มวลน้ำท่วมหาดใหญ่ไหลหลากจากพื้นที่ต้นน้ำถึงใจกลางเมืองในเวลาเพียง 2-6 ชั่วโมง! เพจ "ที' ลมฟ้าอากาศ" เปิดข้อมูลวิเคราะห์สาเหตุหลักของน้ำท่วมใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ชี้เป็นผลจากปริมาณน้ำมหาศาลจาก 3 ทิศทางที่ไหลสมทบคลองอู่ตะเภาอย่างฉับพลัน ขณะที่การระบายถูกบล็อกด้วยน้ำทะเลหนุนสูง และสถานการณ์เลวร้ายลงจากการขาดป่าชะลอน้ำในพื้นที่ภูเขา
เมื่อวันที่ 29 พ.ย. เพจ "ที' ลมฟ้าอากาศ" ออกมาโพสต์ข้อความสรุปสาเหตุ "มหาอุทกภัยหาดใหญ่ ปี 68" ซึ่งเป็นน้ำท่วมที่หนักที่สุดเป็นประวัติการณ์ เกิดจากการทำงานร่วมกันของปัจจัยทางภูมิประเทศและภูมิภาคนิเวศที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยทางภูมิประเทศและน้ำหลาก และปัจจัยทางภูมินิเวศที่เปลี่ยนไป โดยทางเพจดังได้ระบุข้อความว่า
"โพสต์นี้จะชวนทุกคนถอดบทเรียนมหาอุทกภัยหาดใหญ่ที่ผ่านมา น้ำท่วมหนักที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ แบบที่ไม่เคยเจอมาก่อน ....โดยสรุปสาเหตุ และเหตุผล
จากภาพที่ทุกคนเห็น ก็จะรู้ว่าเมืองหาดใหญ่มีลักษณะภูมิประเทศแบบแอ่งกระทะ โดยทิศเหนือคือทะเลสาบสงขลา (ช่วงที่ร่องมรสุมพาดผ่าน ช่วงที่ผ่านมา ทะเลหนุนสูง ทำให้มวลน้ำคลองอู่ตะเภา แทบถูกเบียดลงไปไม่ได้เลย เนื่องจากความสูงน้ำทะเลสูงเทียบเท่าความสูงของมวลน้ำบริเวณคลองอู่ตะเภา (ร.1) ช่วงดังกล่าว
ทิศใต้ คือพื้นที่อำเภอสะเดา ที่มีคลองหล้าบึง คลองสะเดา มีต้นน้ำจากเทือกเขาสันกาลาคีรี นั้นบ่งบอกว่าเป็นพื้นที่มีความสูงชัน โดยช่วงก่อนที่ "น้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งที่ 2 อย่างมหาศาล" คือฝนตกสะสมในพื้นที่ต้นน้ำมาก ซึ่งมวลน้ำดังกล่าวไหลมารวมกันในคลองอู่ตะเภา ไหลผ่านใจกลางเมืองหาดใหญ่ ก่อนลงทะเลสาบสงขลา // ทั้งนี้มวลน้ำที่ไหลจากสะเดาจะถึงคลองอู่ตะเภาภายใน 6 ชั่วโมง (ช่วงฝนตกสะสมมาก วันที่ 21-24 พ.ย. 68)
ทิศตะวันออก คือพื้นที่เขาคอหงส์ อำเภอนาหม่อม ซึ่งไหลลงคลองหวะ อีกส่วนที่ทำให้มวลน้ำไหลเข้าท่วมหาดใหญ่ทิศตะวันออกครั้งแรก แล้วไหลเข้าใจกลางคลองอู่ตะเภา เมืองหาดใหญ่ เนื่องจากฝนตกสะสมบริเวณดังกล่าวมาก // ทั้งนี้ มวลน้ำจากเขาคอหงส์จะไหลลงคลองอู่ตะเภา ภายใน 2 ชั่วโมง (ช่วงฝนตกสะสมมาก วันที่ 20-21 และ 24 พ.ย. 68)
ทิศตะวันตก คือพื้นที่อำเภอคลองหอยโข่ง ซึ่งมีมวลน้ำจากเทือกเขาบรรทัด ไหลลงคลองหอยโข่ง ก่อนจะไหลสมทบไปที่คลองอู่ตะเภา // ทั้งนี้ มวลน้ำจากคลองหอยโข่งจะไหลลงคลองอู่ตะเภาภายใน 3-4 ชั่วโมง (ช่วงฝนตกสะสมมาก วันที่ 21-24 พ.ย. 68)
สรุป คลองอู่ตะเภา สถานี X.44 รับน้ำจนเต็มศักยภาพทุกทิศทาง มวลน้ำที่ไหลเข้ามาสมทบอย่างรวดเร็วทำให้คลองอู่ตะเภา มีระดับน้ำสูงขึ้นพรวดจนปริมาตรสูงเทียบเท่าแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านนครสวรรค์ จนทำให้เกิดมหาอุทกภัยหาดใหญ่ปี 68
ภูมิศาสตร์ที่กล่าวมาเหมือนเดิมทั้งหมด 100 ปีที่แล้ว ภูเขาก็อยู่ตรงนั้น แอ่งกระทะ ก็เป็นแบบนี้มาพันปี คลองอู่ตะเภาก็มีมานานแล้ว แค่มีคลอง ร.1 เพิ่มเติมมาถือว่าเล็กน้อยมาก
น้ำท่วมหาดใหญ่ เกิดจากภูมินิเวศที่เปลี่ยนแปลงแบบก้าวไปข้างหน้า ซึ่งสวนทางกับภูมิอากาศที่กำลังย้อนกลับไปเหมือน 30-40 ปีก่อน (เอาแค่เกิดทัน) ภูเขาที่บอก ปัจนุบันนี้ไม่มีป่าคลุมดิน ถูกบุกรุกด้วยเกษตกรรม มีสวนยาง สวนปาล์ม บ้านเรือน บ่อดิน ฝนตกมากขึ้นก็จริง แต่ภูมินิเวศไม่มีตัวชะลอน้ำเหมือนเช่นเคย ผนวกกับการขยายของตัวเมืองเลยกลายเป็นภาพที่เห็น"


