รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์เชื่อย้ายนักโทษรายสำคัญไปคุมขังเรือนจำกลางเขาบินจะสามารถควบคุมการค้ายาเสพติดในเรือนจำได้ เตรียมเสนอเจ้าหน้าที่เรือนจำกลุ่มเสี่ยงพกพาอาวุธปืนขณะปฏิบัติหน้าที่ ป้องกันเหตุร้ายจากนักโทษ หลังเกิดเหตุ คนร้ายยิงปืนใส่บ้านผู้คุมเรือนจำกลางบางขวาง
วันนี้ (31 ม.ค.) นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวถึงเหตุผลการย้ายนักโทษคดียาเสพติดรายใหญ่ไปคุมขังยังเรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี ว่าเนื่องจากเรือนจำกลางเขาบินเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง และเพิ่งติดตั้งเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์เสร็จเรียบร้อยเมื่อ 1 เดือนกว่าที่ผ่านมา มีประสิทธิภาพสามารถป้องกันการใช้โทรศัพท์ของผู้ต้องขังที่เป็นนักค้ายาเสพติดในเรือนจำได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์
“ซึ่งการย้ายนักโทษคดียาเสพติดรายใหญ่จากทั่วประเทศไปคุมขังที่เรือนจำเขาบินนั้น ในการประชุมเพื่อหาแนวทางในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ระหว่างกรมราชทัณฑ์ ป.ป.ส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั้นได้ข้อสรุปตรงกันว่า เรือนจำกลางเขาบิน เป็นสถานที่เหมาะสำหรับควบคุมตัวนักโทษคดียาเสพติดรายสำคัญ เพราะมีความพร้อมและได้ติดตั้งเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้จะประสานข้อมูลทางด้านการข่าวกับ ดีเอสไอ ตำรวจ ปปง. เพื่อตรวจสอบว่ามีนักโทษรายใด เรือนจำไหน ที่ไม่หยุดเคลื่อนไหว ยังสั่งการหรือติดต่อกับผู้ค้ายาเสพติดภายนอกเรือนจำ ซึ่งสัปดาห์หน้าจะประชุมอีกครั้ง เพื่อสรุปและเคาะตัวเลขผู้ต้องขังยาเสพติดรายใหญ่ที่จะต้องย้ายไปเรือนจำเขาบิน”
นายกอบเกียรติกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมามีปัญหานักโทษทุกคดีทั้งคดีปล้น ฆ่า ชิงทรัพย์ และคดียาเสพติดมาอยู่รวมกันในเรือนจำเดียวกันทำให้ไปช่วยเสริมผู้ต้องขังให้เข้มแข็งมากขึ้น เช่น นักโทษคดียาเสพติด ที่มีจุดแข็งคือมีเงินจำนวนมาก ก็จะว่าจ้างนักโทษคดีปล้น ฆ่า ซึ่งใจถึง ไม่กลัวตายมาเป็นลูกน้อง หรือเรียกว่าซามูไร เป็นมือไม้คอยจัดหาจัดเก็บหรือซ่อนโทรศัพท์ไว้กับตัว ทำให้เมื่อเจ้าหน้าที่เรือนจำตรวจค้นก็มักจะเจอของกลางที่ลูกน้อง แต่ไม่มีหลักฐานไปถึงนักโทษยาเสพติดรายใหญ่ ดังนั้น การย้ายนักโทษที่มีประวัติและเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในเรือนจำไปไว้ที่เรือนจำเขาบิน ที่จะไม่มีนักโทษคดีอื่นๆ ปะปนอยู่อีก และมีเครื่องตัดสัญญาณโทรศัพท์ก็จะแก้ปัญหาการสั่งการหรือค้ายาเสพติดจากภายในเรือนจำได้
รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์กล่าวอีกว่า ขณะนี้กรมราชทัณฑ์มีความเข้มงวดเรื่องยาเสพติดภายในเรือนจำทำให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์หรือผู้คุมมีความเสี่ยงจากผู้ค้ายาเสพติดเพิ่มมากขึ้น เช่น เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คนร้ายได้ยิงปืน 10 กว่านัด ใส่บ้านผู้คุมเรือนจำกลางบางขวาง คาดว่าเป็นการข่มขู่ ซึ่งได้แจ้งความไว้แล้วที่ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อสืบหาว่ามาจากสาเหตุใด เกี่ยวข้องกับผู้ต้องขังเรือนจำกลางบางขวางหรือไม่
นอกจากนี้ เพื่อความปลอดภัยและความอุ่นใจของผู้คุมและเจ้าหน้าที่เรือนจำ ทางกรมราชทัณฑ์จึงได้ประสานไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อออกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนให้กับเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่มีความเสี่ยง หรือแจ้งความประสงค์ให้สามารถพกพาอาวุธปืนได้ เพื่อเป็นการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินขณะอยู่บ้านพักหรือภายนอกเรือนจำ ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ภายในเรือนจำ ผู้คุมและเจ้าหน้าที่จะพกเพียงไม้กระบอกตามปกติ อย่างไรก็ตาม การออกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืนภายในจังหวัดเป็นอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละแห่ง ซึ่งทางกรมราชทัณฑ์ได้ประสานเรียบร้อยแล้ว