“ยามเฝ้าแผ่นดิน” อัด “กกต.สมชัย” อ้างภารกิจจบ-ปชต.เดินหน้าไปแล้ว ทั้งที่คดีทุจริตเลือกตั้งยังค้างเป็นกระบุง แถมปล่อย “ยุทธ” เข้าสภา ท้าแน่จริงต้องฟ้อง “วีระ” พิสูจน์ใครทำเอกสารรั่ว พร้อมแฉภาพจัดเลี้ยงหัวคะแนนเลือกซ่อมนครนายก ประจาน กกต.ไร้น้ำยา เชิญชวน ปชช.ให้กำลังใจ คตส.หน่วยงานเดียวที่ยังยืนหยัดสู้
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ และสโรชา พรอุดมศักดิ์ ช่วงที่ 1
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ยามเฝ้าแผ่นดิน โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ จินดารัตน์ เจริญชัยชนะ และสโรชา พรอุดมศักดิ์ ช่วงที่ 2
รายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ออกอากาศทางเอเอสทีวี คืนวันที่ 25 มกราคม นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ นักวิชาการอิสระ นางสโรชา พรอุดมศักดิ์ และนางจินดารัตน์ เจริญชัยชนะ ร่วมดำเนินรายการ ในช่วงแรกได้กล่าวถึงการบรรยากาศการเข้าถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ที่รัฐสภาของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ว่า บรรยากาศไม่เป็นใจ โดยเฉพาะขณะที่เข้าถวายสักการะนั้น มีฝูงอีกามาบินส่งเสียงดังอื้ออึงได้ยินไปทั่ว จะนับเป็นลางที่ไม่ดีหรือไม่ ทั้งนี้ สมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ก็เคยเจอกับปรากฏการณ์ในลักษณะดังกล่าว ทำให้รัฐบาลต้องพบกับปัญหาอุปสรรคตามมาอีกมากมาย
ผู้ดำเนินรายการ กล่าวต่อว่า นายยงยุทธ เข้าทำงานด้วยเสียงโห่ร้องดีใจ ไม่สนใจว่า การขึ้นสู่ตำแหน่งนั้นจะสง่างามหรือไม่ แต่จะมากล่าวโทษนายยงยุทธ ไม่ได้ ต้องโทษ กกต.ที่ปล่อยให้เข้าสภาฯ ทั้งๆ ที่คดียังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา กฎหมายเปิดช่องให้เอาผิดได้แต่ก็ไม่ดำเนินการ ซึ่งการให้เวลากับนายยงยุทธนานๆ จะทำให้สังคมตั้งคำถามกับ กกต.
** อัด “สมชัย” อ้างจบภารกิจแล้ว
วันนี้ รู้สึกผิดหวังกับท่าทีของ กกต.เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะท่าทีของนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนและวินิจฉัย ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าภารกิจของตัวเองหมดแล้ว เพราะประชาธิปไตยเดินไปได้แล้ว นายสมชัยพูดโดยไม่สนใจว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมาสุจริตยุติธรรม หวังเพียงจัดเลือกตั้งให้จบๆ ทั้งๆ ที่ยังมีสำนวนเรื่องร้องเรียนการทุจรติตกค้างอยู่ในการพิจารณาอีกจำนวนมาก มันเกิดอะไรขึ้น กกต.ควรจะสร้างบรรทัดฐานใหม่ขึ้นมา อย่าโอนอ่อนผ่อนตามพรรคพลังประชาชน
นอกจากนี้ นายสมชัยยังกล่าวถึงนายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอร์รัปชั่นที่ไปยื่น ป.ป.ช.ให้สอบสวนเอาผิดนายสมชัยที่ปล่อยให้เอกสารลับคดีทุจริตเลือกตั้งที่เชียงรายรั่วไปถึงนายยงยุทธว่า ตามที่เคยคิดจะฟ้องนายวีระนั้น ได้เปลี่ยนใจไม่ฟ้องนายวีระแล้ว แต่จะปล่อยให้กรรมสนองนายวีระเอง ซึ่งประเด็นนี้ ผู้ดำเนินรายการมองว่า หากนายสมชัยเชื่อว่านายวีระกล่าวหาลอยๆ ทำไมไม่ฟ้องไปเลย จะได้พิสูจน์กันในศาล แต่ก็มีข้อเท็จจริงที่นายสมชัยไม่กล้าปฏิเสธคือนายสมชัยเอาเอกสารออกจากห้องประชุม
**แฉเทปผู้สมัคร ส.ส.เลี้ยงหัวคะแนน ประจาน กกต.
นอกจากนี้ ผู้ดำเนินรายการ ยังนำเทปบันทึกภาพงานจัดเลี้ยงหัวคะแนน ของนายเกรียงไกร กิตติธเนศวร ผู้สมัคร ส.ส.นครนายก พรรคพลังประชาชน บุตรชายนายสิทธิชัย กิตติธเนศวร อดีต ส.ส.นครนายก พรรคไทยรักไทย 1 ใน 111 กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิ์
โดยภาพที่ปรากฏในเทป เป็นการจัดเลี้ยงหัวคะแนน ในช่วงการเลือกตั้งใหม่เมื่อวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่ทำไม กกต.ไม่ดำเนินการทั้งๆ ที่ภาพมันฟ้อง เชื่อว่าคดีในทำนองนี้เกิดขึ้นอีกมากมาย แต่ กกต.ก็ไม่สามารถเอาผิดได้ ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องลุกขึ้นมาตรวจสอบการทำงานของ กกต.ว่า ยังทำหน้าที่สุจริตเที่ยงธรรมหรือไม่ เนื่องจากหากประเทศไทยปล่อยให้พรรคการเมืองซื้อสิทธิ์ขายเสียง ปล่อยให้คนชั่วเข้าสู่สภาฯ เท่ากับว่า ปล่อยให้ประเทศเข้าสู่ความล้มเหลว
**ย้ำศาลต้องดี 100%
นอกจากนี้ ผู้ดำเนินรายการ ยังกล่าวถึงกระบวนการยุติธรรม เนื่องจากเป็นความหวังสุดท้าย โดยเฉพาะ กกต.หลายคนมาจากผู้พิพากษา ดังนั้นจะปล่อยให้คนไม่ดีเข้าไปกุมอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติแล้วออกกฎหมายปกป้องตัวเองให้พ้นผิดได้อย่างไร
ผู้ดำเนินรายการย้ำว่า คนในกระบวนการยุติธรรมนั้นจะดีทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ จะดีเพียงบางส่วนเหมือนกับวงการอื่นไม่ได้ เพราะกระบวนการยุติธรรมคือสิ่งสุดท้ายที่จะทำให้สังคมเดินหน้าต่อไปได้อย่างสุจริตเที่ยงธรรม
ในช่วงที่ 2 ผู้ดำเนินรายการ กล่าวถึงกระบวนการยุติธรรมอีกว่า อยากจะให้เป็นกลไกที่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับบ้านเมืองได้ เพื่อไม่ให้ต้องใช้วิธีการรัฐประหาร และไม่ให้ประชาชนต้องออกมาชุมนุมประท้วงตามท้องถนนอีกครั้ง เพราะฉะนั้นจึงอยากให้ระบบยุติธรรมเป็นไปตามระบบที่มีอยู่
ผู้ดำเนินรายการ กล่าวว่า ขณะนี้ มีความเป็นห่วงกับข้อครหาที่ว่าศาลสามารถวิ่งเต้นได้ หรือมีความกลัวและเกรงใจอำนาจรัฐที่กำลังจะเข้ามา อย่างไรก็ตาม โดยลึกๆ แล้วยังเชื่อว่า คงไม่มีใครไปวิ่งเต้นกับศาลได้ แต่ทั้งนี้ คนในวงการยุติธรรมด้วยกันเองย่อมจะรู้ดีที่สุดว่าข้างในเป็นอย่างไร ผู้พิพากษาแต่ละคนเป็นอย่างไร พิพากษาถูกต้องหรือไม่
ทั้งนี้ เห็นว่า ศาลเองก็ต้องมีการปฏิรูปจนให้เกิดความเชื่อมั่น หรือควรจะปล่อยให้ตรวจสอบได้ วิพากษ์วิจารณ์ได้ ซึ่งก็อาจจะทำให้คดีไม่มีข้อยุติ แต่ก็อยากให้คำตัดสินเกิดขึ้นโดยไม่มีใครสงสัยในกระบวนการยุติธรรม และหวังว่าคนในวงการยุติธรรมจะสะสางกันเอง
**จับพิรุธ “พล้งแม้ว” อ้างต่อไปเงินจะไร้ความหมาย
ต่อมา ผู้ดำเนินรายการ กล่าวถึงกรณีที่ ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน ออกมาปฏิเสธข่าว ส.ส.อีกสานไม่พอใจโควตารัฐมนตรีว่า การพูดของ ร.ท.กุเทพ น่าจะเป็นแค่การตีปลาหน้าไซ และเหมือนกับนัดกันมาพูดกับนายนิสิต สินธุไพร ส.ส.จังหวัดร้อยเอ็ดที่ยืนยันว่า ส.ส.อีสานไม่เคยเรียกร้องตำแหน่ง แต่ขณะเดียวกันนายนิสิตกลับแสดงความสนใจว่าอยากจะเป็นรัฐมนตรีช่วยศึกษาธิการเพราะเคยเป็นครูประชาบาลมาก่อน แถมได้คะแนนเสียงมากที่สุดถึงกว่า 14,000 คะแนน และอ้างว่านายนพดล ปัทมะ รองเลขาธิการพรรคฯ โทรศัพท์มาชวน
นอกจากนี้ นายนิสิตยังอ้างว่า ส.ส.อีสานของพรรคพลังประชาชนต้องการให้เกิดความสงบ เพื่อจะได้เอานโยบายของพรรคที่หาเสียงเอาไว้ไปปฏิบัติให้เห็นผล ซึ่งคาดว่าภายใน 6 เดือนก็สำเร็จ และจะทำให้คนอีสานให้ความนิยมในพรรคพลังประชาชนมากขึ้น และหลังจากนั้นต่อไป เงินก็จะไม่มีความหมายอีก ซึ่งผู้ดำเนินรายการได้ตั้งข้อสังเกตคำพูดของนายนิสิตว่า แสดงว่าก่อนหน้านี้ เงินมีความหมายใช่หรือไม่
ส่วนกรณีที่ ร.ท.กุเทพอ้างว่า ส.ส.ที่ไปฮ่องกงไม่ได้เกี่ยวกับการไปขอตำแหน่งรัฐมนตรีจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่อาจไปเพราะเหตุผลส่วนตัวเป็นส่วนใหญ่นั้น ก็ไม่ทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณเป็นศิราณีรับปรึกษาปัญหาส่วนตัวตั้งแต่เมื่อไหร่
ส่วนข้ออ้างที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตั้ง ครม.นั้น แล้วใครกันแน่ที่มีส่วน ถ้าไม่ใช่นายใหญ่ก็ต้องเป็นนายหญิง คือคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ใช่หรือไม่ เพราะซึ่งในช่วงนี้ ที่บ้านจันทร์ส่องหล้ามีความคึกคักเป็นพิเศษ ต่างจากช่วงที่กลับเข้ามาในประเทศใหม่ๆ ที่ไปไหนมาไหนเงียบๆ
**เชิญชวนให้กำลังใจ คตส.
ในช่วงท้ายรายการ ผู้ดำเนินรายการได้กล่าวชื่นชมการทำงานของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ซึ่งเป็นองค์กรที่น่าเห็นใจมากที่สุด เพราะเป็นเพียงองค์กรเดียวที่ได้รับการแต่งตั้งมาจากคตส.ที่ยังยืนหยัดในแนวทางของตัวเอง ขณะที่องค์กรอื่นได้ยุติบทบาทไปแล้ว แม้กระทั่ง คมช.เอง ขณะที่บางองค์กรก็โอนอ่อนผ่อนตามอำนาจระบอบทักษิณที่กำลังจะกลับเข้ามาอีกครั้ง
ขณะนี้มีคนเป็นห่วงเช่นกันว่า คตส.จะถอดใจหรือไม่ แต่ก็เชื่อว่า คตส.จะยังคงยืนหยัดในการทำหน้าที่ตรวจสอบการทุจริตต่อไป เห็นได้จากคดีหวยบนดิน ซึ่งอัยการสูงสุดยังไม่มีความเห็นสั่งฟ้องโดยอ้างว่าสำนวนยังไม่สมบูรณ์และให้สอบสวนเพิ่ม แต่ คตส.ออกมายืนยันแล้วว่า สำนวนคดีดังกล่าวมีความถูกต้องสมบูรณ์แล้ว และจะขอคำยืนยันจากอัยการสูงสุดอีกครั้งในวันที่ 1 ก.พ.นี้ หากอัยการสูงสุดยังยืนยันตามเดิม คตส.จะใช้ช่องทางตามกฎหมาย ป.ป.ช. แต่งทนายขึ้นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเอง
“ถึงชั่วโมงนี้ องค์กรอื่นเขาโอนอ่อนไปหมดแล้ว มีเพียงคตส.ที่ยืนหยัดต่อสู้ และเชื่อว่าประชาชนจำนวนมากยังคงให้กำลังใจ คตส. เพราะฉะนั้นถ้าใครพอมีเวลา อยากให้ชักชวนกันไปให้กำลังใจ คตส.ที่อาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ใครมีดอกไม้ก็เอาไปมอบให้เป็นกำลังใจ ใครไม่มีดอกไม้ ก็แค่เอ่ยปากให้กำลังใจก็ได้” ผู้ดำเนินรายการกล่าว
