คอลัมน์ : ยวนบ้านคนดัง
นับเป็นระยะเวลายาวนานกว่า 3.5 ล้านล้านปีที่สิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ปรับแปลงแต่งสปีชีส์ของตัวเองเพื่อความอยู่รอด กระนั้นวิวัฒนาการของแต่ละสายพันธุ์ก็มิอาจยืนยันว่าจะสามารถดำรงคงอยู่ได้ นั่นจึงเป็นคำตอบของคำถามที่ว่าทำไมสิ่งมีชีวิตบางประเภทจึงสูญพันธุ์
แม้ทุกวันนี้มนุษย์ไม่ได้โง่ แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้ฉลาดปราดเปรื่องอย่างที่โม้ๆ กันไว้ ไม่เช่นนั้นคงมีคนรู้ว่าขณะนี้โลกเรามีชีวิตอยู่กี่สปีชีส์
ที่รู้คือ ปัจจุบันนี้มีผู้พบแล้ว 1.4 ล้านสปีชีส์ ในจำนวนนี้แบ่งออกเป็นแมลง 750,000 สปีชีส์ เป็นพืช 250,000 สปีชีส์ และอีก 41,000 สปีชีส์เป็นสัตว์มีกระดูกสันหลัง
นักวิวัฒนาการระดับซือแป๋ตัวพ่อระบุไว้เป็นลายลักษณ์อักษรว่า การแยกแยะสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิตบนโลกใบกลมกลิ๊กดวงนี้ไม่ยากเหมือนแทงบอลชุด กล่าวคือสิ่งมีชีวิตสปีชีส์เดียวกันจะสามารถผสมพันธุ์กันเองเท่านั้น ผิดไปจากนี้ถือว่าวิปริตผิดประเภท
สปีชีส์ (Species) หมายถึงกลุ่มของสิ่งมีชีวิตที่มีความละม้ายคล้ายคลึงกันอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตามบางห้วงยามอันยาวนานของการก่อเกิดบนโลกใบนี้ มนุษย์อาจค้นพบว่ามีสปีชีส์ใหม่ๆ อุบัติขึ้นบ้าง นั่นเป็นเพราะผลพวงของการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตต่อการเปลี่ยนแปลงบางประการที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่แม้กระทั่งชาร์ลส์ ดาร์วิน และชาร์ล บรอนสัน ยังเง็ง?!?
กาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “มนุษย์” ละแวกปักษ์ใต้ของประเทศไทยคู่หนึ่งผสมพันธุ์กันตามธรรมชาติ อีกราว 9 เดือนต่อมาทารกชายรายหนึ่งก็ลืมตาดูโลกท่ามกลางความรักความทะนุถนอมของสองผู้ให้กำเนิด
จากวันเป็นเดือน จากเดือนเลื่อนเป็นปี ท้ายที่สุดทารกชายเติบโตขึ้น เพื่อความก้าวหน้าของชีวิตเด็กหนุ่มตัวดำ ร่างกายกำยำล่ำบึ้กพาตัวเองมาสู้ชีวิตอยู่กลางเมืองหลวง ทำเลที่เขาเลือกทำมาหารับประทานคือย่านมหาวิทยาลัยรามคำแหง
เพื่อความดำรงคงอยู่ของชีวิตเขาเคยแม้กระทั่ง “ติดหนี้” ค่าข้าวจนขนาดแม่ค้าหน้ารามฯ จำเขาแม่น ประสบการณ์ชีวิตบวกรวมกับสันดานอันเร้นลึกอยู่ในร่าง ดังนั้น วันหนึ่งเขาเริ่มรับรู้ว่าหากจะ “อยู่” ให้รอดบนโลกใบนี้ ควรหาวิธีปรับแปลงสปีชีส์ซึ่งแม้แต่ไดโนเสาร์ไทรันโนซอรัส เร็กซ์ ยังทำไม่ได้
ในที่สุดเขาตัดสินใจเด็ดเดี่ยว
ชายหนุ่มไม่สำเหนียกในบุญคุณพ่อแม่ที่ให้ชีวิต จิตวิญญาณ และรูปร่างหน้าตา เขาเพียรพยายามคิดว่าต้องพาตัวเองทะยานไปสู่ความอยู่รอดบนยอดสุดพีระมิดแห่งความสำเร็จให้ได้ ต่อมาเขาไม่เสียดายที่เริ่มกลายพันธุ์จากมนุษย์หนุ่มใหญ่ไปสู่การเป็น “ลูกอ๊อด”
คางคกเพศผู้กับเพศแม่ผสมพันธุ์กัน จากนั้นจะมีลูกคลอดออกมา ถ้าเป็นชาวเหนือ เรียกเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ หัวโตๆ สีดำมะเมื่อมว่า “ก๊บตู่” หากเป็นชาวภาคเหนือตอนล่างละแวกอุตรดิตถ์เรียก “ต๊กกะเดี้ย” ส่วนภาคอีสานเรียก “ฮวก” ภาคใต้เรียก “หลุกครก” หรือ “ลูกครอก” นั่นเอง
อา! หนุ่มใหญ่ร่างกำยำข้ามสายพันธุ์เป็น “หลุกครก” แต่มันเป็นหลุกครกที่พิสดารพันลึก เนื่องเพราะมันเขมือบเงินและเลือดเนื้อของมนุษย์เป็นภักษาหาร ยิ่งนานวันมันยิ่งวิวัฒนาการสปีชีส์จนแม้แต่ชาลล์ ดาร์วิน ยังไม่รู้ว่าท้ายที่สุดแล้วทฤษฏีของเจ้าลูกคางคกจากปักษ์ใต้ตัวนี้จะสิ้นสุดตรงไหน
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ไม่เพียงปรับตัวให้อยู่ได้ บัดนี้เจ้าหลุกครกแปรสปีชีส์กลายพันธุ์เป็น “สิงห์” เรียบร้อยแล้ว