“สดศรี” ยืนยันจะเดินหน้าทำงานในตำแหน่ง กกต.ต่อไป และเตรียมประกาศรับรอง ส.ส.ใหม่บางส่วนพรุ่งนี้ มั่นใจสามารถเปิดสภาได้ตามกำหนด พร้อมแนะ ผบ.ตร.แถลงกรณีตั้ง “พล.ต.ต.ชัยยะ” มาช่วยงานด้านสืบสวนฯ
นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ด้านกิจการพรรคการเมือง ยืนยันว่า การทำงานที่ผ่านมาไม่มีอุปสรรค ยิ่งทำงานหนักยิ่งทำให้รู้สึกเข้มแข็งมากขึ้น และจะเดินหน้าทำงานต่อไป โดยการประชุม กกต.วานนี้ (2 ม.ค.) เป็นการรับฟังสำนวนที่ กกต.สั่งให้ตำรวจสันติบาลลงไปแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนเพิ่มเติมในหลายจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่เห็นว่ามีมูล ส่วนว่าที่ ส.ส.ที่ไม่มีเรื่องร้องเรียน กกต.จะประกาศรับรองในวันที่ (3 ม.ค.) ซึ่งจะครบกำหนด 7 วัน ตามที่กฎหมายกำหนด สำหรับสำนวนร้องเรียนที่เหลือ กกต.จะพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ม.ค.หากมีใบแดงอีกจะเร่งส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา
นางสดศรี กล่าวว่า ในชั้นการสอบสวนจะให้ใบแดง-ใบเหลือง ใครไม่ได้ ต้องมีการแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหา เพื่อให้มาแก้ข้อกล่าวหา ซึ่งตรงนี้ กกต.อาจมอบให้ กกต.จังหวัดเป็นผู้ดำเนินการ ทั้งนี้ มั่นใจว่า ก่อนเปิดประชุมสภา กกต.จะสามารถประกาศรับรองผล ส.ส.ได้ครบ 95% ตามที่กฎหมายกำหนด แต่ไม่เกี่ยวกับประเด็นการแจกใบแดง
นางสดศรี ยังกล่าวถึงกรณีที่พรรคพลังประชาชนเรียกร้องให้เปลี่ยนตัว พล.ต.ต.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล รองผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล หัวหน้าฝ่ายสืบสวนฯ เรื่องทุจริตเลือกตั้ง ว่า ขณะนี้ยังไม่มีใครกล่าวหาอย่างเป็นทางการ มีเพียงนักการเมืองที่กล่าวหาผ่านสื่อ และเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่ควรแถลงเรื่องการแต่งตั้ง พล.ต.ต.ชัยยะ มาช่วย กกต.ทำงาน การมากล่าวหาว่า พล.ต.ต.ชัยยะ ไม่เป็นกลางทางการเมือง ก็ไม่ใช่หน้าที่ของ กกต.ที่ต้องตรวจสอบ
“ส่วนตัวแล้วเห็นว่าไม่น่ามีอะไร เพราะ พล.ต.ต.ชัยยะ เคยเป็นอนุกรรมการสอบสวนชุดที่ 9 ซึ่งฝ่ายสืบสวนเป็นคนตั้งขึ้นมา และร่วมงานกับ กกต.มานาน การที่กล่าวอ้างว่าเข้าข้างพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง พรรคที่กล่าวหาควรมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนว่า พล.ต.ต.ชัยยะ มีการกระทำใดที่ฝักใฝ่กับพรรคการเมืองหรือกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ กกต.แจกใบแดง-ใบเหลือง เป็นสำนวนของฝ่ายสืบสวนฯ กกต.เสนอมาเอง เรื่องนี้ ประธาน กกต.บุรีรัมย์ ก็ชงเรื่องขึ้นมา” นางสดศรี กล่าว
นางสดศรี ยังกล่าวถึงประเด็นที่วันที่ 3 ม.ค.ศาลฎีกาจะมีการพิจารณาคำร้องที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ร้องขอคุ้มครองชั่วคราว เรื่องการจัดเลือกตั้งล่วงหน้า และเลือกตั้งวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา ให้เป็นโมฆะ และการขอคุ้มครองในเรื่องการระงับการประกาศรับรองผลรายชื่อ ส.ส. ว่าเป็นหน้าที่ของศาลฎีกาต้องพิจารณาต่อไป ซึ่งประเด็นนี้ส่วนตัวแล้วเป็นห่วงมาก หากศาลวินิจฉัยและมีคำสั่งคุ้มครอง เชื่อว่า คงต้องมีปัญหาตามมา เพราะจะมีผลกระทบโดยตรงต่อการประกาศรับรองรายชื่อ ส.ส.ใหม่