xs
xsm
sm
md
lg

ครป.แนะส่ง “มาร์ค” ขึ้นชิงนายกฯ เพื่อแจงวิสัยทัศน์ต่อสภา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“สุริยะใส” แนะ ปชป.ส่ง “อภิสิทธิ์” ชิงเก้าอี้นายกฯ ลั่นไม่อยากให้เป็นพิธีกรรมเพื่อประกันอำนาจเพื่อคนเดียว แม้จะไม่พ้นเสียงข้างมากดัน “หมัก” ขึ้นหิ้งนายกรัฐมนตรี ระบุ ครป.พร้อมเป็นพลังถ่วงดุลนอกสภา

วันนี้ (27 ม.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการ ครป.แถลงว่า ในการการเปิดประชุมสภาผู้แทนเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ ไม่อยากให้เป็นเพียงพิธีกรรมเพื่อประกันอำนาจของคนคนเดียว ฉะนั้นผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีควรจะมีการแสดงวิสัยทัศน์ต่อสภาและประชาชน แม้จะเป็นที่รู้ๆ กันอยู่ว่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่คงหนีไม่พ้นนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ก็ตาม แต่การแสดงวิสัยทัศน์อย่างกว้างๆ ต่อสถานการณ์บ้านเมืองและแนวทางในการทำหน้าที่ในฐานะผู้นำประเทศนั้น ก็เป็นสิ่งที่สมควรจะทำเพื่อสร้างความมั่นใจว่าพรุ่งนี้สภาผู้แทนราษฏรอันทรงเกียรติจะทำหน้าที่เลือกนายกรัฐมนตรีของคนไทยทั้ง 63 ล้านคน ไม่ใช่การเลือกผู้จัดการมรดกของคนบางคนเท่านั้น

“ครป.เชื่อว่านายสมัครคงมีความอึดอัดไม่น้อยกับบทบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ยังเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี ในรัฐบาลชุดใหม่ โดยเฉพาะภาพข่าวที่ สส.พรรคพลังประชาชนจำนวนมากบินไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประเทศฮ่องกงนั้น สร้างความสับสนให้ประชาชนว่าใครกันแน่ที่มีอำนาจสูงสุดระหว่างนายสมัครกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ใครกันแน่เป็นนายกฯ แท้ และนายกฯ เทียม และประชาชนควรเรียกร้องหรือคาดหวังจากใครเพื่อให้คณะรัฐบาลชุดใหม่แก้ปัญหาของประเทศได้อย่างแท้จริง” นายสุริยะใส กล่าว

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ครป.ขอให้รัฐบาลชุดใหม่นำปัญหาเหล่านี้ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ 5 เรื่อง คือ 1.แนวทางการสร้างความสมานฉันท์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการบริหารแผ่นดินหากรัฐบาลชุดใหม่ ไม่สามารถสร้างความสมานฉันท์ปรองดองของผู้คนในชาติ จะทำให้นโยบายหรือวิสัยทัศน์ของรัฐบาล ไม่สามารถเกิดผลในทางปฏิบัติได้ เพราะสังคมจะเต็มไปด้วยความแตกแยกขัดแย้ง 2. แนวทางการแก้วิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งต้องทำควบคู่กันไปทั้งเศรษฐกิจระดับมหภาค และระดับจุลภาค หรือเศรษฐกิจระดับรากฐาน เพราะในขณะนี้เริ่มปรากฎชัดเจนถึงสัญญาณการถดกอยของเศรษฐกิจระดับโลกในขณะเดียวกันก็เริ่มเห็นสัญญาณร้ายของเศรษฐกิจภายในประเทศที่เกิดจากนโยบายประชานิยมของรัฐบาลทักษิณในอดีต โดยพาะปัญหาหนี้เสียระดับหญ้า และปัญหาข้าวยากหมากแพง รวมทั้งวิกฤติพลังงาน 3.แนวทางแก้ปัญหาความยากจน ที่รัฐบาลชุดที่แล้วประกาศว่าคนจนจะหายภายใน 5 ปี แต่ข้อเท็จจริงกลับสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง และแนวนโยบายหรือวิสัยทัศน์ของรัฐบาลและพรรคการเมือง ยังมุ่งแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะระดับนโยบายและโครงสร้างการพัฒนาประเทศที่ทำให้คนส่วนใหญ่ต้องยากจน ไร้ที่ดินทำกิน และเกิดปัญหาหนั้สินจำนวนมหาศาล 4.แนวทางการคลี่คลายความรุนแรง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะการยุติเหตุการณ์ฆ่า รายวันซึ่งยังมีให้เห็นอยู่ต่อเนื่อง รวมทั้งการสร้างบทบาทของท้องถิ่นที่เป็นรูปธรรมในการมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหา แนวทางสร้างตความต่อเนื่องของกระบวนการปฏิรูปการเมือง โดยเฉพาะการตรากฎหมายลูกและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้รัฐธรรมนูญมีผลในทางปฏิบัติอย่างแท้จริง

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ครป.พร้อมทำหน้าที่เป็นพลังถ่วงดุลตรวจสอบนอกสภา และพร้อมสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล หากนโยบายหรือมาตรการใดเป็นประโยชน์ต่อคนทั้งประเทศและรัฐบาลมีความบริสุทธิ์ใจจริง ในขณะเดียวกัน เราจะคัดค้านทุกวิถีทางหากรัฐบาลชุดใหม่บิดเบือนสัญญาประชาคมและพยายามแก้ปัญหาของคนคนเดียว

นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า อยากให้พรรคประชาธิปัตย์ เสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วย ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าแพ้ก็ตาม เพื่อที่จะได้มีคนเปรียบเทียบ และเพื่อเป็นไปตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย หากคนเดียวไม่มีคู่แข่งเพราะสุดท้ายก็จะเป็นเพียงพิธีกรรม
กำลังโหลดความคิดเห็น