลงมาคือมีความรู้ความสามารถ และมีความรวดเร็วฉับไวในการแก้ไขปัญหาประชาชน
ทั้งนี้ จากการสอบถามความเชื่อมั่นของประชาชนในการแก้ปัญหาต่างๆ พบว่า ปัญหาด้านเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความมั่นใจว่าจะนายสมัคร จะสามารถแก้ไขได้มากที่สุด ขณะที่ปัญหาเรื่องความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องที่ประชาชนไม่เชื่อมั่นมากที่สุด ว่านายสมัครจะสามารถแก้ไขได้
จากการสำรวจยังพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 48 ต่างต้องการให้รัฐบาลทำงานอยู่จนครบวาระ เนื่องจากเห็นว่าเป็นพรรคที่ทำงานให้ประชาชนได้ดีที่สุด และคนของพรรคมีความรู้ความสามารถ แต่ทั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 58.5 ต่างคาดการณ์ว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีอายุการทำงานไม่เกิน 2 ปีเท่านั้น ทั้งนี้ เนื่องจากประกอบด้วยพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค ประชาชนส่วนใหญ่จึงคาดการณ์ว่ารัฐบาลจะอยู่ไม่เกิน 2 ปี เพราะจะเกิดความแตกแยกระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล พรรคการเมืองบางพรรคอาจถูกยุบตามกระบวนการยุติธรรม เกิดปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น มีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้ตลอด เกิดการชุมนุมประท้วงขัดแย้งรุนแรง ไม่เชื่อมั่นต่อพรรคร่วมรัฐบาล และอาจเกิดการปฏิวัติ รัฐประหารได้อีก
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลชุดนี้นำแบบอย่างของรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นแบบอย่าง คือเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต ขณะที่ต้องการให้นำแบบอย่างเรื่องการแก้ปัญหารวดเร็วและกล้าตัดสินใจของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาใช้เป็นแบบอย่าง
ทั้งนี้ จากการสอบถามความเชื่อมั่นของประชาชนในการแก้ปัญหาต่างๆ พบว่า ปัญหาด้านเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความมั่นใจว่าจะนายสมัคร จะสามารถแก้ไขได้มากที่สุด ขณะที่ปัญหาเรื่องความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นเรื่องที่ประชาชนไม่เชื่อมั่นมากที่สุด ว่านายสมัครจะสามารถแก้ไขได้
จากการสำรวจยังพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 48 ต่างต้องการให้รัฐบาลทำงานอยู่จนครบวาระ เนื่องจากเห็นว่าเป็นพรรคที่ทำงานให้ประชาชนได้ดีที่สุด และคนของพรรคมีความรู้ความสามารถ แต่ทั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 58.5 ต่างคาดการณ์ว่ารัฐบาลชุดนี้จะมีอายุการทำงานไม่เกิน 2 ปีเท่านั้น ทั้งนี้ เนื่องจากประกอบด้วยพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค ประชาชนส่วนใหญ่จึงคาดการณ์ว่ารัฐบาลจะอยู่ไม่เกิน 2 ปี เพราะจะเกิดความแตกแยกระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล พรรคการเมืองบางพรรคอาจถูกยุบตามกระบวนการยุติธรรม เกิดปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น มีความไม่แน่นอนเกิดขึ้นได้ตลอด เกิดการชุมนุมประท้วงขัดแย้งรุนแรง ไม่เชื่อมั่นต่อพรรคร่วมรัฐบาล และอาจเกิดการปฏิวัติ รัฐประหารได้อีก
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลชุดนี้นำแบบอย่างของรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นแบบอย่าง คือเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต ขณะที่ต้องการให้นำแบบอย่างเรื่องการแก้ปัญหารวดเร็วและกล้าตัดสินใจของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาใช้เป็นแบบอย่าง