“สุริยะใส” ดักคอ “เหลิม” เบี่ยงเบนประเด็น กกต.แจกใบแดง ท้าหาก พปช.บริสุทธิ์ไม่ต้องกลัว ชี้ “สมชัย” พฤติกรรมการทำงานใน กกต.น่ากังขา แนะเคลียร์ตัวเองข้อหาโยงอำนาจเก่า ยันไม่เคยเห็นหน้า “พล.ต.ต.ชัยยะ” ในที่ชุมนุมพันธมิตรฯ
วานนี้ (31 ธ.ค.) นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวถึงการออกมาพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ระบุว่ามี พล.ต.ต.นายหนึ่ง ได้รับแต่งตั้งจาก กกต.ให้ดูแลรับผิดชอบเรื่องการสอบสวนทุจริตเลือกตั้ง และขึ้นตรงต่อ กกต.ชุดใหญ่ มีความใกล้ชิดกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และทำหน้าที่อารักขาพันธมิตรฯ ว่า ร.ต.อ.เฉลิม กำลังพยายามเบี่ยงเบนประเด็น และมุ่งลดทอนความน่าเชื่อถือของ กกต. โดยเฉพาะการมีมติให้ใบแดงว่าที่ ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน
“หากพรรคพลังประชาชนบริสุทธิ์ใจจริง และไม่ได้ทุจริตเลือกตั้ง ก็ควรชี้แจง หรือแก้ข้อกล่าวหาให้ได้ กกต.ต้องวินิจฉัยไปตามหลักฐาน จะมาตั้งธงโดยปราศจากหลักฐานคงทำไม่ได้ เพราะอาจมีความผิดตามกฎหมาย และเท่าที่ทราบ สำนวนร้องเรียนทุจริตเลือกตั้งพบว่ามีเรื่องร้องเรียน และมีโอกาสได้รับใบเหลืองใบแดงกันเกือบทุกพรรค ซึ่งเป็นไปตามหลักฐานข้อเท็จจริง”นายสุริยะใส กล่าว
ส่วนการแต่งตั้งอนุกรรมการสอบสวนนั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า เป็นอำนาจอันชอบธรรมของ กกต. เพราะที่ผ่านมากระบวนการสอบสวนของ กกต.ล่าช้า และมีพิรุธ เพราะมีข่าวว่า กกต.บางคนใกล้ชิดกับอำนาจเก่า และอดีต กกต.ชุดสามหนาห้าห่วง ทำให้การแจกใบแดงใบเหลืองล่าช้า สำนวนอ่อน และมีหลายสำนวนหลุดมือไปถึงผู้ถูกกล่าวหา จนถูกเปิดโปงจาก กกต.ด้วยกัน ทำให้สังคมตั้งคำถามกับการทำงานที่ล่าช้าของฝ่ายสืบสวนสอบสวน จน กกต.ต้องตั้งอนุกรรมการสอบสวนขึ้นมาทำงานคู่ขนาน ทำให้งานสอบสวนรวดเร็วขึ้น
“เพราะหากล่าช้า ก็เท่ากับ กกต.ปล่อยให้นักการเมืองสีเทาเข้าสู่สภาฯ ทำให้เกิดความมัวหมองต่อรัฐสภา และหากมีการตามสอยทีหลัง ก็ยิ่งเป็นการผลักภาระให้กับประชาชน และข่าวที่ออกมาเกี่ยวกับบทบาทของนายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ฝ่ายสืบสวนสอบสวนนั้น ทำให้สังคมคลางแคลงใจ ดังนั้นนายสมชัย ควรชี้แจง และพิจารณาการทำงานของตัวเองเพื่อทำให้เกิดความกระจ่างต่อสังคม”เลขาฯ ครป. กล่าว
เลขาฯ ครป. กล่าวอีกว่า เข้าใจว่า ร.ต.อ.เฉลิม คงหมายถึง พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล รองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาลตามข่าวที่ปรากฏ ถ้าบอกว่าใกล้ชิด และมาอารักขาพันธมิตรฯ ก็แสดงว่า ร.ต.อ.เฉลิม ไม่เข้าใจงานสันติบาล แต่แปลกยังอยากเป็น มท.1 โดยส่วนตัวตนไม่รู้จัก พล.ต.ต.ชัยยะ และไม่เคยเห็นหน้าในช่วงชุมนุม แต่ถือเป็นหน้าที่ที่ตำรวจทุกนายต้องดูแลการชุมนุมไม่ให้เกิดความวุ่นวาย ถ้าต้องทำหน้าที่แล้วถูกกล่าวหาว่าไม่เป็นกลาง ก็แสดงว่าตำรวจ สตช.เป็นพวกพันธมิตรฯ ทั้งหมด เพราะมาดูแลการชุมนุมตั้งแต่ระดับผู้บัญชาการจนถึงพลตำรวจ