นายสุเมธ อุปนิสากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวก่อนเข้าประชุมว่า วันนี้จะพิจารณาสำนวนจำนวน 10 เรื่อง นอกจากนี้ นายยงยุทธ ติยะไพรัช ว่าที่ ส.ส.สัดส่วน กลุ่ม 1 พรรคพลังประชาชน จะเดินทางเข้าชี้แจงข้อกล่าวหา ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่านายยงยุทธ ได้วิ่งเต้นกับ กกต.เพื่อไม่ให้ตนเองได้รับใบแดงนั้น ตนเชื่อว่าไม่มีการวิ่งเต้นเกิดขึ้นแน่นอน เพราะ กกต.จะพิจารณาไปตามหลักฐาน ทั้งนี้ เห็นได้ว่ามติของ กกต.ไม่เป็นเอกฉันท์ เพราะทุกคนมีความเห็นเป็นของตัวเอง ส่วนการประสานความร่วมมือไปยังตำรวจสันติบาลเพื่อรักษาความปลอดภัยสำนักงาน กกต.นั้น ขณะนี้ กกต.ยังไม่ได้ประสานไป เนื่องจากฝ่ายรักษาความปลอดภัยได้ดูแลในเรื่องนี้อยู่แล้ว
นอกจากนี้ นายสุเมธ กล่าวถึงกรณีที่ กกต.มีมติ 3 ต่อ 2 ให้ใบเหลืองกับนายสุทัศน์ จันทร์แสงศรี ว่าที่ ส.ส.เขต 1 จ.เพชรบูรณ์ พรรคประชาธิปัตย์ ว่า การที่มีมติออกมาเช่นนี้อยู่ที่การพิจารณาว่านายสุทัศน์ มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือไม่ ทั้งนี้ เหตุผลของมติจะอยู่ในคำวินิจฉัยของ กกต.
ขณะที่กรณีที่ว่า ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคพลังประชาชน ซึ่งถูก กกต.ให้ใบแดง จะไปฟ้องร้องศาลฎีกาว่า กกต.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบนั้น นายสุเมธ กล่าวว่า เรื่องนี้แล้วแต่ศาลว่าจะมีความเห็นอย่างไร เราคงให้ความเห็นไม่ได้ ทั้งนี้ หากเราเป็นผู้สมัคร เราก็ต้องต่อสู้ทุกหนทางเช่นเดียวกัน และหากศาลมีคำสั่งออกมาเช่นไร กกต.ก็จะปฏิบัติตาม แต่หากศาลรับคำฟ้องและไม่ได้สั่งคุ้มครองชั่วคราว กกต.ก็จะสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ตามปกติ
นอกจากนี้ นายสุเมธ กล่าวถึงกรณีที่ กกต.มีมติ 3 ต่อ 2 ให้ใบเหลืองกับนายสุทัศน์ จันทร์แสงศรี ว่าที่ ส.ส.เขต 1 จ.เพชรบูรณ์ พรรคประชาธิปัตย์ ว่า การที่มีมติออกมาเช่นนี้อยู่ที่การพิจารณาว่านายสุทัศน์ มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือไม่ ทั้งนี้ เหตุผลของมติจะอยู่ในคำวินิจฉัยของ กกต.
ขณะที่กรณีที่ว่า ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคพลังประชาชน ซึ่งถูก กกต.ให้ใบแดง จะไปฟ้องร้องศาลฎีกาว่า กกต.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบนั้น นายสุเมธ กล่าวว่า เรื่องนี้แล้วแต่ศาลว่าจะมีความเห็นอย่างไร เราคงให้ความเห็นไม่ได้ ทั้งนี้ หากเราเป็นผู้สมัคร เราก็ต้องต่อสู้ทุกหนทางเช่นเดียวกัน และหากศาลมีคำสั่งออกมาเช่นไร กกต.ก็จะปฏิบัติตาม แต่หากศาลรับคำฟ้องและไม่ได้สั่งคุ้มครองชั่วคราว กกต.ก็จะสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ตามปกติ
