แหล่งน้ำหลายแหล่งกำลังเผชิญหน้ากับการรุกรานของสิ่งมีชีวิตต่างถิ่น หรือที่รู้จักกันในนาม “เอเลียนสปีชีส์” (Alien Species) กระแสข่าวการแพร่ระบาดของปลาสวยงามจากต่างประเทศในแหล่งน้ำธรรมชาติทั่วไทย ไม่ว่าจะเป็น ปลาซักเกอร์ ผู้ทนทาน ปลาหมอสีคางดำ ผู้ขยายพันธุ์เร็ว ปลาหมอมายัน และปลาหมอบัตเตอร์ กำลังเป็นสัญญาณเตือนภัยที่ดังขึ้นเรื่อยๆ
ปลาเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นแขกไม่ได้รับเชิญ แต่พวกมันคือผู้แย่งชิงทรัพยากรตัวฉกาจ เข้ามายึดพื้นที่ ขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว และแย่งแหล่งอาหารจากสัตว์น้ำพื้นถิ่นดั้งเดิมของไทยอย่างถึงรากถึงโคน ผลลัพธ์ที่ตามมาคือความสูญเสียครั้งใหญ่ของความหลากหลายทางชีวภาพ และการทำลายห่วงโซ่อาหารในระบบนิเวศน้ำจืดในวงกว้างอย่างยากจะเยียวยา
ดร.สรณัฏฐ์ ศิริสวย หัวหน้าศูนย์บริหารงานวิจัยและสนับสนุนวิชาการ คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ชี้ให้เห็นถึงที่มาของปลาเหล่านี้ว่า แท้จริงแล้วพวกมันเคยเป็นเพียงปลาสวยงามจากต่างประเทศที่ถูกนำเข้ามาเลี้ยงในบ้านเรานานก่อนที่กรมประมงจะออกประกาศห้ามนำเข้าและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 13 ชนิดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เพื่อปกป้องพันธุ์สัตว์น้ำหายากและระบบนิเวศ
คำถามคือ ปลาเหล่านี้ "หลุดรอด" ออกสู่ธรรมชาติได้อย่างไร? ดร.สรณัฏฐ์ให้ความกระจ่างว่า สาเหตุมีหลากหลาย ทั้งจากเหตุสุดวิสัยอย่าง ภาวะน้ำท่วม ที่พัดพาปลาหลุดไปตามกระแสน้ำ และที่น่าเศร้ากว่าคือ ความตั้งใจของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เลี้ยงที่เบื่อ ไม่อาจแบกรับภาระค่าเลี้ยงดูเมื่อปลาเติบโตขึ้น หรือด้วยนิสัยใจบุญที่ไม่กล้าฆ่า จึงเลือกที่จะ “ปล่อยปลา” ลงในแม่น้ำลำคลอง โดยมองข้ามผลกระทบมหาศาลที่จะตามมา อย่างเช่นกรณีของปลาหมอบัตเตอร์ที่พบในเขื่อนเขาแหลม ก็ถูกสันนิษฐานว่ามีผู้ลักลอบนำไปปล่อยไว้
ในกลุ่มเอเลียนสปีชีส์นี้ ปลาซักเกอร์ถือเป็นตัวอย่างของสายพันธุ์ที่น่ากังวลเป็นพิเศษ ด้วยความสามารถในการปรับตัวที่สูงลิ่ว มันสามารถกินอาหารได้ทุกชนิดและอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำได้ทุกรูปแบบ แม้แต่ในน้ำเสียที่มีปริมาณออกซิเจนต่ำจนปลาชนิดอื่นอยู่ไม่รอด ความทนทานเช่นนี้ทำให้มันสามารถขยายพันธุ์ได้อย่างไร้ขีดจำกัด
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบที่ปลาต่างถิ่นสร้างขึ้นก็ขึ้นอยู่กับชนิดสายพันธุ์ ดร.สรณัฏฐ์ยกตัวอย่างปลาหางนกยูง ซึ่งเป็นปลาตัวเล็กที่แพร่พันธุ์ง่าย แต่ปัจจุบันกลายเป็นประโยชน์ในฐานะปลากินยุง หรือกรณีของปลาหมอเทศที่การแพร่ระบาดลดลงหลังชาวบ้านหันมาจับไปทำอาหารมากขึ้น นี่แสดงให้เห็นว่าแนวทางการแก้ไขปัญหาต้องอาศัยการศึกษาและทำความเข้าใจในแต่ละสายพันธุ์
สำหรับปัญหาปลาหมอคางดำ ซึ่งแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็วและส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศในหลายจังหวัด กรมประมงกำลังดำเนินการอย่างจริงจัง เช่น การวิจัยพัฒนาปลาหมอคางดำ 4n เพื่อผสมพันธุ์ให้ลูกเป็นหมัน ซึ่งต้องใช้เวลาในการทดลองเพื่อให้มั่นใจ 100% ว่าจะไม่มีปัญหาตามมา แต่การแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำและเอเลียนสปีชีส์ทั้งหมดนี้จะไม่หมดไปง่ายๆ หากไม่มีความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
ดร.สรณัฏฐ์ทิ้งท้ายด้วยข้อคิดที่สำคัญยิ่งสำหรับคนรักปลาสวยงามทุกคนว่า "ปลาสวยงามทุกชนิดเลี้ยงได้แต่อย่าไปปล่อยสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ" การตัดสินใจเลี้ยงสัตว์น้ำขนาดใหญ่และมีอายุยืนยาวอย่างปลาช่อนอเมซอน ควรมาพร้อมกับการเตรียมความพร้อมทั้งด้านความรู้และจิตใจ เพื่อให้การเลี้ยงปลาเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ใช่สร้างปัญหาให้ระบบนิเวศในอนาคต การไม่ปล่อยปลาคือความรับผิดชอบขั้นพื้นฐานที่เราทุกคนสามารถทำได้ เพื่อรักษาความหลากหลายทางชีวภาพของไทยไว้ให้ลูกหลาน


