ก่อนจะพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีหุ่นหอกหัก สมัคร สุนทรเวช ตั้งคำถามว่า “ให้ผมออกไปแล้ว ใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี?”
ข้อสงสัยของนายสมัคร สุนทรเวช เกิดขึ้นเพราะทอดตาไปทั่วทั้งพรรคพลังประชาชนแล้ว จะมีใครอีกที่จะอยู่ในระนาบเดียวกับเขาได้ คือมีคุณสมบัติเลวพอที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายทุนใหญ่ของพรรคจะยอมรับได้ รวมทั้งประชาชนคนไทยที่รับรู้ข้อมูลข่าวสารในทำนองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกกลั่นแกล้ง เป็นคนที่ร่ำรวยอยู่เดิมแล้วไม่มีทางที่จะคอร์รัปชันหรือโกงบ้านกินเมือง
ในที่สุดข้อสงสัยของนายกรัฐมนตรีหุ่นหอกหัก สมัคร สุนทรเวช ก็มีคำตอบออกมาแล้ว
คือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
เป็นคำตอบที่เมื่อนายสมัคร สุนทรเวช รับทราบแล้ว ก็ยังงงไม่หาย รับรู้แล้วก็แทบจะสิ้นสติสมประดีทีเดียว เพราะคาดไม่ถึง
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เลวพอที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะยอมรับได้เช่นเดียวกับนายสมัคร สุนทรเวช หรือไม่?
คุณสมบัติข้อนี้ต้องพิจารณากันมากสักหน่อย
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นตุลาการเก่า ก่อนที่จะโยกมารับงานด้านธุรการเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม
เป็นตุลาการที่ได้ชื่อว่ามีเกียรติประวัติ มีผลงานดีคนหนึ่ง
แต่นั่นก็เป็นช่วงเวลาที่พี่เมียคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังไม่เข้าสู่สนามการเมือง
หากแต่เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ชนะการเลือกตั้ง และได้จัดตั้งรัฐบาล แต่ต้องเผชิญกับปัญหาซุกหุ้นนั้นดอก ที่จะต้องพิจารณาเป็นพิเศษ
มีข่าวชัดเจนว่า นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกหน้าช่วยพี่ชายด้วยการเข้าพบตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ช่วยคดีพี่ชายให้หลุดพ้นจากคดีซุกหุ้น
มีชื่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เข้าพบ มีข้อเสนอชัดเจนว่า ถ้าหากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านนั้นให้การช่วยเหลือ จะได้รับการตอบแทนอย่างไรบ้าง
ในที่สุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็พ้นคดีซุกหุ้นจริงๆ มาเป็นนายกรัฐมนตรีครบเทอม และสมัยที่สองก็ได้รับการเลือกตั้ง ด้วยชัยชนะถล่มทลาย ถ้าหากไม่มีกรณีขายธุรกิจให้เทมาเส็ก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ยังคงหลอกลวงประชาชนคนไทยได้อีกต่อไป
แต่ก็นั่นแหละ วันนี้ก็ยังสามารถทำเอาพวกบัวใต้ตุ่มงมงายได้อยู่อีก
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตผู้พิพากษา อดีตตุลาการ รู้เห็นอย่างไรหรือไม่กับบทบาทของภริยาในการวิ่งเต้นช่วยเหลือพี่ชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำให้วงการตุลาการ (ศาลรัฐธรรมนูญขณะนั้น) มัวหมอง
และในวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวต้องระเห็จไปอยู่อังกฤษ หนีหมายจับของศาลสถิตยุติธรรมหลายคดี โดยที่ก่อนหน้านั้น คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ผู้เป็นภริยาถูกศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 3 ปี
ให้คำพิพากษามีความตอนหนึ่งว่า
จำเลยที่ 2 (คุณหญิงพจมาน ชินวัตร) เป็นภริยาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับผู้บริหารประเทศ นอกจากมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตนเยี่ยงพลเมืองดีทั่วๆ ไปแล้ว ยังควรดำรงตนให้เป็นตัวอย่างที่ดีสมฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมด้วย จำนวนภาษีอากรที่จำเลยที่ 1 จะต้องชำระตามกฎหมาย และจำเลยที่ 2 จะเป็นผู้ชำระแทน ในที่สุดนั้น เทียบไม่ได้กับจำนวนทรัพย์สินที่จำเลยที่ 2 และครอบครัวมีอยู่ในขณะนั้น การที่จำเลยที่ 1 จะชำระภาษีอากรไปตามกฎหมายเช่นพลเมืองดีทุกคน จึงมิได้มีผลกระทบต่อฐานะของจำเลยที่ 2 แต่อย่างใด
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งนั่งลุ้นฟังคำพิพากษาอยู่ด้วยในวันนั้น แทนที่จะมีความสำนึก รู้ผิด รู้ถูก รู้ดี รู้ชั่ว แม้จะไม่รู้หรือคิดได้ในวันนั้น มาถึงวันนี้ซึ่งผ่านมานานพอสมควร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็หาได้มีสำนึกไม่
คดีความของผมเป็นเรื่องการเมือง ต้องแก้ด้วยการเมือง
คำให้สัมภาษณ์ดังกล่าว นอกจากสะท้อนให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้มีสำนึกรู้ถูกรู้ผิด รู้ดี รู้ชั่วแล้ว ยังบอกให้สังคมรู้ว่า เขามีแต่ความอาฆาตแค้น และปัญหาของเขาจะต้องแก้ด้วยการเมือง นั่นก็คือ ยึดกุมอำนาจรัฐให้ได้ แล้วแก้ปัญหาของเขาและครอบครัวเพราะในความรู้สึกของเขาก็คือ เขาถูกฝ่ายตรงข้ามรุมกินโต๊ะ ยึดอำนาจไปจากเขาเมื่อ 19 กันยายน 2549 แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้วก็ฟ้องร้อง
รวมทั้งที่ศาลตัดสินให้เขาผิด ก็เป็นการร่วมมือเล่นงานเขาด้วย
การซุกหุ้นไว้กับคนใช้ คนขับรถ ยามรักษาความปลอดภัย หรือกรณีที่คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาของเขาเลี่ยงภาษีโดยที่ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกไปแล้ว 3 ปี ถ้าหากจะเป็นความผิดก็เป็นเพียงการบกพร่องโดยสุจริต หรือเป็นเพียงความผิดเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นเอง
ต้องแก้ไขด้วยการเมือง นั่นก็คือ แก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือจะต้องมีบทบัญญัติเกิดใหม่ให้บรรดาคดีความทั้งหลายที่มีชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ภริยาและลูกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นจำเลยหรือผู้ถูกกล่าวหา ให้จำหน่ายออกจากสารบบของศาล ไม่ว่าคดีนั้นจะอยู่ในการพิจารณาของศาลระดับใด หรือศาลใดก็ตามในประเทศไทย
นี่คือภาระหนักของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ และบรรดาผู้ที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างมั่นคงเหนียวแน่น อย่างอดีตผู้พิพากษาที่หันมาเอาดีทางการเมือง อย่างนายพงษ์เทพ เทพกาญจนา หรือดุษฎีบัณฑิตทางกฎหมายอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
ที่มิพักต้องพูดถึงหอกหัก สมัคร สุนทรเวช ซึ่งกลายเป็นวัตถุชำรุดหมดคุณค่าไปแล้วในสายตาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีแฟมิลี่ และบรรดาลิ่วล้อของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะต้องแบกรับต่อไปก็คือ การทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวเป็นผู้บริสุทธิ์ผุดผ่องขึ้นมาให้ได้
ทั้งที่ทางคดีศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกไปแล้ว
เผลอๆ อาจจะต้องแบกรับภาระช่วยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมามีอำนาจเป็นผู้นำของประเทศไทยอีกต่อไป
แต่ก่อนที่จะไปแบกรับภาระอันหนักอึ้งเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในอนาคตอันไกลโพ้น ปัญหาเฉพาะหน้าที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีแฟมิลี่จะต้องทำก็คือ เสียงเรียกร้องของประชาชนที่เรียกร้องให้
รัฐบาลจะต้องนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และภริยา มาต่อสู้คดีในศาล
รัฐบาลจะต้องถอนหนังสือเดินทางสีแดง ซึ่งเป็นหนังสือเดินทางสำหรับผู้บริหารประเทศ นักการทูต ฯลฯ เพราะวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่ในสภาพของคนร้ายที่หนีหมายจับของศาล
นี่เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
คุณธรรม จริยธรรม ของบุคคลที่เคยเป็นตุลาการของนายนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ หายไปไหนเสีย หายไปตั้งแต่เมื่อไร?
ข้อสงสัยของนายสมัคร สุนทรเวช เกิดขึ้นเพราะทอดตาไปทั่วทั้งพรรคพลังประชาชนแล้ว จะมีใครอีกที่จะอยู่ในระนาบเดียวกับเขาได้ คือมีคุณสมบัติเลวพอที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายทุนใหญ่ของพรรคจะยอมรับได้ รวมทั้งประชาชนคนไทยที่รับรู้ข้อมูลข่าวสารในทำนองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ถูกกลั่นแกล้ง เป็นคนที่ร่ำรวยอยู่เดิมแล้วไม่มีทางที่จะคอร์รัปชันหรือโกงบ้านกินเมือง
ในที่สุดข้อสงสัยของนายกรัฐมนตรีหุ่นหอกหัก สมัคร สุนทรเวช ก็มีคำตอบออกมาแล้ว
คือนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
เป็นคำตอบที่เมื่อนายสมัคร สุนทรเวช รับทราบแล้ว ก็ยังงงไม่หาย รับรู้แล้วก็แทบจะสิ้นสติสมประดีทีเดียว เพราะคาดไม่ถึง
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เลวพอที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะยอมรับได้เช่นเดียวกับนายสมัคร สุนทรเวช หรือไม่?
คุณสมบัติข้อนี้ต้องพิจารณากันมากสักหน่อย
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นตุลาการเก่า ก่อนที่จะโยกมารับงานด้านธุรการเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม
เป็นตุลาการที่ได้ชื่อว่ามีเกียรติประวัติ มีผลงานดีคนหนึ่ง
แต่นั่นก็เป็นช่วงเวลาที่พี่เมียคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยังไม่เข้าสู่สนามการเมือง
หากแต่เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ชนะการเลือกตั้ง และได้จัดตั้งรัฐบาล แต่ต้องเผชิญกับปัญหาซุกหุ้นนั้นดอก ที่จะต้องพิจารณาเป็นพิเศษ
มีข่าวชัดเจนว่า นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกหน้าช่วยพี่ชายด้วยการเข้าพบตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ช่วยคดีพี่ชายให้หลุดพ้นจากคดีซุกหุ้น
มีชื่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่ นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เข้าพบ มีข้อเสนอชัดเจนว่า ถ้าหากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านนั้นให้การช่วยเหลือ จะได้รับการตอบแทนอย่างไรบ้าง
ในที่สุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็พ้นคดีซุกหุ้นจริงๆ มาเป็นนายกรัฐมนตรีครบเทอม และสมัยที่สองก็ได้รับการเลือกตั้ง ด้วยชัยชนะถล่มทลาย ถ้าหากไม่มีกรณีขายธุรกิจให้เทมาเส็ก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ยังคงหลอกลวงประชาชนคนไทยได้อีกต่อไป
แต่ก็นั่นแหละ วันนี้ก็ยังสามารถทำเอาพวกบัวใต้ตุ่มงมงายได้อยู่อีก
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตผู้พิพากษา อดีตตุลาการ รู้เห็นอย่างไรหรือไม่กับบทบาทของภริยาในการวิ่งเต้นช่วยเหลือพี่ชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทำให้วงการตุลาการ (ศาลรัฐธรรมนูญขณะนั้น) มัวหมอง
และในวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวต้องระเห็จไปอยู่อังกฤษ หนีหมายจับของศาลสถิตยุติธรรมหลายคดี โดยที่ก่อนหน้านั้น คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ผู้เป็นภริยาถูกศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 3 ปี
ให้คำพิพากษามีความตอนหนึ่งว่า
จำเลยที่ 2 (คุณหญิงพจมาน ชินวัตร) เป็นภริยาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับผู้บริหารประเทศ นอกจากมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตนเยี่ยงพลเมืองดีทั่วๆ ไปแล้ว ยังควรดำรงตนให้เป็นตัวอย่างที่ดีสมฐานะทางเศรษฐกิจและสังคมด้วย จำนวนภาษีอากรที่จำเลยที่ 1 จะต้องชำระตามกฎหมาย และจำเลยที่ 2 จะเป็นผู้ชำระแทน ในที่สุดนั้น เทียบไม่ได้กับจำนวนทรัพย์สินที่จำเลยที่ 2 และครอบครัวมีอยู่ในขณะนั้น การที่จำเลยที่ 1 จะชำระภาษีอากรไปตามกฎหมายเช่นพลเมืองดีทุกคน จึงมิได้มีผลกระทบต่อฐานะของจำเลยที่ 2 แต่อย่างใด
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งนั่งลุ้นฟังคำพิพากษาอยู่ด้วยในวันนั้น แทนที่จะมีความสำนึก รู้ผิด รู้ถูก รู้ดี รู้ชั่ว แม้จะไม่รู้หรือคิดได้ในวันนั้น มาถึงวันนี้ซึ่งผ่านมานานพอสมควร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็หาได้มีสำนึกไม่
คดีความของผมเป็นเรื่องการเมือง ต้องแก้ด้วยการเมือง
คำให้สัมภาษณ์ดังกล่าว นอกจากสะท้อนให้เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้มีสำนึกรู้ถูกรู้ผิด รู้ดี รู้ชั่วแล้ว ยังบอกให้สังคมรู้ว่า เขามีแต่ความอาฆาตแค้น และปัญหาของเขาจะต้องแก้ด้วยการเมือง นั่นก็คือ ยึดกุมอำนาจรัฐให้ได้ แล้วแก้ปัญหาของเขาและครอบครัวเพราะในความรู้สึกของเขาก็คือ เขาถูกฝ่ายตรงข้ามรุมกินโต๊ะ ยึดอำนาจไปจากเขาเมื่อ 19 กันยายน 2549 แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้วก็ฟ้องร้อง
รวมทั้งที่ศาลตัดสินให้เขาผิด ก็เป็นการร่วมมือเล่นงานเขาด้วย
การซุกหุ้นไว้กับคนใช้ คนขับรถ ยามรักษาความปลอดภัย หรือกรณีที่คุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาของเขาเลี่ยงภาษีโดยที่ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกไปแล้ว 3 ปี ถ้าหากจะเป็นความผิดก็เป็นเพียงการบกพร่องโดยสุจริต หรือเป็นเพียงความผิดเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นเอง
ต้องแก้ไขด้วยการเมือง นั่นก็คือ แก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือจะต้องมีบทบัญญัติเกิดใหม่ให้บรรดาคดีความทั้งหลายที่มีชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ภริยาและลูกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นจำเลยหรือผู้ถูกกล่าวหา ให้จำหน่ายออกจากสารบบของศาล ไม่ว่าคดีนั้นจะอยู่ในการพิจารณาของศาลระดับใด หรือศาลใดก็ตามในประเทศไทย
นี่คือภาระหนักของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ และบรรดาผู้ที่สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อย่างมั่นคงเหนียวแน่น อย่างอดีตผู้พิพากษาที่หันมาเอาดีทางการเมือง อย่างนายพงษ์เทพ เทพกาญจนา หรือดุษฎีบัณฑิตทางกฎหมายอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง
ที่มิพักต้องพูดถึงหอกหัก สมัคร สุนทรเวช ซึ่งกลายเป็นวัตถุชำรุดหมดคุณค่าไปแล้วในสายตาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีแฟมิลี่ และบรรดาลิ่วล้อของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะต้องแบกรับต่อไปก็คือ การทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวเป็นผู้บริสุทธิ์ผุดผ่องขึ้นมาให้ได้
ทั้งที่ทางคดีศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกไปแล้ว
เผลอๆ อาจจะต้องแบกรับภาระช่วยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมามีอำนาจเป็นผู้นำของประเทศไทยอีกต่อไป
แต่ก่อนที่จะไปแบกรับภาระอันหนักอึ้งเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในอนาคตอันไกลโพ้น ปัญหาเฉพาะหน้าที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีแฟมิลี่จะต้องทำก็คือ เสียงเรียกร้องของประชาชนที่เรียกร้องให้
รัฐบาลจะต้องนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และภริยา มาต่อสู้คดีในศาล
รัฐบาลจะต้องถอนหนังสือเดินทางสีแดง ซึ่งเป็นหนังสือเดินทางสำหรับผู้บริหารประเทศ นักการทูต ฯลฯ เพราะวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อยู่ในสภาพของคนร้ายที่หนีหมายจับของศาล
นี่เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์
คุณธรรม จริยธรรม ของบุคคลที่เคยเป็นตุลาการของนายนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ หายไปไหนเสีย หายไปตั้งแต่เมื่อไร?