“แม้ว” หอบครอบครัวซุกหัวอังกฤษแล้ว ร่อนโทรสารแก้ตัวน้ำขุ่นๆ สามหาวไม่เชื่อกระบวนการยุติธรรมชั้นศาล พาลหาเรื่องพิพากษาแบบสองมาตรฐาน และมีกระบวนการแทรกแซง อ้างถูกตามล่าสังหาร ปลุกระดมคนรักทักษิณอดใจรอ ลั่นลี้ภัยชั่วคราว เพ้อขอกลับมาตายที่เมืองไทยแน่
วันนี้ (11 ส.ค.) เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ส่งโทรสารมาจากประเทศอังกฤษเพื่อชี้แจงถึงสาเหตุที่ไม่เดินทางเข้ารายงานตัวต่อศาลฎีกาในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ในวันนี้ว่า เนื่องจากเกรงความไม่ปลอดภัย และต้องขอลี้ภัยมาอยู่ที่ประเทศอังกฤษ เนื่องจากยึดหลักประชาธิปไตย ทั้งนี้ มีความพยายามกำจัดตนด้วยการส่งคนมาลอบสังหารจนทำให้ขาดความปลอดภัยต้องนั่งรถกันกระสุนตลอดเวลา
พ.ต.ท.ทักษิณ ระบุอีกว่า หลังการรัฐประหารมีการจัดตั้งกลุ่มบุคคลเพื่อร่างรัฐธรรมนูญเพื่อจัดการฝ่ายตรงข้ามและหวังผลทางการเมือง จนกระทั่งหลังการเลือกตั้งพรรคพลังประชาชนชนะการเลือกตั้ง ตนมั่นใจว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้นจึงได้ตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทย แต่สุดท้ายเหตุการณ์เลวร้ายลงทุกที มีกระบวนการแทรกแซงศาลยุติธรรมจนทำให้การตัดสินกลายเป็นสองมาตรฐาน ขัดต่อหลักนิติธรรมสากล เพียงเพื่อต้องการทำร้ายทำลายตนและครอบครัว เพื่อกำจัดให้พ้นจากการเมืองและผืนแผ่นดินไทย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องลี้ภัยเป็นการชั่วคราว
สุดท้ายขอสัญญาว่า 1.จะยืนหยัดจงรักดีต่อชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ และจะมีกลุ่มบุคคลพยายามใส่ร้าย 2.ขอยืนยันในความบริสุทธิ์และไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ถูกกล่าวหา โดยขอให้กลุ่มบุคคลที่สนับสนุนอดใจรอและจะชี้แจงความจริงทั้งหมดให้ทราบ 3.ขอยืนยันว่าจะขอกลับมาตายที่ผืนแผ่นดินไทย”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คำชี้แจงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เขียนด้วยลายมือตัวเอง และได้มีการส่งโทรสารมาที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล และมีสถานีโทรทัศน์ NBT ช่องเดียวที่อ่านออกอากาศเป็นช่องแรก
สถานีโทรทัศน์ NBT ออกอากาศแถลงการณ์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
รายละเอียด “ทักษิณ” ออกแถลงการณ์
“ก่อนอื่น กระผมต้องกราบขอประทานอภัยต่อคณะผู้พิพากษาที่ดินรัชดาฯ รวมถึงพี่น้องประชาชนผู้สนับสนุนผมทุกท่าน ที่ผมและภรรยาได้เดินทางไปยังประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศที่ยึดหลักการประชาธิปไตยเหนือสิ่งอื่นใดและไม่ได้ไปรายงานตัวต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมและครอบครัว พร้อมกับบุคคลผู้ใกล้ชิดเป็นผลพวงต่อเนื่องมาจากความต้องการขจัดผมออกจากการเมือง ด้วยความพยายามลอบสังหาร นอกจากนี้ ยังตามมาด้วยการปฏิวัติรัฐประหาร แต่งตั้งคณะบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์มาดำเนินคดีเฉพาะตัวผมและครอบครัว
ร่างรัฐธรรมนูญที่สืบทอดอำนาจเผด็จการ แต่งตั้งบุคคลที่สนับสนุนการปฏิวัติรัฐประหาร ทั้งทางตรงและทางอ้อม เข้าไปเป็นกรรมการในองค์กรต่างๆ เพื่อดำเนินการกับผม
เมื่อมีการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงเลือกพรรคพลังประชาชนที่ผู้สมัครส่วนมากมาจากพรรคไทยรักไทยเดิม ให้กลับคืนมาทำหน้าที่แทนของพวกเขา ผมคิดว่าเหตุการณ์คงจะดีขึ้น ผมคงมีโอกาสได้กลับไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ และได้รับความเป็นธรรม จึงได้เดินทางกลับมาประเทศไทยเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2551 แต่เหตุการณ์กลับยิ่งเลวร้ายลง เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวผมและครอบครัวเป็นเสมือนผลไม้ ที่เกิดจากต้นไม้ที่เป็นพิษ ผลของมันก็ย่อมเป็นพิษตามไปด้วย นั่นก็คือยังคงมีการสืบทอดระบอบเผด็จการในการจัดการการเมืองไทยในระบอบประชาธิปไตย ตามมาด้วยการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม โดยเอาผลลัพธ์ที่อยากจะได้เป็นตัวตั้ง เพื่อจัดการกับผมและครอบครัว ซึ่งบุคคลกลุ่มนี้ถือว่าเป็นศัตรูทางการเมือง โดยไม่คำนึงถึงระบบกฎหมาย ระบบข้อเท็จจริงและการสอบสวนดำเนินคดีตามหลักนิติธรรมสากล ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายว่าด้วยพยานหลักฐาน การบังคับใช้กฎหมายที่เป็นผลย้อนหลัง ไม่ยอมใช้หลักนิติธรรม และหลักนิติรัฐ ผมและครอบครัวได้ถูกดำเนินการอย่างไม่เป็นธรรมเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง
การแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมและการใช้ระบบ 2 มาตรฐานที่เห็นได้อย่างชัดเจน ทำให้ผมและครอบครัว พร้อมด้วยผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่ยังเทียบไม่ได้กับการที่ระบบยุติธรรมของประเทศและองค์กรที่เกี่ยวข้อง ที่มีเกียรติ มีความน่าเชื่อถือ สั่งสมมาเป็นเวลานานต้องเสื่อมลง เพราะถูกนำมาใช้ทางการเมืองจนขาดความเป็นกลาง ซึ่งเป็นผลเสียหายต่อประเทศอย่างใหญ่หลวง
นอกจากนี้ ผมได้รับข่าวสารตลอดว่า ชีวิตของกระผมไม่ปลอดภัยในการเดินทางไปไหนมาไหนจึงต้องใช้รถกันกระสุน นี่คือผลที่ได้รับจากการเข้ามาทำงานรับใช้ประเทศ ราชบัลลังก์ และประชาชน ด้วยความทุ่มเททำงานอย่างหนักมาตลอด เกือบ 6 ปีที่ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ผมจึงต้องขออภัยอีกครั้งหนึ่ง ที่ต้องตัดสินใจมาอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และขอยืนยันว่า
ข้อที่ 1 ผมและครอบครัว มีความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และราชวงศ์ทุกพระองค์ อย่างหาที่สุดมิได้ แม้ว่าจะมีผู้จงใจใส่ร้ายมาโดยตลอด
ข้อที่ 2 ถึงแม้ผมไม่ใช่คนดีสมบูรณ์แบบ แต่ผมขอยืนยันว่า ผมไม่ได้เลวอย่างที่ถูกกล่าวหา
เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ผมจะแถลงความจริงในทุกท่านทราบ วันนี้ยังไม่ใช่วันของผม ขอให้ผู้สนับสนุนอดทนอีกนิดหนึ่งครับ
ข้อที่ 3 หากผมยังมีวาสนา ผมจะขอกลับมาตายบนผืนแผ่นดินไทย เฉกเช่นคนไทยทุกๆ คน
ด้วยความเคารพรัก
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร