สุรินทร์- ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสุรินทร์ เดินหน้าเร่งขยายผลเชือดเครือข่ายยาบ้าในเรือนจำรัตนบุรี จ.สุรินทร์ พบผู้เกี่ยวข้องอื้อ แฉแก๊งยาบ้าส่งธนาณัติจ่ายเงินค่าตอบแทนให้นักโทษถึงในคุกอื้อเดือนละ 100 คน ๆ ละ 3,000 บาท เผยขอหมายจับเพิ่มอีก 4 ราย เป็นบุคคลทั้งภายนอก-ในเรือนจำ พร้อมสั่งย้ายจนท.เรือนจำรัตนบุรี 8 ราย
วานนี้ ( 1 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีการจับกุมดำเนินคดี และสั่งไล่ออกจากราชการ เจ้าหน้าที่เรือนจำอำเภอรัตนบุรี จ.สุรินทร์ 3 คน หลังพบข้อมูลหลักฐานพัวพันกับเครือข่ายยาบ้าในเรือนจำอำเภอรัตนบุรี ซึ่งเชื่อมโยงกับเครือข่ายยาบ้ารายใหญ่ในเรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ราย ถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ. ราชทัณฑ์ มาตรา 6 “การอำนวยความสะดวกและรับผลประโยชน์จากผู้ค้ายาเสพติด” และใช้หลักทรัพย์และเงินสดประกันตัวรายละ 2 ล้านบาท ปัจจุบันไม่ได้มาทำงานแล้ว
ล่าสุด นายไพศาล สุวรรณรักษา ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสุรินทร์ และรักษาราชการผู้บัญชาการเรือนอำเภอจำรัตนบุรี จ.สุรินทร์ เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวว่า หลังจากดำเนินการกับ 3 เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาบ้าในเรือนจำไปแล้ว ยังมีการขยายผลเพิ่มเติมอีกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการทำงานเชิงรุกและจริงจังตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่สั่งให้ผู้บัญชาการเรือนจำทั่วประเทศตรวจสอบเจ้าหน้าที่ ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเครือข่ายยาบ้าอย่างเข้มงวด หากพบให้ดำเนินจัดการอย่างเฉียบขาด และ รวดเร็ว
สำหรับเรือนจำอำเภอรัตนบุรี จากการตรวจสอบในทางลับพบว่า มีเครือข่ายยาบ้ารายหนึ่งได้ทำการส่งธนาณัติ จากบุคคลผู้ส่งรายเดียวให้แก่นักโทษในเรือนจำอำเภอรัตนบุรีเป็นจำนวนมาก ถึงเดือนละ 100 คน โดยสั่งจ่ายเงินให้คนละ 3,000 บาท รวมเป็นเงิน 300,000 บาทต่อเดือน ซึ่งลักษณะดังกล่าวคล้ายกับเป็นการตอบแทนหรือจ่ายเป็นค่ายาบ้า โดยทำการส่งเข้ามาเป็นช่วงๆ และเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบจับได้จากการส่งในระหว่างวันที่ 1-15 ก.ย. 2554 ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีการระดมกำลังเข้าตรวจค้นครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 20 ก.ย.2554 นำมาซึ่งการจับกุมและไล่ออกจากราชการ เจ้าหน้าที่เรือนจำทั้ง 3 คนดังกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อตนได้เข้ามารับผิดชอบดูแลการบริหารจัดการในเรือนจำอำเภอรัตนบุรีแล้ว ได้มีการสั่งจับตาเครือข่ายยาบ้าจากภายนอกเรือนจำที่มีการส่งธนาณัติมาให้นักโทษ ในเรือนจำอำเภอรัตนบุรี ซึ่งทราบแน่ชัดแล้วว่ามีใครบ้าง ที่เข้ามาเกี่ยวข้องและเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงกัน ขณะนี้ได้ขออนุมัติหมายจับแล้วคาดว่าจะมีจำนวนถึง 4 ราย ซึ่งเป็นบุคคลในเครือข่ายทั้งภายนอกและในเรือนจำอำเภอรัตนบุรี
“นอกจากนี้ยังสั่งโยกย้ายเจ้าหน้าที่เรือนจำอำเภอรัตนบุรี 8 นาย ไปปฏิบัติงานที่เรือนจำกลางสุรินทร์ เพื่อเร่งตรวจสอบและขยายผลผู้ที่เกี่ยวข้องภายในเรือนจำรัตนบุรี และ ส่งเจ้าหน้าที่ 5 นายจากเรือนจำกลางสุรินทร์ไปปฏิบัติงานที่เรือนจำอำเภอรัตนบุรี” นายไพศาล กล่าว
แหล่งข่าวระดับสูงในเรือนจำอำเภอรัตนบุรี เปิดเผยว่า เรือนจำอำเภอรัตนบุรี ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลชุมชนและอยู่กลางทุ่งนา ในแต่ละคืนพบว่าจะมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น คือ จะมีพวกส่องแสงไฟสว่างไปมาอ้างว่ามาหาจับปลา จับกบ เขียด แต่เมื่อผู้คุมเรือนจำทำการตรวจสอบพบว่า มีการขว้างสิ่งของเข้าไปในเรือนจำและเป็นยาบ้าจำนวนหลายครั้ง บางครั้งมีนักโทษติดยาเสพติดคุ้มคลั่งจับแม่บ้านคนขายอาหารในเรือนจำอำเภอรัตนบุรีเป็นตัวประกันก็มี ซึ่งเหตุเกิดต้นเดือนก.ย. 2554 ก่อนเจ้าหน้าที่จะระดมกำลังบุกเข้าตรวจค้นครั้งใหญ่
แหล่งข่าวระบุอีกว่า เรือนจำอำเภอรัตนบุรี เริ่มกลายเป็นแหล่งขายยาบ้าของเครือข่ายยาบ้าในเรือนจำรายใหญ่ระดับประเทศเชื่อมโยงกับเครือข่ายยาบ้าเรือนจำกลางเขาบินและเรือนจำกลางคลองไผ่ สืบเนื่องมาจากช่วงก่อนเดือนก.ย. 2554 ได้ มีการย้ายนักโทษ ค้ายาบ้ารายใหญ่จากเรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี และ จากเรือนจำกลางคลองไผ่ จ.นครราชสีมา มาคุมขัง ในเรือนจำอำเภอรัตนบุรี ทำให้นักโทษขาใหญ่ค้ายาบ้าเหล่านี้ได้ตั้งแก๊งขึ้นมาสั่งซื้อขายยาบ้ากันอย่างสะดวกสบาย โดยมีเจ้าหน้าที่เรือนจำทั้ง 3 ราย ที่ถูกให้ออกจากราชการเป็นตัวเชื่อมโยงในระบบการเงินสู่บุคคลภายนอก
“ทุกวันนี้ขบวนการยาบ้าดังกล่าวนี้ ยังคงมีอยู่ในเรือนจำอำเภอรัตนบุรี ผู้คุมไม่สามารถดูแลได้ทั้งหมด เพราะกำลังเจ้าหน้าที่มีน้อยไม่เพียงพอกับจำนวนนักโทษที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก และนักโทษอยู่กันอย่างไม่มีระเบียบ เพราะถูกปล่อยปละละเลยให้เละเทะมานาน และภายในเรือนจำสกปรกส่งกลิ่นเหม็น แม้แต่วันที่ 20 ก.ย.54 ที่เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเข้าตรวจค้นนั้นยังพบว่าในเรือนจำอยู่ในสภาพสกปรกมากและอยู่กันอย่างไร้ระเบียบโดยสิ้นเชิง” แหล่งข่าวกล่าว
วานนี้ ( 1 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีการจับกุมดำเนินคดี และสั่งไล่ออกจากราชการ เจ้าหน้าที่เรือนจำอำเภอรัตนบุรี จ.สุรินทร์ 3 คน หลังพบข้อมูลหลักฐานพัวพันกับเครือข่ายยาบ้าในเรือนจำอำเภอรัตนบุรี ซึ่งเชื่อมโยงกับเครือข่ายยาบ้ารายใหญ่ในเรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ราย ถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ. ราชทัณฑ์ มาตรา 6 “การอำนวยความสะดวกและรับผลประโยชน์จากผู้ค้ายาเสพติด” และใช้หลักทรัพย์และเงินสดประกันตัวรายละ 2 ล้านบาท ปัจจุบันไม่ได้มาทำงานแล้ว
ล่าสุด นายไพศาล สุวรรณรักษา ผู้บัญชาการเรือนจำกลางสุรินทร์ และรักษาราชการผู้บัญชาการเรือนอำเภอจำรัตนบุรี จ.สุรินทร์ เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวว่า หลังจากดำเนินการกับ 3 เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาบ้าในเรือนจำไปแล้ว ยังมีการขยายผลเพิ่มเติมอีกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการทำงานเชิงรุกและจริงจังตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่สั่งให้ผู้บัญชาการเรือนจำทั่วประเทศตรวจสอบเจ้าหน้าที่ ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเครือข่ายยาบ้าอย่างเข้มงวด หากพบให้ดำเนินจัดการอย่างเฉียบขาด และ รวดเร็ว
สำหรับเรือนจำอำเภอรัตนบุรี จากการตรวจสอบในทางลับพบว่า มีเครือข่ายยาบ้ารายหนึ่งได้ทำการส่งธนาณัติ จากบุคคลผู้ส่งรายเดียวให้แก่นักโทษในเรือนจำอำเภอรัตนบุรีเป็นจำนวนมาก ถึงเดือนละ 100 คน โดยสั่งจ่ายเงินให้คนละ 3,000 บาท รวมเป็นเงิน 300,000 บาทต่อเดือน ซึ่งลักษณะดังกล่าวคล้ายกับเป็นการตอบแทนหรือจ่ายเป็นค่ายาบ้า โดยทำการส่งเข้ามาเป็นช่วงๆ และเจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบจับได้จากการส่งในระหว่างวันที่ 1-15 ก.ย. 2554 ที่ผ่านมา จนเป็นเหตุให้มีการระดมกำลังเข้าตรวจค้นครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 20 ก.ย.2554 นำมาซึ่งการจับกุมและไล่ออกจากราชการ เจ้าหน้าที่เรือนจำทั้ง 3 คนดังกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อตนได้เข้ามารับผิดชอบดูแลการบริหารจัดการในเรือนจำอำเภอรัตนบุรีแล้ว ได้มีการสั่งจับตาเครือข่ายยาบ้าจากภายนอกเรือนจำที่มีการส่งธนาณัติมาให้นักโทษ ในเรือนจำอำเภอรัตนบุรี ซึ่งทราบแน่ชัดแล้วว่ามีใครบ้าง ที่เข้ามาเกี่ยวข้องและเป็นเครือข่ายเชื่อมโยงกัน ขณะนี้ได้ขออนุมัติหมายจับแล้วคาดว่าจะมีจำนวนถึง 4 ราย ซึ่งเป็นบุคคลในเครือข่ายทั้งภายนอกและในเรือนจำอำเภอรัตนบุรี
“นอกจากนี้ยังสั่งโยกย้ายเจ้าหน้าที่เรือนจำอำเภอรัตนบุรี 8 นาย ไปปฏิบัติงานที่เรือนจำกลางสุรินทร์ เพื่อเร่งตรวจสอบและขยายผลผู้ที่เกี่ยวข้องภายในเรือนจำรัตนบุรี และ ส่งเจ้าหน้าที่ 5 นายจากเรือนจำกลางสุรินทร์ไปปฏิบัติงานที่เรือนจำอำเภอรัตนบุรี” นายไพศาล กล่าว
แหล่งข่าวระดับสูงในเรือนจำอำเภอรัตนบุรี เปิดเผยว่า เรือนจำอำเภอรัตนบุรี ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลชุมชนและอยู่กลางทุ่งนา ในแต่ละคืนพบว่าจะมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น คือ จะมีพวกส่องแสงไฟสว่างไปมาอ้างว่ามาหาจับปลา จับกบ เขียด แต่เมื่อผู้คุมเรือนจำทำการตรวจสอบพบว่า มีการขว้างสิ่งของเข้าไปในเรือนจำและเป็นยาบ้าจำนวนหลายครั้ง บางครั้งมีนักโทษติดยาเสพติดคุ้มคลั่งจับแม่บ้านคนขายอาหารในเรือนจำอำเภอรัตนบุรีเป็นตัวประกันก็มี ซึ่งเหตุเกิดต้นเดือนก.ย. 2554 ก่อนเจ้าหน้าที่จะระดมกำลังบุกเข้าตรวจค้นครั้งใหญ่
แหล่งข่าวระบุอีกว่า เรือนจำอำเภอรัตนบุรี เริ่มกลายเป็นแหล่งขายยาบ้าของเครือข่ายยาบ้าในเรือนจำรายใหญ่ระดับประเทศเชื่อมโยงกับเครือข่ายยาบ้าเรือนจำกลางเขาบินและเรือนจำกลางคลองไผ่ สืบเนื่องมาจากช่วงก่อนเดือนก.ย. 2554 ได้ มีการย้ายนักโทษ ค้ายาบ้ารายใหญ่จากเรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี และ จากเรือนจำกลางคลองไผ่ จ.นครราชสีมา มาคุมขัง ในเรือนจำอำเภอรัตนบุรี ทำให้นักโทษขาใหญ่ค้ายาบ้าเหล่านี้ได้ตั้งแก๊งขึ้นมาสั่งซื้อขายยาบ้ากันอย่างสะดวกสบาย โดยมีเจ้าหน้าที่เรือนจำทั้ง 3 ราย ที่ถูกให้ออกจากราชการเป็นตัวเชื่อมโยงในระบบการเงินสู่บุคคลภายนอก
“ทุกวันนี้ขบวนการยาบ้าดังกล่าวนี้ ยังคงมีอยู่ในเรือนจำอำเภอรัตนบุรี ผู้คุมไม่สามารถดูแลได้ทั้งหมด เพราะกำลังเจ้าหน้าที่มีน้อยไม่เพียงพอกับจำนวนนักโทษที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก และนักโทษอยู่กันอย่างไม่มีระเบียบ เพราะถูกปล่อยปละละเลยให้เละเทะมานาน และภายในเรือนจำสกปรกส่งกลิ่นเหม็น แม้แต่วันที่ 20 ก.ย.54 ที่เจ้าหน้าที่ระดมกำลังเข้าตรวจค้นนั้นยังพบว่าในเรือนจำอยู่ในสภาพสกปรกมากและอยู่กันอย่างไร้ระเบียบโดยสิ้นเชิง” แหล่งข่าวกล่าว
