“สุเทพ” ย้ำการเมืองยังไม่นิ่ง ไม่สน “พลังแม้ว” รวบรัดตั้งรัฐบาลวันที่ 17 ม.ค.นี้ ชี้มีหลายเรื่องต้องลุ้นทั้งเรื่องใบเหลือง-แดง และคดี “ยุทธ” พ่วงยุบพรรค พร้อมปลุกสมาชิกพรรคร่วมสร้างประชาธิปัตย์ให้ยิ่งใหญ่ในอนาคต วางเป้าหมายให้ได้รับเลือกตั้ง ส.ส.เกิน 300 ที่นั่ง เพื่อตั้งรัฐบาลพรรคเดียว
วันนี้ (14 ม.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชาชนเตรียมแถลงการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับพรรคการเมืองอื่นในวันที่ 17 ม.ค.นี้ว่า ขอยืนยันว่า การเมืองยังไม่นิ่ง โดยผลคะแนนของแต่ละพรรคยังไม่สรุป และยังมีการพิจารณาเรื่องการให้ใบเหลือง-ใบแดง ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อยู่ รวมทั้งยังมีการพิจารณาการกระทำผิดของผู้บริหารหรือพรรคการเมือง ซึ่งต้องรอผลการพิจารณาเรื่องเหล่านี้ก่อน เนื่องจากเป็นคดีความในศาลฎีกา ยังไม่สรุปออกมาใน 1-2 วันนี้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาล
“เป็นเรื่องปกติของฝ่ายที่คิดว่าจะช่วงชิงการได้เปรียบทางการเมือง แต่สำหรับผมได้ประเมินสถานการณ์การเมืองตามความเป็นจริงและข้อเท็จจริง ดังนั้น ผมไม่รู้สึกตื่นเต้นไปด้วย และไม่กังวลใจอะไรกับแผนบันได 6 ขั้นของพรรคพลังประชาชนที่จะสร้างความได้เปรียบในการตั้งรัฐบาล” เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
ส่วนกรณีที่พรรคพลังประชาชนเร่งตั้งรัฐบาล เพราะมั่นใจว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนที่ถูกกล่าวหาทุจริตเลือกตั้งจะไม่ถูกดำเนินคดีหรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าพรรคพลังประชาชนคิดอย่างไร แต่ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย แม้จะมีการกดดันด้วยมวลชนหรือวิธีการใดก็ตาม กกต.จะต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริงบนพื้นฐานของกฎหมาย หาก กกต.ทำแตกต่างไปจากนี้จะมีความผิดและมีคนเล่นงาน กกต.ได้ในที่สุด
ต่อกรณีที่ไชยวัฒน์ ฉางข้าวคำ กำนัน ต.จันจะว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย ที่ถูกข่มขู่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า รัฐบาลและฝ่ายการเมืองที่เกี่ยวข้องไม่ควรปล่อยให้เป็นเช่นนี้ โดยต้องเข้ามาคุ้มครองดูแล อย่าปล่อยให้อิทธิพลมืดมาคุกคาม อย่างไรก็ตาม ไม่คิดว่าคนที่หลงระเริงอยู่กับอำนาจหรืออิทธิพลจะอยู่ได้นาน และไม่เชื่อว่าจะชนะ เพราะเชื่อว่าธรรมมะย่อมชนะอธรรม
นอกจากนี้ นายสุเทพยังกล่าวในการสัมมนา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ภายใต้หัวข้อ “ความร่วมมือการสร้างพรรคให้ยิ่งใหญ่” ว่า การพัฒนาพรรคถือเป็นภารกิจของทุกคน เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองที่แท้จริง ไม่ใช่บริษัทจำกัดที่มีครอบครัวหรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมาผูกขาดเป็นเจ้าของ ดังนั้น ทุกคนต้องตระหนักในข้อนี้ และต้องเข้ามาช่วยกันดูแล เนื่องจากบทบาทและการปฏิบัติตัวของ ส.ส.ในพรรคทุกคนมีผลต่อความเจริญรุ่งเรืองของพรรคและชื่อเสียงพรรค จะต้องร่วมมือกันสร้างพรรคให้ยิ่งใหญ่ และต้องร่วมกันตั้งเป้าหมายว่า พรรคประชาชธิปัตย์ต้องชนะการเลือกตั้งได้เสียงข้างมากเพียงพรรคเดียวในวันข้างหน้า
“เราต้องร่วมกัน ต้องมีเป้าว่าต้องเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากพรรคเดียวในวันข้างหน้า ซึ่งไม่รู้เมื่อไร แต่เราต้องมีเป้าหมาย เราต้องไม่พอใจกับตัวเลข ส.ส.แค่ 160 เสียง หรือ 170 เสียง แต่ต้องไปที่ตัวเลข 300 กว่า และต้องไม่สะเทือนใจ เวลาใครมาหาว่าเราเพ้อเจ้อ เพราะเราต้องมีเป้าหมาย” นายสุเทพ กล่าว
เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ยังย้ำให้ ส.ส.ทุกคนมีบทบาทแรกในการเข้าไปช่วยผู้สมัคร ส.ส.ในเขตที่มีการเลือกตั้งใหม่ โดยขอให้ทุกคนแจ้งความจำนงว่า การเลือกตั้งใหม่ในพื้นที่ต่างๆ จะไปช่วยหาเสียงที่ใด วันใด เพื่อดึงคะแนนให้กับผู้สมัครของพรรค
/0110