“เลขา ปชป.” ลั่น เลือกตั้งสมัยหน้าต้องเป็นรัฐบาลพรรคเดียว เตรียมลุยเลือกตั้งซ่อมทวงคืนพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 170 เสียง โดยเฉพาะเพชรบูรณ์ ปลุกขวัญลูกพรรคมุ่งทำงานหนัก เพื่อสร้างพรรคให้ยิ่งใหญ่
วันนี้ (14 ม.ค.) ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ พรรคประชาธิปัตย์ ได้จัดงานสัมมนาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ วันที่ 2 โดยมีแกนนำพรรค อาทิ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ นายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรค นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรค พร้อมด้วย ส.ส.ของพรรคที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้าร่วมงานสัมมนาอย่างพร้อมเพรียง
โดย นายสุเทพ ได้บรรยายในหัวข้อ “การร่วมมือกันสร้างพรรคให้ยิ่งใหญ่” ตอนหนึ่งว่า การสร้าง และพัฒนาพรรคประชาธิปัตย์ให้ยิ่งใหญ่ได้ ต้องถือเป็นภารกิจของสมาชิกทุกคนในพรรค และพรรคประชาธิปัตย์เอง ถือเป็นสถาบันการเมืองที่มีสมาชิกพรรคทุกคนเป็นเจ้าของ ไม่ใช่บริษัทการเมือง ที่มีครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นเจ้าของ และไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ต้องคำนึงถึงว่าจะมีผลต่ออนาคตของพรรคทั้งสิ้น นอกจากนั้นแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ ยังเป็นพรรคการเมืองเดียวที่มีอุดมการณ์ที่มั่นคง แน่วแน่ ได้รับการสืบทอดจากรุ่นต่อรุ่น ดังนั้น ใครก็ตามที่มาเป็นสมาชิกพรรคจะต้องศึกษาอุดมการณ์ของพรรคให้ซึมซับเข้าถึงหัวใจ และอย่าได้ทำตนเป็นเพียงแค่ผู้อาศัยต้องทำงานให้กับพรรค เพื่อพรรคมีความเข้มแข็งเพิ่มขึ้น
เลขาธิการพรรค กล่าวถึงการตั้งเป้าการเลือกตั้งด้วยว่า วันนี้ทุกคนต้องร่วมกันตั้งเป้าหมาย ว่าจะต้องชนะเลือกตั้งด้วยเสียงข้างมาก และจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวให้ได้ การเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่ใช่คิดแค่จะได้จำนวน ส.ส.แค่ 160 หรือ 170 เท่านั้น แต่ต้องคิดถึงตัวเลขจำนวน 300 คน ซึ่งตนมั่นใจว่าทำได้แน่ หากเริ่มทำงานกันอย่างหนักตั้งแต่วันนี้ และหลังจากที่ กกต.พิจารณาให้ใบเหลือง-ใบแดงเสร็จสิ้นแล้ว สมาชิกพรรคทุกคนต้องหารือกันแล้วว่า นับตั้งแต่จากนี้ไปจนถึงการเลือกตั้งครั้งต่อไป จะต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้การทำงานของพรรคมีความเข้มแข็ง
“บทเรียนที่ผ่านมา ทำให้รู้ว่าทำงานได้ไม่ลึก หลวม มีช่องว่าง แต่โชคดีที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้เป็นโซน จึงทำให้เราทำได้กระชับขึ้น คณะทำงานประจำโซนจะต้องทำงานร่วมกันอย่างแข็งแรง แต่การแบ่งโซนตามรัฐธรรมนูญอาจจะไม่ตรงกับสภาพความเป็นจริง อยากให้ลองไปนึกว่าจะปรับเช่นไร เพื่อให้เข้ากับสภาพภูมิศาสตร์ และทำให้เราทำงานการเมืองได้ดีขึ้น เพื่อยึดพื้นที่ของเจ้าถิ่นมาให้เป็นของพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ ของเสือเฒ่า เสนาะ เทียนทอง” เลขาธิการพรรค กล่าว
ด้าน นายถาวร เสนเนียม รองเลขาธิการพรรค กล่าวว่า ภารกิจที่ยิ่งใหญ่ที่ ส.ส.ใหม่ต้องทำ คือ สร้างแฟนพันธุ์แท้ ให้เหมือนกับ ปักษ์ใต้บุรี ที่มีประชาชนให้ความนิยมและชื่นชอบพรรคอย่างแท้จริง โดยต้องสร้างแฟนพันธุ์แท้ให้เกิดปีละอย่างต่ำ 200 คน นอกจากนั้นแล้ว ก็ต้องมีความสามัคคีและมีสปิริต เหมือนกับทีมฟุตบอล นอกจากนั้นแล้ว ต้องลงสนามเพื่อเล่น คือ สนามในสภา และสนามสื่อ ทั้งนี้ จะต้องสร้างสร้างแนวทางนวัตกรรมแนวใหม่ หาวิธีการดึงประชาชนเข้าร่วมกับพรรค โดยเฉพาะคนจนที่มีกว่า 10 ล้านคน ที่ต้องดึงเข้ามาเป็นหุ้นส่วนกับพรรค รวมถึงการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ซึ่งไม่ใช่กระจายงบประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องมอบแนวคิดการสร้างชุมชนให้เกิดขึ้น
“ที่ผ่านมา การเมืองอยู่ในที่มืด การผลิตนโยบายต้องเข้าถึงประชาชน เป็นนโยบายที่กินได้ และต้องเปิดโอกาสให้คนจน และการคัดคนเข้าพรรคเป็นเรื่องสำคัญมาก แนวคิดการสร้างพรรคให้ยิ่งใหญ่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าทุกคนหล่อหลอมให้เป็นเอกภาพ พรรคก็สามารถยิ่งใหญ่ได้” นายถาวร กล่าว