แพทย์นิติเวช ม.อ. เผยภาพจริงเบื้องหลังการดูแลร่างผู้เสียชีวิตช่วงน้ำท่วมใหญ่ พร้อมเปิดตัวเลขชัด 143 ศพในความดูแล ชี้นักศึกษาแพทย์คือแรงหลักช่วยรับ–ย้าย–ชันสูตรตลอด 24 ชั่วโมง ท่ามกลางความสะเทือนใจและความเสียสละที่ทีมงานต้องเผชิญ แต่ยังยืนยันเดินหน้าทำงานอย่างสุดความสามารถเพื่อให้ทุกศพได้กลับสู่อ้อมกอดญาติ
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ”Thanapan Choobun” ได้ออกมาโพสต์ข้อความ เผย หลังได้พูดคุยกับแพทย์นิติเวช ม.อ. “หมออ๊อด” เล่าเบื้องหลังการดูแลร่างผู้เสียชีวิตช่วงน้ำท่วม โดย ผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า
“ตู้นึงเก็บได้ 20 ร่างใช่ไหม เมื่อช่วงค่ำ ผมได้คุยกับอาจารย์หมออ๊อด เจ้าพ่อนิติเวชที่ทำการชันสูตรร่างผู้เสียชีวิตในช่วงน้ำท่วมที่ผ่านมาครับ เขาเป็นหัวหน้าทีม
มันน่าสนใจมากที่ได้รับรู้เรื่องการทำงานของทีมเขา ทีมที่อยู่ในกระแสของสังคม สื่อต่างๆที่ลงตัวเลขผู้เสียชีวิตตั้งแต่หลักร้อย หลายร้อย มีบางคนบอกว่าถึงสิบร้อยไปนู่น
“ถูกต้องเลยครับถ้าหมุนดีๆได้มากสุดก็ไม่เกิน ๒๕ ร่าง เพราะเราไม่ได้ซ้อนศพเลยครับ ส่วนตรงกลางนั้นเว้นไว้สำหรับเป็นทางเดินเวลาไปยกศพข้างในครับ” เขาส่งรูปสภาพภายในตู้คอนเทนเนอร์ที่วางอยู่บริเวณลานหลังโรงพยาบาล ม.อ. ที่มีอยู่จำนวน 7 ตู้ ซึ่งจริงๆแล้วมันใช้ได้เพียง 5 ตู้เท่านั้น อีก 2 ตู้มันใช้การไม่ได้มาตั้งแต่แรก
ภายในตู้ก็คือร่างผู้เสียชีวิตที่ถูกห่อหุ้มด้วยถุงสีขาว มีการปิดถุงและผูกรัดไว้อย่างเรียบร้อย
“ล่าสุด 143 ศพ โดยแบ่งเป็นศพที่เราย้ายมาจากโรงพยาบาลหาดใหญ่ซึ่งตายในโรงพยาบาล 54 ศพ (อย่าลืมนะครับว่าโรงพยาบาลหาดใหญ่ไฟดับ ศพที่ถูกเก็บอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนน้ำท่วมมีอยู่ 54 ร่าง ซึ่งเหล่านี้จะต้องรีบขนย้ายมาฝากไว้ที่ ม.อ. ไง) และ 1 ศพลอยมาติดที่ป้ายหน้าโรงพยาบาล“ ถึงตรงนี้ ทดเลขไว้ก่อนเลยว่าเรารับโอนย้ายสำมะโนมาจากหาดใหญ่ 55 ร่าง
“เป็นของ ม.อ. เอง 55 ศพ โดยเป็นศพที่ระบุตัวบุคคลได้จากภายนอกที่แจ้งว่าเป็นโรคธรรมชาติที่นำมาฝากในช่วงน้ำท่วม ๑๓ ศพ และที่เหลือเป็นศพทั้งระบุตัวบุคคลได้และระบุตัวคนไม่ได้ซึ่งอ้างว่าเกี่ยวกับน้ำท่วมรวมแล้ว 41 ครับ อีก 1 ที่เหลือเสียชีวิตจากโรคหัวใจ” ออ เข้าใจแล้ว เรายังรับร่างมาจากที่อื่นอีก 13 ร่าง ซึ่งตายจากโรคภัยมาก่อนน้ำท่วม และที่ถูกระบุว่าเกิดจากเหตุน้ำท่วมจริงๆก็ 41 คน
“ส่วนที่เกิน 110 ศพตามที่แจ้งข้างต้นเป็นศพที่เก็บจากข้างนอกล้วนๆ” ครับ นั่นก็หมายความว่า อีก 33 ร่างก็ถูกส่งมาจากข้างนอก และคาดว่าน่าจะเกิดจากน้ำท่วมนั่นแหละ
รวมแล้ว มีร่างที่เราดูแลตอนนี้คือ 143 ร่าง
ได้นอนในห้องเก็บศพของ ม.อ.เอง 110 ร่าง นอนในคอนเทนเนอร์ 33 ร่าง ใช้ตู้ไปทั้งหมด 5 ตู้
แม่เจ้า! โรงพยาบาลผมมีห้องเย็นที่ใหญ่ขนาดนั้นเลยหรือ
“ครับพี่แป๊ะ อันที่จริงเราเก็บร่างได้มากที่สุด 119 ร่างเลยนะพี่” ดูเหมือนอาจารย์อ๊อดจะภูมิใจในที่ทำงานของเขามาก
“พี่แป๊ะรู้ไหม ต้องขอแจ้งว่างานนี้ถ้าเราไม่ได้นักศึกษาแพทย์มาช่วยเราตายอย่างเขียดครับ” ผมนึกถึงเพลงของใครสักคนที่มีเนื้อร้องว่า “ตายหยังเขียด”
“นักเรียนแพทย์มาช่วยอะไรวะอ๊อด” เรื่องนี้ผมไม่เคยรู้
“นักศึกษาแพทย์ช่วยเป็นแรงงานหลักในการรับศพใหม่ครับ น้องๆเป็นแรงงานหลักในการย้ายศพออกจากตู้คอนเทนเนอร์ 3 องศา ออกมาชันสูตร เป็นแรงงานหลักในการย้ายศพหลังการชันสูตรเข้าคอนเทนเนอร์ -10 องศา เป็นแรงงานหลักในการปล่อยศพในวันที่ระบุชื่อตระกูลศพได้และนักศึกษาแพทย์ได้ผลาญเงินค่าพิซซ่าของผมไปหลายพันบาทด้วยครับ 555 “ คือไอ้ 555 ของอาจารย์อ๊อดนั้น คนที่รู้จักจะเข้าใจได้ว่ามันดังขนาดไหน
“หมดเงินไปเท่าไหร่ พี่ขอหารได้ไหม” ผมรู้สึกตื้นตันมากนะครับที่ได้รู้ว่าลูกศิษย์แพทย์อุทิศตนมากขนาดไหน ผมนึกถึงตัวเอง งานนี้ผมไม่กล้าเข้าไปช่วยจริงๆ
“ไม่เป็นไรครับ 555 สุขใจที่เห็นน้องนักศึกษาแพทย์ได้ทำงานอย่างจริงจัง สุขใจที่เห็นน้องนักศึกษาแพทย์ได้ฝึกอะไรบางอย่างจากประสบการณ์จริง
และสุขใจที่ได้เห็นความเสียสละ ความอดทนที่ยิ่งใหญ่ของนักศึกษาแพทย์“
“เป็นสิอ๊อด กูอยากมีส่วนร่วม ถือซะว่าได้อุทิศให้คนที่เสียชีวิตด้วย” เอ๊า คุยไปคุยมา ออกกูซะงั้น
“แม้ว่าเราจะอยู่กับศพมาตลอดชีวิตของการเป็นแพทย์แต่ก็บอกตรงๆว่ามันสะเทือนใจที่สุดครับ” ในช่วงหนึ่งของการคุย เราพูดถึงความรู้สึกต่อการเสียชีวิตของบางราย
“ในการทำงานผมหัวเราะตลอดครับ
แต่พี่แอนรู้ดีว่าผมแอบร้องไห้ครับ” พี่แอนที่อาจารย์อ๊อดกล่าวถึงนั้น เธอคืออีกคนที่เป็นแขนขาของทีมนิติเวช ม.อ.
“เพราะมีคนเห็นผมไปแอบร้องไห้ในห้องเตรียมสารละลาย แล้วเข้ามากระซิบบอกผมว่า สู้ๆนะ เห็นแหละไปทำอะไรอยู่ในห้องเตรียมสารละลาย น้ำตาผมมันออกมาเองครับพี่” ใช่ครับ จากเรื่องที่เขาเล่ามา เป็นผมก็คงร้องไห้เหมือนกัน อย่าลืมนะครับ พวกผมก็เป็นคน แม้ถูกฝึกมาอย่างดี แต่บางทีมันก็มีความเปราะบางในบางจุด
“สงสารทุกศพสุดๆ” เราจบการสนทนาเรื่องศพด้วยคำๆนี้ของคุณหมออ๊อด
…
“พี่แป๊ะต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มแจ้งเลยครับ ผมบอกหมดเปลือกเพราะมันคือความจริงและผมอยากให้มีการสื่อสารออกไปครับ อยากให้มีการสื่อสารออกไปด้วยข้อมูลที่เป็นจริงและผมเชื่อว่าหลายคนเชื่อเราครับ จำนวนศพที่ถูกรายงานออกไปเป็นฐานข้อมูลของสงขลานครินทร์เท่านั้น ดังนั้นศพที่ไม่ได้ถูกนำเข้ามาซึ่งไม่แน่ใจว่ายังมีอีกเท่าไหร่ไม่อยู่ในฐานข้อมูลนี้ครับ“
“และสุดท้ายที่อยากจะบอกอีกอย่างคือการกั้นพื้นที่ไม่ใช่เป็นไปเพื่อการปิดข่าวแต่เป็นการกั้นเพื่อแสดงขอบเขตการทำงานให้ชัด จะได้ไม่ต้องมีคนอื่นเข้ามาเป็นไทยมุงหรือวุ่นวายในสถานที่ทำการครับ ส่วนใครจะแอบถ่ายเอามาได้แล้วแสดงความคิดเห็นอย่างไรก็เรื่องของเขาครับ“
โห..
ผมโชคดีขนาดไหนที่ได้คุยกับนิติแพทย์ที่ชื่ออ๊อดคนนี้
เลยเก็บมาเล่าให้ฟังนะครับ
ธนพันธ์ ชูบุญกราบขอบคุณที่ทำให้พวกเขาได้เจอญาตินะครับ“


