พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ญาติผู้พี่ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน มาทาบทามให้ตนเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตนจึงรับปาก เพราะต้องสู้ บ้านเมืองกำลังวิกฤติถ้าคิดว่าตนเข้าไปทงำานได้ก็จะรับตำแหน่ง ซึ่งคุยกันเรียบร้อยแล้ว และตอบรับไปแล้ว แต่แปลกใจที่ ส.ส.บางคนของพรรคบอกว่า ตนไม่สู้ไม่เอา ซึ่งความจริงตกลงกันแล้ว แต่ยังไม่ได้หารือกับคนในตระกูลชินวัตร
ผมไม่ได้คุยกับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ที่มีข่าวว่าจะมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพราะขนาดเบอร์โทรศัพท์ยังไม่มี ทุกวันนี้คุยกับเพียงนางพจนีย์ ณ ป้อมเพชร มารดาคุณหญิง พจมาน ซึ่งขณะนี้คิดว่า ควรใช้ผมในการทำงานไปก่อน ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ หรือคุณหญิงพจมาน ควรจะเก็บไว้เป็นไพ่ใบสุดท้าย
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คิดอย่างไรที่ท่านจะลงเล่นการเมือง พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า เขาเป็นนักการเมืองมืออาชีพ เขามองออก คงต้องถามเขา แต่เขาไม่ได้ประกาศออกมาชัดเจน มีแต่ลูกพรรคที่ออกมาปฏิเสธแทนตนว่า ตนจะไม่เล่นการเมือง จึงอยากประกาศว่าตนจะเล่นการเมือง ทั้งนี้หากจะไปอยู่พรรคเพื่อไทย ตนยินดีเพราะเป็นพรรคใหญ่และมีโอกาสได้ทำงาน อย่างไรก็ตามยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณในการลงเล่นการเมือง แต่ลึกๆ ท่านคงไม่อยากให้ตนเล่นการเมือง เพราเล่นแล้วเหนื่อย โดยเฉพาะในช่วงนี้ แต่ตนมองว่า เป็นสิ่งที่ท้าทาย หากไปเล่นแล้วนั่งสบายๆ คงไม่เอา ส่วนที่มีการคาดว่า จะได้เป็นนายกฯนั้น คิดว่ายังมีพรรษาไม่ถึง คงต้องเป็นไปตามขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวถามว่าเกรงหรือไม่ว่าคนจะมองว่าเป็นนอมีนีของพ.ต.ท.ทักษิณ พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า นามสกุลมันฟ้อง ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ต้องดูพฤติกรรมว่า เป็นแล้วทำอะไรบ้าง แต่ลึกๆแล้วตัดสินใจลงเล่นการเมือง เพราะคนในตระกูลชินวัตรถูกกระทำ และคิดว่า การทำงานการเมืองน่าจะมีประโยชน์ต่อชาติ เมือถามว่า มองการโฟนอิน ของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะแฉศัตรูทางการเมืองอย่างไร พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเราโดนขนาดนั้นถ้าไม่ต่อสู้ หรือไม่ชี้แจง เขาในฐานะคนไทยจึงต้องสู้ อย่าลืมว่าประชาชนส่วนใหญ่โดนมอมเมาเยอะ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะฝากอะไรถึง พล.อ.อนุงพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เกี่ยวกับการดูแลสถานการณ์บ้านเมือง พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ตนอยากคุยกับพล.อ.อนุพงษ์ ซึ่งได้ติดต่อไปแล้ว แต่ยังเฉยอยู่ ส่วน่รายละเอียดที่จะไปคุยต้องไปคุยส่วนตัว ในฐานะที่ตนเป็นอดีต ผบ.ทบ.จะเป็นที่ปรึกษาโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าเขาไม่ปรึกษา เรามีสิ่งไหนดี ต้องเก็บไว้ก่อน ซึ่งตนอยากคุยกับท่านเพื่อหาทางออกให้บ้านเมือง เพราะหกกปล่อยไปคงดูไม่จืด
ผบ.ทบ.คงอึดอัดต่อสถานการณ์การเมือง เพราะถ้าไม่อึดอัดคงทำอะไรไปแล้ว แต่โอกาสที่พล.อ.อนุพงษ์ จะใช้วีการปฏิวัติเชื่อว่าไม่มีเพราะล้าสมัยไปแล้ว และทำให้ประเทชาติล่มจมหนัก รวมถึงไม่ใช่วิถีทางที่ควรทำ ทั้งนี้ความจริงเราต้องมาช่วยกันคิด ใช้สมองเพื่อให้ทุกอย่างลงเอยด้วยดี ไม่มีการนองเลือด ซึ่งเป็นเรื่องที่หนักใจกับผู้ที่รับผิดชอบบ้านเมืองในขณะนี้เพราะอยู่ในภาวะหวานอมขมกลืน จึงต้องอดทน ส่วนทางออกต้องปรึกษากัน พูดมากไม่ได้ ทั้งนี้ทุกคนหนักใจ เพราะมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง แต่ต้องต้องมานั่งจับเข่าคุยกันเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่าห่วงประชาชนที่ชุมนุมในทำเนียบหรือไม่ เพราะเกิดเหตุระเบิดรายวัน พล.อ.ชัยสทธิ์ กล่าวว่า เป็นห่วงชีวิตประชาชนทุกคน ไม่อยากให้มีการ สูญเสีย ทางใดที่จะไม่มีการสูญเสียควรจะทำ
ส่วนกระแสข่าวที่ว่า พ.ต.ท. ทักษิณ จะกลับไทยวันที่ 25 ธ.ค. และคุณหญิงพจมาน จะกลับมาในวันที่ 25 พ.ย.นี้นั้นพล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า คงตอบไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา แต่หากกลับมาได้ เราในฐานะญาติก็ดีใจ และเป็นห่วงอยากให้เขาอยู่อย่างสบาย
นางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรค การเมือง กล่าวถึงกรณีนายสุชาติ ธาดาธำรงค์เวช ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค เพื่อไทย ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งจากการลาออกของหัวหน้าพรรคเพื่อไทยมายัง กกต.อย่างเป็นทางการ ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยจะต้องแจ้งการลาออกของหัวหน้าพรรค มายังกกต.ภายใน 30 วัน และจากนั้นจะต้องมีการประชุมใหญ่ เพื่อเลือก กรรมการบริหารพรรคอีกภายใน 30 วัน ซึ่งรวมทั้งหมดไม่เกินภายใน 60 วัน
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยจะให้คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นหัวหน้าพรรคสามารถทำได้หรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า ตามกฎหมายพรรคการเมือง บุคคลที่มีสัญชาติไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป และไม่ต้องโทษคดีทางอาญาจนถึงที่สุดสามารถเป็นหัวหน้าพรรคได้ ซึ่งในกรณีของ คุณหญิงพจมาน คดีความยังไม่ถึงที่สุดดังนั้นจึงไม่น่าเป็นปัญหา หากคุณสมบัติครบถ้วนตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองพ.ศ.2550 ก็มีสิทธิที่จะเป็นหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคได้
ส่วนกรณีคุณหญิงพจมานถูกออกหมายจับจะมีผลต่อการห้ามดำรงตำแหน่ง กรรมการบริหารพรรคหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า การออกหมายจับและกลับมาสู้คดีก็ไม่ได้มีอะไร อาจจะเป็นมีการขอประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ และฏีกาต่อไป ซึ่งขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของศาลที่จะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่
นางสดศรี กล่าวถึงกรณี 3 พรรคการเมืองซึ่งจะถูกพิจารณายุบพรรคอ้างว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการชี้แจงของ กกต. ว่า เป็นธรรมดาของทางพรรคเหล่านั้นที่จะยกข้อต่อสู้ใดๆมาชี้แจงในชั้นศาล ทั้งนี้ ยืนยันว่าการที่ กกต.มีคำสั่งให้ยุบพรรคทั้ง 3 พรรคการเมืองนั้น กกต.ได้ตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ อย่างรอบคอบและก่อนหน้านี้ก็ได้มีการตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างกกต.และอัยการสูงสุด ขึ้นมาพิจารณา ดังนั้นพยานหลักฐานต่าง ๆ จึงถือว่าครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าในอนาคตจะมีคนนอกมาเป็นกรรมการบริหารพรรคที่ไม่ใช่นักการเมืองเพื่อเลี่ยงการถูกเพิกถอนสิทธิจะมีการแก้ไขกฎหมายหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า กรณีดังกล่าวคงไม่ต้องมีการแก้ไขกฎหมายเนื่องจากบุคคลที่ลงสมัครส.ส. มีการกำหนดคุณสมบัติอยู่แล้วส่วนคนเป็นนายกรัฐมนตรีต้องเป็นหัวหน้าพรรค
ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่ พรรคพลังประชาชนเตรียมที่จะมีการ ถ่ายโอนสมาชิก และกรรมการบรหารพรรคไปยังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย นางสดศรีกล่าวว่า การที่สมาชิกพรรคจะย้ายพรรคไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ แต่ถ้าสมาชิกพรรคลาออกและไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคใหม่สามารถทำได้ถ้าพรรคนั้นเป็นพรรคที่นายทะเบียนพรรคการเมืองรับรอง แต่อย่างไรก็ตามเท่าที่ตรวจสอบขณะนี้ไม่พบความเคลื่อนไหวการลาออกเพื่อหนีการยุบพรรคแต่อย่างใด
ผมไม่ได้คุยกับคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ที่มีข่าวว่าจะมาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เพราะขนาดเบอร์โทรศัพท์ยังไม่มี ทุกวันนี้คุยกับเพียงนางพจนีย์ ณ ป้อมเพชร มารดาคุณหญิง พจมาน ซึ่งขณะนี้คิดว่า ควรใช้ผมในการทำงานไปก่อน ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว พ.ต.ท.ทักษิณ หรือคุณหญิงพจมาน ควรจะเก็บไว้เป็นไพ่ใบสุดท้าย
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คิดอย่างไรที่ท่านจะลงเล่นการเมือง พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า เขาเป็นนักการเมืองมืออาชีพ เขามองออก คงต้องถามเขา แต่เขาไม่ได้ประกาศออกมาชัดเจน มีแต่ลูกพรรคที่ออกมาปฏิเสธแทนตนว่า ตนจะไม่เล่นการเมือง จึงอยากประกาศว่าตนจะเล่นการเมือง ทั้งนี้หากจะไปอยู่พรรคเพื่อไทย ตนยินดีเพราะเป็นพรรคใหญ่และมีโอกาสได้ทำงาน อย่างไรก็ตามยังไม่ได้มีการพูดคุยกับพ.ต.ท.ทักษิณในการลงเล่นการเมือง แต่ลึกๆ ท่านคงไม่อยากให้ตนเล่นการเมือง เพราเล่นแล้วเหนื่อย โดยเฉพาะในช่วงนี้ แต่ตนมองว่า เป็นสิ่งที่ท้าทาย หากไปเล่นแล้วนั่งสบายๆ คงไม่เอา ส่วนที่มีการคาดว่า จะได้เป็นนายกฯนั้น คิดว่ายังมีพรรษาไม่ถึง คงต้องเป็นไปตามขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวถามว่าเกรงหรือไม่ว่าคนจะมองว่าเป็นนอมีนีของพ.ต.ท.ทักษิณ พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า นามสกุลมันฟ้อง ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่ต้องดูพฤติกรรมว่า เป็นแล้วทำอะไรบ้าง แต่ลึกๆแล้วตัดสินใจลงเล่นการเมือง เพราะคนในตระกูลชินวัตรถูกกระทำ และคิดว่า การทำงานการเมืองน่าจะมีประโยชน์ต่อชาติ เมือถามว่า มองการโฟนอิน ของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่จะแฉศัตรูทางการเมืองอย่างไร พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเราโดนขนาดนั้นถ้าไม่ต่อสู้ หรือไม่ชี้แจง เขาในฐานะคนไทยจึงต้องสู้ อย่าลืมว่าประชาชนส่วนใหญ่โดนมอมเมาเยอะ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะฝากอะไรถึง พล.อ.อนุงพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.เกี่ยวกับการดูแลสถานการณ์บ้านเมือง พล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า ตนอยากคุยกับพล.อ.อนุพงษ์ ซึ่งได้ติดต่อไปแล้ว แต่ยังเฉยอยู่ ส่วน่รายละเอียดที่จะไปคุยต้องไปคุยส่วนตัว ในฐานะที่ตนเป็นอดีต ผบ.ทบ.จะเป็นที่ปรึกษาโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าเขาไม่ปรึกษา เรามีสิ่งไหนดี ต้องเก็บไว้ก่อน ซึ่งตนอยากคุยกับท่านเพื่อหาทางออกให้บ้านเมือง เพราะหกกปล่อยไปคงดูไม่จืด
ผบ.ทบ.คงอึดอัดต่อสถานการณ์การเมือง เพราะถ้าไม่อึดอัดคงทำอะไรไปแล้ว แต่โอกาสที่พล.อ.อนุพงษ์ จะใช้วีการปฏิวัติเชื่อว่าไม่มีเพราะล้าสมัยไปแล้ว และทำให้ประเทชาติล่มจมหนัก รวมถึงไม่ใช่วิถีทางที่ควรทำ ทั้งนี้ความจริงเราต้องมาช่วยกันคิด ใช้สมองเพื่อให้ทุกอย่างลงเอยด้วยดี ไม่มีการนองเลือด ซึ่งเป็นเรื่องที่หนักใจกับผู้ที่รับผิดชอบบ้านเมืองในขณะนี้เพราะอยู่ในภาวะหวานอมขมกลืน จึงต้องอดทน ส่วนทางออกต้องปรึกษากัน พูดมากไม่ได้ ทั้งนี้ทุกคนหนักใจ เพราะมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง แต่ต้องต้องมานั่งจับเข่าคุยกันเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด
ผู้สื่อข่าวถามว่าห่วงประชาชนที่ชุมนุมในทำเนียบหรือไม่ เพราะเกิดเหตุระเบิดรายวัน พล.อ.ชัยสทธิ์ กล่าวว่า เป็นห่วงชีวิตประชาชนทุกคน ไม่อยากให้มีการ สูญเสีย ทางใดที่จะไม่มีการสูญเสียควรจะทำ
ส่วนกระแสข่าวที่ว่า พ.ต.ท. ทักษิณ จะกลับไทยวันที่ 25 ธ.ค. และคุณหญิงพจมาน จะกลับมาในวันที่ 25 พ.ย.นี้นั้นพล.อ.ชัยสิทธิ์ กล่าวว่า คงตอบไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา แต่หากกลับมาได้ เราในฐานะญาติก็ดีใจ และเป็นห่วงอยากให้เขาอยู่อย่างสบาย
นางสดศรี สัตยธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรค การเมือง กล่าวถึงกรณีนายสุชาติ ธาดาธำรงค์เวช ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรค เพื่อไทย ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งจากการลาออกของหัวหน้าพรรคเพื่อไทยมายัง กกต.อย่างเป็นทางการ ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยจะต้องแจ้งการลาออกของหัวหน้าพรรค มายังกกต.ภายใน 30 วัน และจากนั้นจะต้องมีการประชุมใหญ่ เพื่อเลือก กรรมการบริหารพรรคอีกภายใน 30 วัน ซึ่งรวมทั้งหมดไม่เกินภายใน 60 วัน
ส่วนที่พรรคเพื่อไทยจะให้คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นหัวหน้าพรรคสามารถทำได้หรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า ตามกฎหมายพรรคการเมือง บุคคลที่มีสัญชาติไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป และไม่ต้องโทษคดีทางอาญาจนถึงที่สุดสามารถเป็นหัวหน้าพรรคได้ ซึ่งในกรณีของ คุณหญิงพจมาน คดีความยังไม่ถึงที่สุดดังนั้นจึงไม่น่าเป็นปัญหา หากคุณสมบัติครบถ้วนตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองพ.ศ.2550 ก็มีสิทธิที่จะเป็นหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคได้
ส่วนกรณีคุณหญิงพจมานถูกออกหมายจับจะมีผลต่อการห้ามดำรงตำแหน่ง กรรมการบริหารพรรคหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า การออกหมายจับและกลับมาสู้คดีก็ไม่ได้มีอะไร อาจจะเป็นมีการขอประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ และฏีกาต่อไป ซึ่งขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของศาลที่จะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่
นางสดศรี กล่าวถึงกรณี 3 พรรคการเมืองซึ่งจะถูกพิจารณายุบพรรคอ้างว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการชี้แจงของ กกต. ว่า เป็นธรรมดาของทางพรรคเหล่านั้นที่จะยกข้อต่อสู้ใดๆมาชี้แจงในชั้นศาล ทั้งนี้ ยืนยันว่าการที่ กกต.มีคำสั่งให้ยุบพรรคทั้ง 3 พรรคการเมืองนั้น กกต.ได้ตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆ อย่างรอบคอบและก่อนหน้านี้ก็ได้มีการตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างกกต.และอัยการสูงสุด ขึ้นมาพิจารณา ดังนั้นพยานหลักฐานต่าง ๆ จึงถือว่าครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าในอนาคตจะมีคนนอกมาเป็นกรรมการบริหารพรรคที่ไม่ใช่นักการเมืองเพื่อเลี่ยงการถูกเพิกถอนสิทธิจะมีการแก้ไขกฎหมายหรือไม่ นางสดศรี กล่าวว่า กรณีดังกล่าวคงไม่ต้องมีการแก้ไขกฎหมายเนื่องจากบุคคลที่ลงสมัครส.ส. มีการกำหนดคุณสมบัติอยู่แล้วส่วนคนเป็นนายกรัฐมนตรีต้องเป็นหัวหน้าพรรค
ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่ พรรคพลังประชาชนเตรียมที่จะมีการ ถ่ายโอนสมาชิก และกรรมการบรหารพรรคไปยังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย นางสดศรีกล่าวว่า การที่สมาชิกพรรคจะย้ายพรรคไม่สามารถทำได้ เพราะไม่มีกฎหมายรองรับ แต่ถ้าสมาชิกพรรคลาออกและไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคใหม่สามารถทำได้ถ้าพรรคนั้นเป็นพรรคที่นายทะเบียนพรรคการเมืองรับรอง แต่อย่างไรก็ตามเท่าที่ตรวจสอบขณะนี้ไม่พบความเคลื่อนไหวการลาออกเพื่อหนีการยุบพรรคแต่อย่างใด