xs
xsm
sm
md
lg

สตง. มีแต่ข่าวประชาสัมพันธ์ จ่ายเงินเยียวยาน้ำท่วมภาคใต้ แต่ไม่มีหนังสือตราครุฑ หวั่นมีปัญหาภายหลัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น มีหนังสือถึง 9 จังหวัดภาคใต้ เร่งรัดให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย แต่อ้างถึงแค่ "ข่าวประชาสัมพันธ์" จาก สตง. ข้าราชการชั้นผู้น้อยวิจารณ์แซด หวั่นผู้บริหารในอนาคตเช็กบิลย้อนหลัง วอนออกหนังสือตราครุฑให้เป็นลายลักษณ์อักษร สร้างความมั่นใจในการช่วยเหลือเยียวยาเต็มที่

วันนี้ (1 ธ.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ส่งเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ ลงวันที่ 1 ธ.ค. หัวข้อ "ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (ผตง.) ประกาศแนวทางช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย "ยึดความเดือดร้อน ปชช. เป็นหลัก" พร้อมตั้งทีมให้คำปรึกษาท้องถิ่น" ระบุว่า "นายมณเฑียร เจริญผล (ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน) ชี้แจงแนวทางปฏิบัติการเบิกจ่ายเงิน เยียวยาผู้ประสบอุทกภัย โดยให้สัมภาษณ์สด ในรายการ กรรมการข่าวคุยนอกจอ กับพิธีกรข่าว สรยุทธ สุทัศนะจินดา โดยยืนยันว่า การ ตรวจสอบจะยังดําเนินการ หากมีเหตุร้องเรียน แต่จะไม่เคร่งครัดเทียบเท่าสถานการณ์ปกติ เนื่องจากเป็นภาวะฉุกเฉินที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยระบุว่า การช่วยเหลือเยียวยา ต้องยึดความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก ส่วนเอกสารหลักฐาน เช่น สําเนาบัตรประชาชน หรือสําเนาทะเบียนบ้าน ให้เป็นเรื่องลําดับรองลงไป หากผู้ประสบภัยไม่สามารถจัดหาได้จากการสูญหายหรืออยู่ในพื้นที่เข้าถึงลําบาก

สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)เน้นย้ําให้หน่วยงานท้องถิ่นและหน่วยงานที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จัดเก็บเพียง “หลักฐานที่เชื่อได้ว่าเป็นการยืนยันตัวตน และมีการจ่ายเงินจริง” เช่น

• ใช้เลขประจําตัวประชาชน (ID) และหมายเลขบัญชีธนาคารที่รับโอนเงิน

• บันทึกภาพถ่ายขณะมอบความช่วยเหลือ ซึ่งให้องค์กรท้องถิ่นเป็นผู้บันทึกได้เอง

• หรือให้ผู้รับ ลงนามเซ็นยืนยันว่าได้รับเงินจริงก่อนดําเนินการโอน

ทั้งนี้ แนวทางดังกล่าวถูกจัดทําและเวียนแจ้งไปยังสํานักงานภูมิภาคทุกแห่ง ครอบคลุมจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ อาทิ สตูล, นครศรีธรรมราช และพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างที่ประสบภัย เพื่อให้การเยียวยาเป็นไปอย่างรวดเร็ว เหมาะสม และไม่สร้างภาระซ้ำซ้อนแก่ประชาชน นอกจากนี้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินยังเปิดเผยว่า ได้ตั้งทีมให้คําปรึกษาเฉพาะกิจประจําที่สํานักตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดที่ประสบภัยและ สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 15 (จังหวัดสงขลา) พร้อมรองรับการหารือข้อปฏิบัติงานในพื้นที่ โดยปัจจุบันได้ให้คําแนะนําแก่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และโรงพยาบาลในพื้นที่ที่เข้าหารือแล้ว

ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินกล่าวตอนท้ายรายการว่า “ไม่ต้องกังวลจนไม่กล้าช่วย ขอเพียงมีหลักฐานที่ตรวจสอบได้ว่าเป็นการจ่ายจริงและมีตัวตน" สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดินพร้อมที่จะสนับสนุนและให้คําแนะนํา เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเดินหน้าอย่างโปร่งใสและไม่เกิดอุปสรรคในการปฏิบัติงาน

สํานักงานการตรวจเงินแผ่นดินให้แนวทาง เพื่อสร้างความมั่นใจแก่จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยให้ความสําคัญของความคล่องตัวทางเอกสาร ควบคู่กับการตรวจสอบย้อนหลังที่ยังทําได้ตามระบบข้อมูลทางราชการ"

ต่อมา นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น มีหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ตรัง และสตูล ที่ มท 0810.4/ว 5615 ลงวันที่ 1 ธ.ค. 2568 เรื่อง แจ้งเร่งรัดการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคใต้ สิ่งที่ส่งมาด้วย 1. สำเนาหนังสือกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ด่วนที่สุด ที่ มท 0605/ว 13542 ลงวันที่ 29 พ.ย. 2568 จำนวน 1 ชุด และ 2. ข่าวประชาสัมพันธ์ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ลงวันที่ 1 ธ.ค. 2568 จำนวน 1 ฉบับ

ระบุว่า "ด้วยได้เกิดสถานการณ์อุทกภัย เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน มีกําลังแรงขึ้น ประกอบกับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกําลังค่อนข้างแรง ทําให้ภาคใต้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักมากบางแห่ง ระหว่างวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 - ปัจจุบัน โดยยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล สงขลา ปัตตานี ยะลา และจังหวัดนราธิวาส มีประชาชนได้รับผลกระทบเป็นจํานวนมากจากสถานการณ์ดังกล่าว

เนื่องจากเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นจํานวนมากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นขอเรียนว่า เพื่อให้การดําเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคใต้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยยึดหลักความเดือดร้อนของประชาชนเป็นสําคัญ และให้การเบิกจ่ายเยียวยาผู้ประสบ อุทกภัยเป็นไปอย่างรวดเร็ว เหมาะสม ไม่สร้างภาระซ้ําซ้อนให้กับประชาชน จึงขอความร่วมมือจังหวัดแจ้งองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ดําเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในฤดูฝน ปี 2568 ตามมติ คณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเน้นย้ําตามแนวทางของสํานักงานการตรวจเงินแผ่นดินที่ให้เก็บเอกสารหลักฐาน ที่เชื่อได้ว่าเป็นการยืนยันตัวตน และมีการจ่ายเงินจริง เช่น

1. ใช้เลขประจําตัวประชาชน (ID) และหมายเลขบัญชีธนาคารที่รับโอนเงิน
2. บันทึกภาพถ่ายขณะมอบความช่วยเหลือ ซึ่งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้บันทึกได้เอง
3. หรือให้ผู้รับ ลงนามยืนยันว่าได้รับเงินจริงก่อนดําเนินการโอนเงิน

รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่ส่งมาด้วย

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา"

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความกังวลในหมู่ข้าราชการชั้นผู้น้อย ต่างวิจารณ์ว่าการที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ออกเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์เพียงอย่างเดียว ไม่เพียงพอที่จะเป็นหลักประกันในการคุ้มกันการทำงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมได้อย่างเต็มที่ เพราะหากนายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน พ้นจากตำแหน่ง แล้วผู้บริหาร สตง. ในอนาคตเข้าตรวจสอบ ซึ่งตามกฎหมายปี 2550 ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเก็บรักษาหลักฐาน ขอรับการช่วยเหลือจากผู้ประสบภัยเพื่อให้ สตง. ตรวจสอบ 


แต่ตามหนังสือสั่งการ อ้างข่าวประชาสัมพันธ์เพียงอย่างเดียว เห็นว่าไม่มีน้ำหนักเพียงพอ เพราะไม่มีกฎหมายหรือระเบียบรองรับ อาจให้เกิดผลกระทบ โดยเฉพาะข้าราชการชั้นผู้น้อย ที่อาจถูก สตง. ตรวจสอบและเรียกเงินคืนย้อนหลังได้ เหมือนหลายกรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถูก สตง. เรียกเงินคืนย้อนหลังในหลายโครงการ จึงเห็นว่า สตง. ควรมีหนังสือราชการถึงแนวทางปฎิบัติที่ชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้มีหลักฐานอ้างอิง และข้าราชการเกิดความสบายใจในการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยดังกล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น