“ดี้” จูบปาก “โจ นูโว” หวนร่วมงานกันอีกครั้ง ยันชัดผมไม่ใช่เสื้อแดง

“โจ นูโว” หวนร่วมงาน “ดี้” ลั่นทุกอย่างจบไปนานแล้วตั้งแต่ออกมาขอโทษ เผยทุกวันนี้ก็ดวลเหล้ากันปกติ ด้านดี้เผยไม่ติดใจโจ ชี้เป็นเรื่องของพี่น้องที่ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ตนไม่เคยคิดผูกใจเจ็บ ย้ำชัดผมไม่ใช่เสื้อแดงเพราะเลือกมองเป็นกรณีๆ ไป

เคยมีเรื่องหมางใจกันจากเรื่องทัศนคติทางการเมือง สำหรับคู่พี่น้องวงการเพลงอย่าง “โจ จิรายุส วรรธนะสิน” หรือ “โจ นูโว” กับ “ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค” ทำเอาหนุ่มโจไม่พอใจถึงขั้นทวีตพาดพิงรุ่นพี่เมื่อครั้งร่วมโปรเจกต์แต่งเพลงขอความสุขคืนกลับมา ในช่วงเหตุการณ์ที่กลุ่มคนเสื้อแดงเผาเซ็นทรัลเวิลด์เมื่อปีก่อน ทำเอารุ่นพี่อย่างดี้ไม่พอใจประกาศห้ามโจใช้เพลงของตนที่เคยแต่งให้มาทำมาหากิน ล่าสุดกลับมีรายชื่อขอทั้งคู่ร่วมงานคอนเสิร์ต “ ดี้ - สีฟ้า The Lyrics of Love” ของทางเอไทม์ ซึ่งหนุ่มโจเองเปิดเผยว่าเรื่องบาดหมางระหว่างตนกับนักแต่งเพลงรุ่นพี่ได้จบไปนานแล้ว หลังจากที่ตนได้ไปขอโทษ

“ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับเขาเลย มันเป็นเรื่องปกติของชีวิตมนุษย์ในภาวะบนภาวะนึง มันเป็นอย่างนั้นมันก็เป็นอย่างนั้น ความคิดมันเป็นอย่างนั้นมันก็เป็นอย่างนั้น นั่นคือสิ่งที่มันเป็น ในเมื่อตอนนั้นสิ่งที่มันเป็น มันเป็นอย่างนั้น ไม่ได้ว่าอะไรนะ ปกติมันไม่เกี่ยว แต่มนุษย์เรามันต้องมีช่วงเวลานึงซึ่งเป็นอย่างนั้น เมื่อมันเกิดแล้วก็ต้องเกิด แต่การดำเนินชีวิตของคนเรามันต้องใช้ความรักนำ สุดท้ายมันก็ต้องมีการขอโทษขอโพยให้อภัยกันในส่วนของสิ่งที่มันไม่ถูก มันก็มีสิ่งที่ไม่ถูกในตัวเราก็ต้องกราบขออภัย ถ้าเราใช้ความรักนำทุกอย่างจะปกติ”

“เรื่องนี้มันจบไปนานแล้ว หลังๆ ผมกับพี่ดี้เราก็กินเหล้ากันตลอด เรามีอะไรก็จะจอยกันตลอด อย่างคอนเสิร์ตครั้งนี้ผมเองก็มาเป็นแขกรับเชิญในงานคอนเสิร์ตพี่ฉอด(สายทิพย์)มาตลอด แล้วถ้าคอนเสิร์ตพี่ดี้พี่นิ่มถ้าไม่เชิญโจ นี่โจจะเสียใจมาก ถือว่าโจเป็นตัวแทนนูโว เพราะเพลงของพี่ดี้พี่นิ่มเองก็อยู่ในอัลบั้มเราหลายเพลง ถ้าไม่เรียกเรามานี่เราจะเสียใจมาก”

ด้าน “ดี้” เองเผยไม่เคยมีปัญหากับ “โจ” ลั่นเป็นเรื่องของพี่น้อง ย้ำที่ผ่านมาตนไม่เคยมีสีเพราะเลือกมองเป็นกรณีๆไป

“ไม่มีปัญหา พี่น้องและเพื่อนส่วนใหญ่เราอยู่ในตึกนี้ เพราะฉะนั้นความแตกต่างอะไรมันก็ไม่ได้มีมาก ก็เป็นคนๆ ไป กับโจนี่ก็นานเป็นปีแล้ว ขอโทษขอโพยกันแล้วก็จบ ผมก็อยู่ของผมดีๆ แล้วมีคนจำผิดรึเปล่าไม่รู้ เอาสีมาขว้างใส่ผมแล้วก็มารุมกัน เราก็งงสิ อะไรวะ แต่ก็ไม่ได้มีปัญหา ตัวผมไม่ได้แบกความโกรธแค้นอะไร แค่ว่าข้องใจก็มาคุยกันให้รู้เรื่องว่าตกลงไปเอามาจากไหนอะไร อยู่ๆ ไปเอาสีแดงมาขว้างใส่แล้วบอกว่าผมสีแดง ผมต้องเลือกด้วยเหรอว่าสีอะไร เลือกสีแล้วเขาให้เงินเดือนผมมั้ย ผมว่าคนที่ฉลาดพอเขาไม่เลือกสีกันหรอก ผมขอใช้ว่าเราไม่เลือกข้าง แต่เราเลือกเป็นเคส ใครเข้าท่าเราก็เห็นด้วย เราเอาเป็นเคสๆ ไป”

“ถึงเราจะไม่พอใจใครเราก็ไม่เคยออกสื่อ เราเลยไม่มีปัญหากับใคร ในเมื่อเขามาขอโทษแล้วก็จบ เพราะเราเป็นพี่น้องกัน เจอกันกินเหล้าปกติ ทำงานกันได้ไม่มีปัญหา ก็สนิทใจนะ ตัวน้องนี่ไม่รู้แต่คิดว่าก็คงสนิทใจเหมือนกัน มันเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่อง มันเป็นเรื่องที่น้องเขาอาจจะตื่นตระหนกไปเอง”

ครั้นพอถามถึงกรณีของ “เสก โลโซ” ที่มีภาพเสพยาและข่าวซ้อมเมียออกมา ในฐานะที่เคยอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกัน เจ้าตัวก็บอกว่าทำยังไงก็ได้อย่างนั้น

“ก็ทำอะไรมันก็ได้อย่างนั้นนะ จะให้ทำยังไงล่ะ คนเรามันต้องมีทั้งด้านสว่างและด้านลบ ถ้าช่วงไหนดวงดีด้านสว่างมันก็เยอะ ผู้คนก็ชื่นชน ช่วงไหนซวยขึ้นมาด้านลบมันดันโผล่ขึ้นมา ก็แล้วแต่คนไปนะ บางคนอาจจะหมดศรัทธากันไปเลย บางคนก็อาจจะบอกไม่เกี่ยวเป็นเรื่องส่วนตัว งานก็เรื่องของงาน”

“ตัวผมดี้ไม่สนิทกับเสกเลย นี่พูดจริงๆ เป็นแค่พี่น้อง เดินผ่านกันเขาก็ยกมือไหว้สวัสดีทักทายเป็นยังไงครับน้อง แค่นี้จริงๆ เราไม่เคยทำงานด้วยกัน ยิ่งเรื่องส่วนตัวยิ่งไม่รู้เรื่องเลย จะไปแนะนำอะไรเขาโตๆ กันแล้ว มีลูก 2-3 คนแล้วแนะนำอะไรยาก ที่เหลือคือรู้อะไรถูก รู้อะไรผิด รู้อะไรมืดอะไรสว่าง แต่จะทำตามรึเปล่าแค่นั้นแหละ อนาคตมันก็มีอยู่ 2 ทาง หนึ่งคืออาจหายไปเลย สองคือเดี๋ยวคนไทยก็ลืม ก็มีอยู่ 2 ทางเท่านี้ไม่ได้มีมากกว่านี้หรอก(หัวเราะ)”