“นายกฯ” ปฏิเสธ คตส.เข้ารายงานคดี ระบุแค่พบกันโดยบังเอิญ ยอมรับคดี “แม้ว-เมีย” คืบหน้าน่าพอใจ ชี้เหตุผล 3 ข้อ “พจมาน” กลับไทย ต้องพิสูจน์ที่การกระทำ ปัดไม่รู้เรื่อง “ทักษิณ” ขอพบ “ป๋า” แต่ถือเป็นการดีหากได้พูดคุยกัน
วันนี้ (9 ม.ค.) พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวภายหลังการเข้าพบของนายสัก กอแสงเรือง กรรมการและโฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) และนายวิโรจน์ เลาหะพันธุ์ กรรมการ คตส.ว่า ท่านมาหารือกับ พล.อ.พงษ์เทพ เทพประทีป เลขาธิการนายกรัฐมนตรี แต่พอดีตนจะลงมาก็เลยพบกัน ก็ได้คุยกันถึงเรื่องที่ทาง คตส.ได้ดำเนินเรื่องต่างๆ ไปและส่งผ่านกระบวนการยุติธรรมไปที่ทางสำนักงานอัยการสูงสุด เพียงคุยกันเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีต่างๆ มีความคืบหน้ามากน้อยแค่ไหนได้พูดกันหรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ถามในรายละเอียด แต่ส่วนใหญ่แล้วท่านบอกว่าได้เดินหน้าไปในสภาพที่เป็นที่น่าพอใจ ซึ่งคดีส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา
เมื่อถามว่า มองการกลับมาของคุณหญิงพจมานในช่วงนี้อย่างไร เพราะบางฝ่ายมองว่ามีนัยทางการเมืองมากกว่าการตั้งใจกลับมาสู้คดี พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า อย่างที่ตนได้เรียนเมื่อวาน เป็นสิทธิของคุณหญิงพจมานที่จะเดินทางเข้ามาแล้วก็มาต่อสู้คดี นั่นเป็นสิทธิพื้นฐาน ในเรื่องอื่นๆ เราคงไม่สามารถที่จะไปวิเคราะห์ ไม่สามารถที่จะไปมองภาพหรือคาดการณ์ในอนาคตข้างหน้าได้ แต่ในปัจจุบันเมื่อเข้ามาแล้วคุณหญิงก็ได้ไปที่ศาล และไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษถือว่า เกี่ยวข้องกับเรื่องของการต่อสู้คดีทั้งสองกรณี ก็เป็นเหตุผลที่ตนคิดว่าเป็นส่วนดี
เมื่อถามว่า เหตุผลที่อ้างในแถลงการณ์ 3 ข้อ ทั้งจงรักภักดี สู้คดี และห่วงครอบครัว ถือเป็นเหตุผลที่จะนำไปสู่ความเรียบร้อยและความสมานฉันท์หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนนี้คิดว่าอยู่ที่การปฏิบัติ อย่างที่ตนได้พูดอยู่ตลอดเวลาว่าการพูดต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำ เราคงจะต้องดูว่ากระทำได้เหมือนกับที่ท่านพูดหรือเปล่า
เมื่อถามว่า มีการมองเหมือนกันว่าการที่ตัดสินใจกลับมาเพราะได้มีการเคลียร์อะไรกันไว้บางอย่างล่วงหน้าแล้ว พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าได้มีการตกลงอะไรกันอย่างไร แต่ถ้าได้ถามตนว่ามีการโทรศัพท์ถึงตนหรือเปล่านั้นไม่มี เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ว่าอดีตนายกรัฐมนตรีพยายามขอพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ในฐานะที่ท่านเป็นคนสนิทของประธานองคมนตรีมองอย่างไร พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเพราะต้องอยู่ที่การตัดสินของท่านเอง โอกาสอย่างนั้นคงเป็นสิ่งที่ท่านประธานองคมนตรีจะตัดสินใจเอง ตนคงไม่สามารถไปคาดเดา เพราะตนก็ทำงานกับท่านมานานและบอกได้ว่าไปเดาความคิดของท่านนี้ยากมาก
เมื่อถามว่า แสดงว่าปัจจัยระดับสูงที่จะทำให้สมานฉันท์อยู่ที่ พล.อ.เปรมใช่หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ ตนไม่ทราบจริงๆว่ามีข่าวมาอย่างไรและจะเป็นอย่างไร อย่างที่ตอบไปคือตอบได้เฉพาะตัวของตนเองว่าไม่ได้รับการติดต่อ ไม่ได้มีการโทรศัพท์มาพูดคุยกัน เมื่อถามว่าคิดว่าเป็นการดีหรือไม่ที่ทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยกัน พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ในส่วนที่เป็นภาพรวม ตนคิดว่าการพูดคุยกันเป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่น่าจะช่วยทำให้เกิดความเข้าใจและนำไปสู่การแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้
ผู้สื่อข่าวถาม มีการรายงานความคืบหน้าถึงการชุมนุมกดดันคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ จ.บุรีรัมย์ หรือไม่ พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ในขณะนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวที่มีความกดดันเพิ่มขึ้น คงมีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วง 4-5 วันที่ผ่านมา เป็นช่วงนั้นเท่านั้นขณะนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวเพิ่มเติม เมื่อถามว่าเวลานี้บางฝ่ายโดยเฉพาะพรรคพลังประชาชนเกรงว่ามีมือที่มองไม่เห็นมาจัดตั้งรัฐบาล ในฐานะเป็นรัฐบาลยืนยันได้หรือไม่จะเป็นไปตามครรลอง พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาลของตนเลย เป็นเรื่องของทางพรรคการเมืองที่จะพูดคุยกัน ตนไม่ได้มีส่วนในการที่จะเข้าเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง ฉะนั้น ไม่ว่าจะมีมือหรือไม่มีมือ ตนก็ไม่ทราบ (นายกฯหัวเราะ)
