สตูล - กรมสอบสวนคดีพิเศษลงสตูล เปิดโต๊ะสอบสวนเจ้าทุกข์หลังโดนแชร์ลูกโซ่ทองคำเพกาซัส หลอกให้ลงทุน รวมมูลค่าเสียหายหลายล้านบาท ด้านผู้เสียหายฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์
วันนี้ (7 ม.ค.) นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการส่วนคดีอาญาพิเศษ 2 สำนักงานคดีอาญาพิเศษ 2 พร้อมเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่จังหวัดสตูล เปิดโต๊ะสอบสวนผู้เสียหายจากแชร์ลูกโซ่ทองคำเพกาซัส และ Fxzm management โดยเปิดสอบสวนผู้เสียหายที่หอประชุมอำเภอเมืองสตูล อ.เมือง จ.สตูล โดยวันนี้เดินทางเข้ามาแจ้งร้องทุกข์ จำนวน 80 คน ซึ่งสตูลมีประชาชนได้รับผลกระทบ 150-200 คน
นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการส่วนคดีอาญาพิเศษ 2 สำนักงานคดีอาญาพิเศษ 2 เปิดเผยว่า วันนี้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษของกรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรมลงมาในวันนี้ เป็นเรื่องคดีแชร์ทองคำเพกาซัส เพื่อเป็นการขยายผล และสอบสวนผู้เสียหาย และทางประชาชนจังหวัดสตูลพบกว่า 100-200 รายโดนหลอกเช่นเดียวกัน โดยไปลงทุนและเกิดความเสียหายขึ้น ดังนั้น อธิบดีกรมคดีสอบสวนฯ จึงสั่งการให้ลงมาสอบปากคำถึงที่ เพื่อนำสำนวน และความเสียหายกลับไปรวบรวมเอกสารให้สมบูรณ์ และนำกลับไปประกอบสำนวนต่อไป
นายปิยะศิริ วัฒนวรางกูร ผู้อำนวยการส่วนคดีอาญาพิเศษ 2 สำนักงานคดีอาญาพิเศษ 2 กล่าวอีกว่า วันนี้มิได้รับแจ้งเป็นการสอบปากคำผู้เสียหาย เพราะได้ข้อมูลก็จะได้ว่าทั้งคดีเสียหายไปเท่าไร ซึ่งก่อนหน้านี้ เรามีการอายัดทรัพย์ไปแล้ว และตอนท้ายเราก็มีการเฉลี่ยทรัพย์ เมื่อเสร็จสิ้นคดีเราจะคืนกลับให้ผู้เสียหาย และนี่เป็นนโยบายของกระทรวงยุติธรรม โดยผู้เสียหายอยู่ที่ไหนเราก็จะลงไป โดยภาพรวมที่ทุกจังหวัดกับแชร์เหล่านี้ เพราะร้อยกว่ารายไม่สามารถเดินทางขึ้นไปที่กรุงเทพฯ ได้ ส่วนภาพรวมแต่ละจังหวัดที่เสียหายเป็นเงินไปตั้งแต่ 3 หมื่นขึ้นไปจนถึงหลักล้านบาท ส่วนสตูล สูญเสียเงินไปกับการหลงเชื่อประมาณร้อยล้านบาท
นายปิยะศิริ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในจังหวัดสตูล มิได้มีแค่แชร์ลูกโซ่ทองคำเพกาซัสอย่างเดียว มีอย่างอื่นด้วย และเราก็รับเรื่องด้วยโดยเราจะสอบถามว่า ทางตำรวจรับไปยังถ้ายังเราก็รับเรื่องต่อ และขอฝากเตือนประชาชนที่กำลังหลงเชื่อแชร์ลูกโซ่ว่า อย่าหลงเชื่อเพราะกลุ่มเหล่านี้จะอ้างค่าตอบแทนที่สูงให้เปอร์เซ็นต์สูง ปีหนึ่งให้ร้อยเปอร์เซ็นต์ หากพูดหลักความจริงบริษัทอื่นไม่สามารถให้ได้ เป็นสิ่งที่ต้องพึงระวัง และอย่างน้อยต้องสังเกตวิเคราหะธุรกิจแบบนี้มีจริงหรือไม่ เอกสารหลักฐานการจดทะเบียนถูกต้องหรือไม่ แผนการตลาดมีการอนุมัติหรือไม่ ถ้าสงสัยควรสอบถามเจ้าพนักงานตำรวจได้เลยอย่าสุ่มเสี่ยงลงทุน ซึ่งภาพรวมทั้งประเทศไทยสูงมากกับที่หลงเชื่อในครั้งนี้
ด้าน นายธนธัช เรืองนาม อายุ 31 ปี ชาวสตูลที่หลงเชื่อ และลงทุนกับแชร์ลูกโซ่ เปิดเผยว่า โดนหลอกมาจากคนใกล้ชิดอ้างว่าลงทุนไปแล้วจะได้เงินดี ซึ่งผมโดนหลอกตั้งแต่เดือนแรก ดีที่ผมไม่ได้ไปหลอกคนอื่นต่อ และลงทุนไปเป็นเงินแสนกว่าบาท ถามว่าทำไมถึงลงทุนไปตอนแรกมีกระแสข่าวว่าแชร์ตัวนี้หลอกลวง แต่ก็ยังมีการเคลื่อนไหว และมีการปันผลอยู่ พอถึงคิวผมที่ต้องปันผลในเดือนสุดท้ายก็รู้เลยว่าโดนหลอก เพราะเขาเงียบหายปิดทั้งเว็บไซต์ และเบอร์มือถือติดต่อ ดังนั้น ผมจึงฝากเป็นอุทาหรณ์ว่า ให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบประวัติก่อนจะลงทุน ไม่นั้นก็จะเหมือนผมที่โดนโกงเงินไป โดยส่วนใหญ่ที่โดนหลอกไปนั้นคือ คนทำงาน เจ้าของธุรกิจ และข้าราชการ
