สถานการณ์น้ำท่วมสงขลาวิกฤตหนัก มวลน้ำไหลหลากรอบสองกระหน่ำหาดใหญ่-สะเดา “ศศิน เฉลิมลาภ” เตือนปัญหาน้ำท่วมซ้ำไม่ใช่แค่ภัยธรรมชาติ แต่เกิดจากการเมืองแทรกแซง ระบบข้อมูลล้าหลัง และคนรู้จริงถูกกันออก จนการบริหารน้ำผิดพลาดต่อเนื่อง
จากกรณีสถานการณ์อุทกภัยในจังหวัดสงขลายังคงอยู่ในภาวะวิกฤต โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ และอำเภอสะเดา ที่เผชิญกับมวลน้ำมหาศาลไหลหลากซ้ำเป็นรอบที่สองในวันนี้ ส่งผลให้ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงกว่ารอบแรก สร้างความเสียหายอย่างหนัก ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงยังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนว่าภาคใต้ตอนล่างยังมีฝนตกหนักต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568
ล่าสุดวันนี้ (24 พ.ย.) นายศศิน เฉลิมลาภ กรรมการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้ออกมาโพสต์ข้อความ ชี้ ไทยกำลังเผชิญ “การล่มสลายเชิงสถาบัน” ในระบบน้ำ เพราะการเมืองแทรกแซงจนผู้ไม่เชี่ยวชาญขึ้นมากำกับงาน ทำให้การพยากรณ์และสั่งการผิดพลาด ขณะเดียวกันผู้รู้จริงถูกกันออกจากโต๊ะตัดสินใจ ระบบข้อมูลและการบัญชาการก็ล้าหลังเป็นสิบปี ส่งผลให้เตือนภัยช้าและระบายน้ำผิดจังหวะ จนน้ำท่วมซ้ำเสียหายซ้ำ
ปัญหานี้จึงไม่ใช่แค่ภัยธรรมชาติ แต่เป็นปัญหาเชิงสถาบันที่สะสมจากการซื้อขายตำแหน่งและการบริหารที่ไร้ประสิทธิภาพมานาน โดยเจ้าตัวได้ระบุข้อความว่า
"(Intro) ไทยกำลังเผชิญ “ความล่มสลายเชิงสถาบัน (Institutional Collapse)” ในระบบน้ำ
เกิดจาก 3 แรงที่ชนกันแบบครบสูตร:
1) การเมืองแทรกซึมระบบราชการระดับผู้เชี่ยวชาญ
ผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านเทคนิคขึ้นมาคุมงาน
→ การพยากรณ์-บัญชาการผิดตั้งแต่ต้นทาง
2) คนรู้จริงถูกกันออก ไม่ได้อยู่ในโต๊ะตัดสินใจ
→ พอถึงนาทีวิกฤต จังหวะการตัดสินใจผิดซ้ำแบบเดิมทุกปี
3) ระบบข้อมูล-บัญชาการล้าหลังไป 10-20 ปี
→ เตือนภัยช้า ระบายไม่ตรงจังหวะ
→ ท่วมซ้ำ-เสียหายซ้ำทั้งที่รู้ล่วงหน้า
นี่ไม่ใช่ปัญหาธรรมชาติอย่างเดียว แต่เป็น “ปัญหาเชิงสถาบัน” ที่สะสมมาเป็นสิบปี และถึงจุดวิกฤตจากปัญหาการเมืองที่มีผลประโยชน์จากการซื้อขายตำแหน่งผู้บริหารในแต่ละหน่วยราชการทุกแห่ง ทำให้คนมีความสามารถ รู้จริง ในระบบราชการไม่ได้ทำงานตัดสินใจ"


