รองโฆษก ทบ.แถลงผลการรบ เข้าสู้วันที่แปดไทยทำลายที่มั่นกัมพูชาได้ 82 แห่ง รถถัง 12 คัน ยานรบ/ยานเกราะ 10 คัน โดรน 175 ลำ จรวด BM-21 ถูกทำลาย 1 ระบบ ทหารเขมรเสียชีวิตแล้ว 505 นาย เตือนกัมพูชาใช้วิธีโจมตีพื้นที่พลเรือนต่อเนื่องเพื่อสร้างความหวาดกลัว ขอประชาชนงดเข้าพื้นที่ปะทะ ยืนยันไทยยังคุมพื้นที่ได้
วันที่ 15 ธันวาคม 2568 เวลา 10.00 น. ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จัดแถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดน โดยพันเอก ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก แถลงผลการปฏิบัติการทางทหารของฝ่ายไทย เข้าสู่วันที่แปดของการปะทะ
พันเอก ริชฌาระบุว่า ประเด็นเร่งด่วนที่กองทัพบกต้องแจ้งให้ประชาชนทราบ คือการที่ฝ่ายทหารกัมพูชายังคงมีการโจมตีเข้ามาในพื้นที่พลเรือนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บและมีผู้เสียชีวิต
รองโฆษกกองทัพบกกล่าวว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้อำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้ออกประกาศขอความร่วมมือประชาชน หากไม่มีความจำเป็นขอให้งดเข้าพื้นที่ที่มีการปะทะโดยเด็ดขาด โดยจะอนุญาตเฉพาะกำลังชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) เข้าไปดูแลพื้นที่เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ซึ่งถือเป็นมาตรการที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง
พันเอก ริชฌาระบุเพิ่มเติมว่า จากการพิสูจน์ทราบข้อมูลข่าวกรองและแหล่งข้อมูลต่างๆ ยังไม่พบสัญญาณว่าฝ่ายกัมพูชาจะยุติการใช้ยุทธวิธีโจมตีพื้นที่พลเรือน เพื่อสร้างความหวาดกลัวและความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน จึงขอความร่วมมือประชาชนไทย โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอกันทรลักษ์ ปฏิบัติตามคำแนะนำของส่วนราชการอย่างเคร่งครัด
ในภาพรวมของการปฏิบัติการทางทหาร พันเอก ริชฌากล่าวว่า พื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายไทย โดยสามารถยึดรักษาพื้นที่สำคัญไว้ได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชายังคงพยายามโจมตีพื้นที่ที่ฝ่ายไทยควบคุมได้แล้วอย่างหนักหน่วง โดยใช้อาวุธจรวดหลายลำกล้อง BM-21 รวมถึงโดรนพลีชีพอย่างต่อเนื่อง ทั้งในพื้นที่ที่ไทยพยายามสถาปนาแนวเขตแดนที่ยึดคืนมา และพื้นที่แนวหน้าของทั้งกองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2
รองโฆษกกองทัพบกยังเปิดเผยประมาณการความสูญเสียของฝ่ายกัมพูชานับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 โดยฝ่ายไทยสามารถทำลายที่มั่นและที่ตั้งทางทหาร รวมถึงจุดควบคุมและที่ตั้งอาวุธต่างๆ ได้รวม 82 แห่ง ทำลายระบบจรวด BM-21 จำนวน 1 ระบบ รถถัง 12 คัน ยานรบและยานเกราะ 10 คัน ระบบป้องกันภัยทางอากาศ (ปตอ.) 4 ระบบ ปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิด 7 กระบอก จุดต่อต้านโดรน (แอนตี้โดรน) 5 จุด ทำลายโดรนได้รวม 175 ลำ และเสาสื่อสาร 5 จุด
ส่วนความสูญเสียด้านกำลังพลของฝ่ายกัมพูชา กองทัพบกประเมินว่ามีการสูญเสียแล้วกว่า 505 นาย ซึ่งเป็นตัวเลขจากการพิสูจน์ทราบในเบื้องต้น
พันเอก ริชฌาย้ำว่า ปฏิบัติการของกองทัพบกเป็นการตอบโต้การถูกรุกล้ำอธิปไตยและการโจมตีจากฝ่ายกัมพูชา โดยเป้าหมายหลักคือการยึดคืนและสถาปนาแนวเขตแดนไทยที่ถูกรุกล้ำให้กลับคืนมา รวมถึงการทำลายขีดความสามารถของกองกำลังทหารกัมพูชาที่เป็นภัยคุกคามต่อกำลังพลและประชาชนไทยให้หมดสิ้นไป


