“ยุทธ ตู้เย็น” เดินทางไปรับหนังสือรับรองการเป็น ส.ส.แล้ว ทำอุบไต๋ไม่รู้ใครนั่งเก้าอี้ประธานสภาฯ อ้างอยู่ระหว่างการหารือหาผู้เหมาะสมที่มีอยู่ประมาณ 4-5 คน แย้มอาจให้ฝ่ายค้านนั่งรองประธานสภาฯ ส่วนออก กม.นิรโทษกรรม 111 ซาก ทรท.ย้ำสภาต้องเห็นชอบรวมถึงภาค ปชช.ต้องยินยอมด้วย อ้างเฉยพ้นผิดซื้อเสียงเชียงรายแล้ว
วันนี้ (20 ม.ค.) เวลาประมาณ 13.30 น.นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ส.ส.สัดส่วน กลุ่ม 1 ของพรรคพลังประชาชน ได้เดินทางเข้ารับหนังสือรับรองการเป็น ส.ส.อย่างเป็นทางการจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยยืนยันว่าขณะนี้พรรคพลังประชาชนยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องชื่อบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือ ซึ่งเบื้องต้นมีบุคคลที่เหมาะสม 4-5 คน และจะได้ความชัดเจนวันพรุ่งนี้ (21 ม.ค.) จึงไม่ออกความเห็นว่าจะได้รับการเสนอชื่อ และอาจเป็นไปได้ว่าพรรคฝ่ายค้านจะดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร หากมีการหารือและมีการสรุปร่วมกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยงยุทธ ได้เดินทางมาเซนชื่อเพื่อรับหนังสือรับรองพร้อมกับ น.ส. ละออง ติยะไพรัช และนายอิทธิเดช แก้วหลวง ว่าที่ ส.ส.เขต 3 จ.เชียงราย พรรคพลังประชาชน
เมื่อถามถึงกรณีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จะยื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบ เพื่อส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคพลังประชาชน นายยงยุทธ กล่าวว่า ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย และนายไชยวัฒน์ สามารถทำได้ ซึ่งบ้านเมืองเรามีหลักเกณฑ์ และวัฒนธรรมให้ปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความสงบสุข แต่ถ้านำสิ่งต่างๆมาตีความ ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ สังคมก็จะเกิดความแตกแยก เกิดความขัดแย้งขึ้นทุกวัน ซึ่งบ้านเมืองถูกวางกับดักมานานแล้ว เราต้องช่วยกัน
“ผมไม่เคยทะเยอทะยาน อยากเป็นโน่นเป็นนี่ สิ่งที่ผมอยากเห็นคืออยากให้บ้านเมืองสงบสุข ส่วนตำแหน่งประธานสภาฯ ผมยังไม่รู้จริงๆ ไม่ได้โกหก แต่ถ้าถามความเห็นส่วนตัว การเป็นพรรคร่วมรัฐบาลนั้นจะอยู่ที่ข้อตกลงร่วมกัน ไม่ได้เป็นกฎหมาย บางครั้งก็สามารถคุยกันได้ว่า ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลไม่อยากเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ก็สามารถให้พรรคพลังประชาชน และจะขอโควตารัฐมนตรีช่วยแทนได้หรือไม่นั้น พรรคร่วมรัฐบาลเราก็ต้องมาคุยกัน เพื่อให้บ้านเมืองเราเดินหน้าไปได้”
นายยงยุทธ กล่าวต่อว่า ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลได้เสนอชื่อบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯแล้วหรือไม่ตนก็ไม่ทราบ เพราะยังไม่มีตำแหน่งใดๆ เป็นเพียงคนประสานงานเท่านั้น ซึ่งในเบื้องต้นผู้ใหญ่ในพรรคก็ได้มีการหารือกัน เฉพาะในเรื่องการร่วมรัฐบาล หลังจากที่พรรคพลังประชาชนได้จัดตั้งรัฐบาล พรรคเราจึงจะมีการประชุมหารือกัน เพื่อเลือกประธานสภาฯ และเลือกนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ตามขั้นตอนที่กำหนด อย่างไรก็ตามขณะนี้เรื่องการเสนอชื่อประธานสภาฯ มีหลายคนที่ถูกเสนอชื่อ แต่ยังไม่ตกผลึก และขณะนี้ทราบว่า มีผู้ที่เหมาะสมประมาณ 4-5 คน และคาดว่าวันที่ 21 ม.ค.น่าจะได้ข้อสรุป
เมื่อถามถึงความพร้อมในการดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ นายยงยุทธ กล่าวว่า ตนไม่ขอตอบ แต่หากถึงเวลาจะเล่าให้ฟัง ส่วนตัวยืนยันจะยึดถือแนวทางความปรองดอง และความเข้าใจกัน เพื่อให้บ้านเมืองไม่ตกเป็นเหยื่อความขัดแย้งของนักการเมือง ทั้งนี้เราอยากผลักดันให้การเมืองและประเทศชาติเดินไปได้
เมื่อถามต่อว่า ตำแหน่งประธานสภาฯ มีส่วนสำคัญในการพิจารณาเรื่องนิรโทษกรรมอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 111 คน ใช่หรือไม่ นายยงยุทธ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เร็วเกินไปที่จะพูด เพราะการแก้ไขสิ่งต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญ จะต้องได้รับการเห็นชอบจากการเมืองภาคประชาชน ไม่ใช่จากในสภาฯ เท่านั้น
เมื่อถามว่า มองเรื่องข้อเสนอ 5 ข้อของพรรคชาติไทย ที่อาจมีความพยายามผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ นายยงยุทธกล่าวว่า สิ่งไหนที่เป็นเรื่องที่ดี เราก็ควรนำไปปฏิบัติ เหมือนกับการไปวัดที่ เราจะท่องนะโมตัสสะ ในการเข้าวัด เราก็ปฏิบัติกัน ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าต้องทำ ไม่ต้องพูดซ้ำ
นายยงยุทธ ยังกล่าวถึงกระบวนการสอบสวนของ กกต. ที่มีหลายคนพยายามบอกว่า ตนใช้อิทธิพลให้มีการถอนคำฟ้อง ยืนยันตั้งแต่แรกแล้วว่า ไม่ได้เป็นผู้กระทำ แต่เป็นกระบวนการตั้งขึ้นมาเพื่อสกัดกั้นตน และเมื่อไปดูหลักฐานพบว่า มีบุคคลที่ไม่ใช่ กกต.เข้าไปเกี่ยวข้องหลายฝ่าย รวมถึงการสอบปากคำ แต่ขณะนี้ทุกคนทราบข้อเท็จจริงแล้วว่า ตนเป็นผู้บริสุทธิ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จนถึงขณะนี้มีว่าที่ ส.ส. มารับหนังสือรับรองแล้ว 459 คน ขาดเพียง นายสมนึก เฮงวาณิชย์ ส.ส. เขต 1 บุรีรัยมย์ พรรคมัชฌิมาธิปไตย คนเดียวเท่านั้น ที่ยังไม่ได้เดินทางมารับหนังสือรับรอง ซึ่งนายสมนึกยืนยันว่า จะเดินทางมารับหนังสือรับรองภายในวันนี้ แน่นอน