ป๋าบัญพาก๊วนยวนบ้านคนดัง:บ้านหมาลอดของไอ้เขียว อาร์เอส

กว่าที่คอลัมน์นี้จะได้รับการตีพิมพ์ ไม่แน่ว่าผู้จัดกวนอาจถูกสั่งปิดไปแล้ว เพราะขำกลิ้งไม่เท่าข่าวปกติที่เสนอกันตามสื่อไทยในรูปแบบต่างๆ อาทิ นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ตั้ง พ่อใหญ่จิ๋ว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพแดงประจำเดือน ตามติดด้วยข่าว น.ส.ได๋นาโม เอ้ย! ได๋อะนา ไปแจ้งตำรวจในข้อหาถูกนายกรัฐมนตรี ข่มขืนกระทำชำเราซะจนแหนบกรามบนและล่างหัก

555 คริคริคริ

บอกตามตรง ถ้าผู้จัดกวนทีมหลงเข้าไปเป็นสมาชิกแก๊ง นปช. ป่านนี้เอาหน้ามุดถังขี...สระอี...ไม้โท...ของเจ๊เพ็ญ เย็นไข่ ตายเสียดีกว่า โห! อะไรจะสร้างข่าวอายได้ถ้วยปานนี้ สงสัยพวกคิดข่าวให้กองทัพกระบือแดงต้องเป็นทีมเดียวกับกลุ่มผู้สร้าง “สิมาแหล” แหงแซะชัวร์ป้าด

อย่างไรก็ตามแต่ ต้องติดตามว่าบรรดาสื่อแดง กับนักวิชากลวง จะช่วยกันตะแบงให้กองทัพแดงอย่างไร

งานนี้ไม่ช่วยไม่ได้ ก็เล่นรับรองเท้ากอล์ฟรุ่น 1,000 ลบ มาแล้วนี่ต๊ะเอง

พูดเรื่องขำๆ ไปแล้ว มาเข้าเรื่องขื่นๆ กันดีกว่า ว่ากันว่าตอนนี้มีครอบครัวหนึ่ง เป็นครอบครัวที่ประหลาดน่ามอบโล่มั่กๆ เพราะคนทั้งบ้านที่ประกอบกันเป็นครอบครัว ปรากฏว่ามีตัวพ่ออยู่คนเดียวที่ค่อนข้างจะปกติธรรมดา ทว่าคนอื่นๆ ที่เหลือล้วนเอากระป๋องฮอลล์คลุมหัว ปิดหน้ากันทั้งบ้าน

อย่ากระนั้นเลย เพื่อให้ความลี้ลับเปิดเผย บัญชาการ์ตูน นำบักแหลม และโป้ง 8 นิ้ว บุกไปพิสูจน์ให้แซบและทราบกันไปข้าง

พลันที่ไปถึงจึงอุทานเสียงดังอ๋อ เพราะครอบครัวแปลกๆ ที่ว่า ที่แท้เป็นครอบครัวของไอ้เขียว อาร์เอส เจ้าของเพลง ชายม่ายด้านผ่อ ชายม่ายด้านผ่อ นั่นเอง

“มีอะไรถึงกับต้องใช้กระป๋องฮอลล์คลุมหัวกันแบบนี้ละครับ” บัญชาการ์ตูนเปิดประเด็น

“ถ้าคุณเป็นเมียของเค้า (ชี้มือไปทางไอ้เขียว) ฉันถามคำเดียวว่าคุณยังกล้าจะเสนอหน้าต่อสาธารณชนอีกหรือ” เมียของไอ้เขียวอาร์เอสตอบเสียงเครือๆ อยู่ในกระป๋องเม็ดอมเย็นซ่า

“ใช่ ถ้าเด็กในโลกทุกคนมีพ่อแบบนี้ หนูว่าเค้าก็ต้องทำเหมือนที่หนูกับคุณแม่ทำ ตอนนี้คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย และญาติ ต่างก็ทำกันแบบนี้ ไม่มีใครไม่อายหรอก ฮะจายไม่ด้านผ่อ ฮะจายม่ายด้านผ่อ แง้” ว่าแล้วลูกของไอ้เขียวอาร์เอสก็สะอึกสะอื้นจนผู้เป็นพ่อต้องจูงมือทุกคนไปแอบหลบอยู่ในห้องซ้อมเมีย ชะอุ้ย! ซ้อมดนตรี

บ้านหลังนี้ ไอ้เขียว หรือกี้ร์ บอกว่าเพิ่งต่อเติมเสร็จเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แถมโอ่ด้วยว่า มีเส้นทางพิเศษเป็นของตัวเองอีกต่างหาก

“ตอนที่ผมไปป่วนประชุมอาเซียนที่พัทยาแล้วกลับมาบ้าน ปรากฏว่ามีตำรวจบุกมาหน้าบ้าน ผมไหวตัวทันกระโดดหนีตุ้บลงไปเหยียบรั้วและสังกะสี โชคดีที่ขาแพลงอย่างเดียว จากนั้นเจ้านายส่งเงินจากดูไบมาให้ก้อนหนึ่ง ผมเลยเอามาต่อเติมบ้าน รวมทั้งช่องทางพิเศษไว้สำหรับเผ่นหนีตำรวจ นี่ไง...” ไอ้เขียวชี้มือให้ทุกคนดู

“อ้าว ไหงเหมือนทางหมาผ่านงั้นล่ะเขียว” บักแหลมทำตีสนิท

“มันเป็นกลวิธีที่จะพรางตาตำรวจไง ตี๊ต่างว่าถ้าตำรวจมาตรวจบ้านผม เค้าต้องไม่สนใจทางพิเศษช่องนี้ของผมอย่างแน่นอน ทางแบบนี้แหละเหมาะสมกับนิสัยผมมาก” เขียว อาร์เอส ยิ้มกริ่ม

“จะหันไปเป็นนักร้อง หรือออกอัลบั้มอีกเมื่อไหร่” โป้ง 8 นิ้วถามบ้าง

“อ๋อ คงไม่ละครับ ตอนนี้ผมค้นพบเส้นทางของตัวเองแล้ว ที่ผ่านมาออกอัลบั้มหลายชุด แต่เงินตอบแทนน้อยมาก กระทั่งผมเอาภาพๆ นี้ไปให้เจ้านายหน้าเหลี่ยมที่ดูไบ รู้ไหม ผมได้เงินมาเท่าไร บอกใบ้ให้ก็ได้ ผมได้เงินจากผลงานของภาพๆ นี้ มากกว่าเอาเงินจากทุกอัลบั้มเพลงมารวมกัน แล้วแบบนี้จะให้กลับไปอมฮอลล์ร้องเพลงให้เมื่อยปากอีกทำซากอะไร สู้ไปตะโกนด่าอภิสิทธิ์ ด่าโน่น นี่ นั่น ตังค์เข้ามากกว่าเยอะ”

“เป็นนักร้องอมฮอลล์กับผู้นำป่วนบ้านเมืองต่างกันอย่างไร” บักแหลมสงสัย

“คนอื่นผมไม่รู้นะ แต่ตัวเองผมยังทำบางสิ่งบางอย่างในชีวิตประจำวันเหมือนเดิม อาทิยังใช้ยาสีฟันรุ่นพิเศษ คุณสมบัติของยาสีฟันรุ่นนี้ คือขัดเหงือกไม่ให้ออกสีเขียว ผมเป็นคนเหงือกเขียว พวกอาร์เอสเลยเรียกผมลับหลังว่าไอ้เขียวไง แถมตัวดำ เมื่อรวมกับเหงือกเขียวๆ ผมจึงคิดว่ามาเป็นแกนนำม็อบถ่อยดีกว่า เพราะมันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับคนอื่นๆ มากกว่าตอนไปออกคอนเสิร์ต แต่ผมก็ยังอยากเห็นตัวเองมีผิวขาว ใช้ไวน์เทนนงเทนนิงมาแล้วทุกยี่ห้อ ไปเห็นผล ล่าสุดเลยใช้แปรงทองเหลือง มีคนมาแนะนำว่านอกจากขัดผิวแล้ว ยังขัดความด้านของหน้า และอุนจิระในสมองออกได้ด้วย”

“มีข่าวว่าเอาบัตรผู้แทนฯ เก่า ไปต้มการบินไทย ทำไมต้องทำแบบนั้น ทั้งๆ ที่ภรรเมียของคุณก็ทำงานอยู่การบินไทย” บัญชาการ์ตูนยิงหมัดฮุก

“สันดานไง คนเราลงว่ามันเฮี่ย ยางไง้ ยังไง มั้น...ก็เฮี่ย ไม่งั้นเมียผมจะเอากระป๋องฮอลล์คลุมหัวเรอะ”

เออ จริงแฮะ