“เทพเทือก” จี้ชาติไทย-เพื่อแผ่นดิน ตอบคำถามสังคม ร่วมรัฐบาล "พลังแม้ว" เชื่อ “แม้ว” บงการตั้งรัฐบาล แฉกลุ่มอำนาจเก่าแฟงตัวใน กกต.ร่วม 100 ชีวิต ทำงานอืด มั่นใจ “สมชัย จึงประเสริฐ” ไขก๊อก ไม่ส่งผลกระทบใบเหลือง-แดง
วันนี้ (1 ม.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย ระบุว่า พรรคชาติไทย และพรรคเพื่อแผ่นดิน พร้อมที่จะไปร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชาชนว่า ต้องไปดูว่าทั้งสองพรรคให้เหตุผลอย่างไร แม้กติกาเดิมคือใครที่ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับหนึ่งก็มีสิทธิ์ที่จะรวบรวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลก่อน แต่เราไม่จำเป็นต้องนำมาพูดถึงก็ได้เพราะตามเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญระบุว่า การเลือกนายกรัฐมนตรีต้องเลือกด้วยเสียงของ ส.ส.ข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหมายความว่าใครรวบเสียงข้างมากได้ก็ตั้งรัฐบาลได้ แต่เมื่อพรคพลังประชาชนอ้างว่าได้รับเลือกตั้งมามากกว่าพรรคอื่นๆ จึงขอสิทธิ์ในการตั้งก่อน พรรคประชาธิปัตย์ ยอมให้ดำเนินการ
คำถามคือ ถ้าจากนี้ไปถึงวันประชุมสภาเพื่อเลือกนายกฯ พรรคพลังประชาชน ไม่ใช่พรรคที่มีเสียงมากที่สุด พรรคชาติไทยและพรรคเพื่อแผ่นดินจะตอบคำถามของประชาชนได้อย่างไร คิดว่าทั้งสองพรรคนี้ต้องมีเหตุผลที่จะอธิบายต่อประชาชน พรรคประชาธิปัตย์ยังถือว่าตราบใดที่กระบวนการของคณะกรรมาการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการตรวจสอบผู้ชนะการเลือกตั้งว่าได้ชัยชนะมาอย่างสุจริตหรือได้ฝ่าฝืนกฎหมาย ว่ามีทั้งหมดกี่คน ยังไม่ยุติก็ต้องติดตามการต่อไป
ส่วนการให้ใบเหลืองใบแดงของ กกต.จะมีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการจับมือจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า การรวบรัดจัดขั้วตั้งรัฐบาล เป็นการเบี่ยงเบนเจตนารมณ์ของประชาชน ทั้งที่นักการเมืองต้องคำนึงเจตนารมณ์ของประชาชน เป็นสำคัญ และคิดว่าพรรคพลังประชาชนเริ่มไม่มั่นใจเสียงที่ตนเองได้มาว่ามากที่สุด จึงต้องรวบรัดจับขั้วกัน เพราะสังเกตว่ากรณีที่ กกต.ให้ใบแดง พรรคพลังประประชาชน รู้ดีว่าจากที่เคยใช้วิธีการที่ไม่สุจริต ในการเลือกตั้ง วันนี้ได้มีคนมาตรวจสอบแล้ว และพบว่ามีหลักฐานการกระทำผิดจริง และคงกลัวว่าจะถูกจับได้ จึงต้องรีบรวบรัดเสียก่อน
เมื่อถามว่า กรณีนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านการสืบสวนสอลบสวน เริ่มถอดใจ ขอกลับไปทำงานที่ศาล นายสุเทพ กล่าวว่า แล้วแต่ คงไม่สามารถไปวิจารณ์อะไรได้ แต่ขอให้กำลัง กกต.ที่เหลืออีก 4 ท่านให้ทำงานต่อไปอย่าได้กลัวอะไร
เมื่อถามย้ำว่าหากมี กกต.คนใดลาออกไปจะยิ่งสะท้อนให้เห็นว่ามีแรงกดดันต่อ กกต. หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่แน่ใจ ว่าเป็นการลาออกเพราะทนแรงกดดันไม่ได้หรือเหตุผลอื่นใด เรื่องนี้ต้องตามดูว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ควรยึด กกต.ส่วนใหญ่เป็นหลักจะดีกว่า กกต.ชุดนี้มาจากการคัดเลือกของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา แต่ละคนมีประวัติการรับราชการที่ประชาชนสามารถฝากความหวังได้ เพียงแต่ท่านไม่ได้ลงไปทำคดีเองแต่ต้น แต่ต้องรอเจ้าหน้าที่ระดับล่างส่งเรื่องมาให้ ซึ่งถ้าเจ้าหน้าทีเหล่านี้ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่อย่างถูกต้อง กกต.ชุดใหญ่ก็ทำงานลำบาก เพราะคนในกกต.เองก็มีกลุ่มอำนาจเก่ากว่า 100 คน บางสำนวนยังไปไม่ถึงมือ กกต.หากไม่สามารถจัดองคาพยพนี้ได้ กกต.จะทำงานลำบาก
เมื่อถามถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีออกมาให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางการเมืองไทยและย้ำว่านายสมัคร สุนทรเวช เหมาะเป็นนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ กล่าวว่า วันนี้ประชาชนที่ติดตามการเมืองต้องยอมรับว่า นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน ไม่ใช่หัวหน้าพรรคตัวจริง แต่ตัวจริงอยู่ต่างประเทศ สิ่งเหล่านี้ได้ฟ้องต่อประชาชน ชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้เห็นว่า การที่ คณะตุลาการรัฐธรรมนูญสั่งห้าม อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยเข้ามายุ่งเกี่ยวการเมืองนั้น ที่จริงแล้วคนเหล่านี้ไม่ได้หยุด และยังทำมาตลอด ซึ่งที่จริง ตนคิดว่าประชาชนทุกคนต้องช่วยกันตรวจสอบ และตนจะพยายามหาหลักฐานมาแสดงให้เห็นว่า คนในกลุ่มอำนาจเก่า ได้เข้ามากำกับบงการและจัดการทางการเมืองตลอดเวลา ซึ่งเป็นที่มาของการเลือกตั้งที่ไม่สุจริต
เมื่อถามว่า กกต.สามารถใช้คำสัมภาษณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ มาพิจารณา เป็นหลักฐานการเป็นตัวแทนของพรรคการเมืองได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ทราบว่า กกต.จะพิจารณาอย่างไร แต่ประชาชนที่ได้ทราบเรื่องนี้ก็คงเห็นได้ชัดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นตัวบงการการเมืองของประเทศไทยอย่างแท้จริง
เมื่อถามถึงความถึงความคืบหน้ากรณีนายสุเทพ เคยออกมาเปิดเผยว่ามีการขนเงินเข้าประเทศผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิ และได้มีการนำข้อมูลเหล่านี้ส่งไปให้ผู้เกี่ยวข้องรวมถึง กกต. สอบสวนขยายผลหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ได้แจ้งผู้เกี่ยวข้อง ไปแล้ว แต่ยังไม่เห็นว่ามีการดำเนินการที่ได้ผล อย่างไรก็ตามยังมีข้อมูลอื่นๆ ที่พรรคได้รับการร้องเรียนมา เช่น กรณีที่มีตำรวจติดตามนักการเมืองชื่อดัง ที่ จ.เชียงราย ข่มขู่ผู้นำท้องถิ่นให้สนับสนุน พรรคพลังประชาชน มิฉะนั้นจะฆ่าให้ตาย และไม่ให้อยู่ใน จ.เชียงราย เรื่องนี้ได้มีการปรึกษาฝ่ายกฎหมายของพรรคว่าจะควรทำเรื่องถึงผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้สอบสวนเรื่องดังกล่าว จึงอยากฝากบอกให้ท่านดำเนินการด้วย ยืนยันว่ามีหลักฐานที่เชื่อถือได้