กรุงเทพฯ - สาวกทั่วประเทศแห่สวดมนต์วอนคุณพระคุณเจ้าช่วยยื้อชีวิต “นักเล่าข่าว” คนดังหลังเกิดอาการช็อกตาตั้งต้องหามส่งห้องไอซียูด่วน เผยเครียดจัดเพราะไร่ส้มที่อุตส่าห์ปลูกไว้กลายเป็นเหยื่อพระเพลิง แพทย์ระบุ 50 - 50 เปอร์เซ็นต์รอดหรือไม่รอด
ช่วงสายของวานนี้มีเหตุการณ์สะเทือนใจเกิดขึ้น เมื่อนักเล่าข่าวคนดังเกิดอาการช็อกอย่างปัจจุบันทันด่วน จนต้องนำตัวส่งห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลใกล้ศาลอาญา โดยทนายความส่วนตัวเปิดเผยว่านักเล่าข่าวที่มีคนติดตามกันทั่วบ้านทั่วเมืองเกิดอาการหน้าซีด หายใจหอบแรง กำมือสองข้างแน่น จุกเสียดหน้าอกอย่างฉับพลัน สุดท้ายหงายหลังผลึ่งลงไปกองกับพื้นอย่างหมดสภาพ จนต้องเรียกรถหวอของป่อเต็งตึ๊งมารับแล้วหิ้วร่างที่เย็นเฉียบของนักเล่าข่าวยัดใส่ท้ายรถปิกอัพขับด้วยความเร็วสูงเพื่อเร่งไปให้ถึงห้องไอซียู
รายงานข่าวยืนยันว่าสาเหตุที่นักเล่าข่าวเกิดความเครียดจัดจนถึงขั้นโคม่านั้น เนื่องจากเจ้าตัวทราบข่าวว่าไร่ส้มสนนราคากว่าร้อยล้านบาทที่อุตส่าห์ปลูกไว้เมื่อหลายปีก่อนละแวกพระรามเก้า จู่ๆ ถูกไฟเผาวอดวายในชั่วพริบตา แม้หลายคนจะพยายามหาทางช่วย กระนั้นยิ่งเวลาผ่านไป ไฟกลับยิ่งลุกลามหนักขึ้น จนท้ายที่สุดไร่ส้มทั้งหมดก็กลายเป็นเถ้าธุลีในกองเพลิง ที่ยิ่งไปกว่านั้น นอกเหนือจากนักเล่าข่าวชื่อดังช็อกแล้ว มีกระแสข่าวยืนยันว่าผู้อยู่ในเหตุอีก 2 - 3 คน ก็เกิดหน้ามืดวิงเวียนจนดิ้นปั๊ดๆ แน่นิ่งไปในเวลาเดียวกันด้วย
ทันทีที่ข่าวดังกล่าวโหมกระพือออกไป คนไทยหลายคนที่เป็นแฟนคลับของนักเล่าข่าว ได้พากันยกมือท่วมหัว ขอพรจากคุณพระคุณเจ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยยื้อชีวิตไว้ด้วย แม้ที่ผ่านมาคนใกล้ชิดพยายามตักเตือนว่าไม่ควรทำไร่ส้มใกล้กองเพลิง แต่นักเล่าข่าวคนดังไม่ฟังเสียง กลับยิ่งเร่งปุ๋ยเร่งน้ำมากขึ้นจนไร่ส้มแผ่อาณาเขตไปไม่หยุดยั้งกระทั่งถูกไฟไหม้เสียหายยับเยิน ซึ่งเมื่อถึงจุดนี้เข้าจริง สาวกจำนวนหนึ่งก็สารภาพว่าเห็นใจนักเล่าข่าวมากกว่าจะสมน้ำหน้า
ขณะที่แพทย์ชี้แจงว่าอาการล่าสุดยังน่าเป็นห่วง รอดหรือไม่รอดมีความเป็นไปได้เท่ากัน
