คลองเปรม - “ป๋าลอ-ราเกซ-ผู้พันตึ๋ง” ประสานเสียงจากแดนขัง กร้าว “พวกเราไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แค่ทำในสิ่งที่กบิลบ้านกบิลเมืองห้ามเด็ดขาดเท่านั้น” ยันเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยแบบเดียวกับคดีที่ดินรัชดา
วานนี้ขณะได้เวลาเข้านอน มีเสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายขึ้นภายในแดนขังนักโทษคดีอุกฉกรรจ์จนเสียงลั่นออกมาถึงถนนแจ้งวัฒนะ ทำให้เจ้าหน้าที่เรือนจำต้องเข้าระงับเหตุการณ์อย่างกะทันหันและเร่งด่วน หลังการตรวจสอบพบว่าเสียงนักโทษไม่ต่ำกว่า 100 คนตะโกนออกมา ที่แท้เป็นเสียงของนักโทษที่ล้วนแต่ถูกศาลตัดสินจำคุกอย่างมหันต์โทษทั้งสิ้น
นอกจากนี้ยังมีผู้แอ่นอกแสดงความรับผิดชอบว่าเป็นต้นเสียงของผู้ตะโกนโหวกเหวกโวยวายจำนวน 3 คน ประกอบไปด้วยป๋าลอ ผู้พันตึ๋ง และนายราเกซ ซึ่งเป็นนักโทษที่คนไทยรู้พฤติกรรมเป็นอย่างดี ทั้งนี้ป๋าลอเป็นคนกล่าวกับผู้คุมเรือนจำที่เข้าไปห้ามปรามว่า ตนเพิ่งปรึกษาหารือกับผู้พันตึ๋ง นายราเกซ และเหล่านักโทษคดีที่ต้องถูกจองจำอย่างต่ำ 30 ปี ขึ้นไป ว่าคดีที่พวกเขาก่อกรรมทำเข็ญขึ้นนั้น อันที่จริงหาใช่เรื่องผิดกฎหมายแต่ประการใดไม่ ไม่ว่าจะเป็นคดีเพชรซาอุฯ ของตน คดีสังหารโหดผู้ว่าราชการจังหวัดของผู้พันตึ๋ง และคดีเกี่ยวกับการเงินจำนวนมหาศาลของนายราเกซ ล้วนแต่เป็นเรื่องถูกต้องตามกฎหมายเขียนไว้ทั้งสิ้น แต่การที่ตนและคนอื่นๆ ต้องมาทนทุกข์ทรมานรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไปในคุกจนถูกตัดสินประหาร ตลอดชีวิต หรืออย่างต่ำต้องโทษเป็นแปดสิบปี ที่แท้เป็นเรื่องของการทำในสิ่งที่กฎหมายห้ามเท่านั้นเอง
“พวกเราไม่ได้ทำผิดคิดชั่วอะไรเลย ผมเคยเป็นนายตำรวจระดับสูง รู้ดีว่าที่เราทุกคนทำลงไปมันไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย เพียงแต่เป็นเรื่องที่กฎหมายห้ามทำแค่นั้นเอง คดีของผม ของไอ้ตึ๋ง ของไอ้แขกราเกซเป็นแบบเดียวกันเด๊ะกับคดีที่ดินรัชดา ท่านทักษิณไม่ผิด คุณหญิงอ้อก็ไม่ผิด ในทางกฎหมายนะ สองคนไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ทว่าทำในสิ่งที่กฎหมายห้ามทำเท่านั้น คุณต้องแยกแยะให้ออก ไม่งั้นบ้านเมืองวุ่นวาย ไม่มีทางพัฒนาไปเป็นอย่างประเทศที่เจริญแล้วได้ ผมอยากให้นักกฎหมาย นักวิชาการ สื่อมวลชน และชาวบ้านฟังความคิดเห็นอันเป็นความรู้ขั้นสูงสุดที่ร้อยตำรวจเอกเฉลิมพยายามคั้นมันสมองของท่านเรื่องกฎหมายป.ป.ช. มาตรา 100 ประเด็นเหล่านี้สมควรแก้ไข ผมไม่ได้ทำผิดกฎหมายสักหน่อย แค่ทำในสิ่งที่กฎหมายห้าม อ้ะ อย่าทำหน้างงแบบนั้น มันเป็นเรื่องง่ายๆ ลองคิดดูใหม่สิ” ป๋าลอแววตามีความหวัง