“บิ๊กอ๊อด” หนุนแนวคิด “เฉลิม” ย้ายขาใหญ่ค้ายาไปรวมอยู่ที่คุกเขาบินป้องกันการซื้อขายยาเสพติดผ่านเรือนจำ ส่วนปัญหาผู้คุมเอี่ยวค้ายาเป็นเรื่องที่ต้องหาวิธีแก้ไข ปัดย้าย “ธาริต” พ้นดีเอสไอนั่ง ผอ.ข่าวกรอง
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะย้ายนักโทษไปยังเรือนจำเขาบิน จ.ราชบุรี แต่ปรากฏว่าล่าสุดได้มีการจับกุมผู้คุมเรือนจำอำเภอรัตนบุรี จ.สุรินทร์ จำนวน 3 ราย พัวพันการค้ายาบ้าในเรือนจำโดยมีเงินหมุนเวียนผ่านบัญชี 50 ล้าน จึงเกรงกันว่าหากส่งนักโทษไปรวมกันจะกลายเป็นแหล่งค้ายาเสพติดว่า แนวคิดของ ร.ต.อ.เฉลิมทำเป็นการป้องกันอีกทางหนึ่งที่ดีขึ้น ไม่ให้มีการค้ายาในระดับเรือนจำ ถ้าหากเราไม่แก้ตรงนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นประจำก็สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ ก็เป็นวิธีการหนึ่งในการแก้ปัญหาไม่ให้เกิดการใช้เงิน และผู้ที่ค้ายาเสพติดและมีอิทธิพลสามารถดำเนินการได้ เมื่อเปลี่ยนที่ใหม่เปลี่ยนคนใหม่ และเปลี่ยนวิธีการใหม่
ผู้สื่อข่าวแย้งว่าเงิน 50 ล้านบาทนั้นเป็นเงินหมุนเวียนผ่านบัญชีเจ้าที่กรมราชทัณฑ์ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องรายละเอียดที่ ร.ต.อ.เฉลิมต้องแก้ปัญหาอีกหลายอย่างที่เกิดขึ้นในอนาคต เพราะการดำเนินการอย่างจริงจังที่ทำอยู่ขณะนี้เราก็เห็นอะไรเกิดขึ้นมาก เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติแผนของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) แล้ว ใน 1 แผนของ กอ.รมน.ก็มีเรื่องยาเสพติด ตนได้เรียน ร.ต.อ.เฉลิมว่าเรื่องยาเสพติดขอให้ใช้กำลัง กอ.รมน.ร่วมเพิ่มในการดำเนินการยาเสพติด
ผู้สื่อข่าวถามว่า โฆษกพรรคมาตุภูมิระบุว่าการแก้ปัญหายาเสพติดเป็นการสร้างภาพ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ไม่ได้สร้างภาพ เป็นอย่างนั้นจริงๆ หากไม่รีบทำมันก็จะขยายใหญ่ขึ้น การแก้ปัญหานี้มีความหมายและสำคัญต่อประเทศชาติมาก นอกจากนี้ ภารกิจการฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติดได้หารือกับผู้บัญชาการทหารบก ทหารเรือ ว่าขอให้เพิ่มการฟื้นฟู ขอให้จัดโรงเรียนวิวัฒน์พลเมืองเพิ่มเป็น 2 เท่าด้วย ทหารได้บอกว่าพร้อมให้การสนับสนุนได้
พล.อ.ยุทธศักดิ์ยังกล่าวถึงกระแสข่าวจะให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ว่าไม่จริง ตนยังไม่ทราบเรื่องนี้เลย คิดยังไม่คิดเลยในฐานะที่ตนกำกับดูแลสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ยืนยันว่าไม่ทราบเรื่องนี้เลย และไม่อยู่ในความคิด ซึ่งตนกับ ผอ.ข่าวกรองฯ เพิ่งได้พบกันเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา วันนี้จะได้มาคุยกันอีกครั้ง ยืนยันไม่ทราบ และไม่อยู่ในความคิด หากมีข่าวระแคะระคายตนจะไม่ปิดบังเลย
“งานข่าวไม่ใช่งานง่าย ผมรับราชการอยู่ในกองทัพบกก็ทำงานข่าวมา รู้ว่าการสร้างงานข่าวเป็นเรื่องที่ยากมาก และเกาะงานข่าวมาตลอดจนถึงวันนี้ ทิ้งไม่ได้ เพราะฐานข่าวจะหายไป ทำให้จะไม่ล่วงรู้อะไร ฐานข่าวเป็นข้อยืนยันในอนาคตว่าต่อไปข่าวจะเป็นอย่างไร ฉะนั้นคนที่ทำงานข่าวมา 10-20 ปี ทิ้งเขาไม่ได้หรอก” พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าว