เจ้าหน้าที่กัมพูชาพบเพิ่มอีก 3 ศพ รวมเป็น 16 ศพ จากเหตุรถบัสตกสะพานจมลงแม่น้ำในจังหวัดกัมปงธม และยังค้นหาร่างผู้เสียชีวิตต่อไป เหตุบริษัทเดินรถมีชื่อผู้โดยสารไม่ครบ ทำให้ไม่ทราบจำนวนคนบนรถที่แท้จริง ขณะบริษัทช่วยงานศพรายละ 1 ล้านเรียล หรือ 8,000 บาท
วันที่ 21 พ.ย.สื่อมวลชนกัมพูชา รายงานความคืบหน้าอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารแบบรถนอนของบริษัท วิรัก ริทธี ทรานสปอร์ต จำกัด ตกสะพานจมลงแม่น้ำ ในตำบลโกเกาะ อำเภอสันตุก จังหวัดกัมปงธม เมื่อช่วงเวลาประมาณตี 3 ของวันที่ 20 พ.ย.ว่า ล่าสุดมียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 16 ราย หลังพบร่างเพิ่มอีก 3 ราย ซึ่งรวมถึงคนขับมือหนึ่งที่นอนพักและให้คนขับมือสองขับแทน
บิต บุนเถิน ผู้กำกับการตำรวจโกเกาะ เปิดเผยเมื่อเช้าวันศุกร์(21 พ.ย.) ว่า พบศพผู้เสียชีวิตเพิ่ม เป็นผู้โดยสาร 2 ราย และคนขับ 1 ราย เมื่อช่วงค่ำวันที่ 20 พ.ย.ในลำธารจุดเกิดเหตุ
“พบร่างเพิ่มอีก 3 ราย ทั้งหมดยังคาดเข็มขัดติดอยู่ภายในรถ ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมเป็น 16 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 24 ราย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงค้นหาต่อไป เผื่อพบร่างเพิ่มเติม” เขากล่าว
รถบัสสองชั้นคันนี้เดินทางจากจังหวัดอุดรมีชัยไปยังพนมเปญ ผ่านเสียมราฐ ก่อนพุ่งตกสะพานโอปราสาท ในตำบลโกเกาะ อำเภอสันตุก เมื่อเวลา 03.20 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 20 พฤศจิกายน เดิมรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 13 ราย และบาดเจ็บ 24 ราย ในจำนวนนี้ 14 รายอาการสาหัส
สาเหตุเกิดจากผู้ช่วยคนขับที่สลับมาขับแทนคนขับหลักเกิดหลับใน ตามรายงานของตำรวจ โดยผู้ช่วยคนขับซึ่งได้รับบาดเจ็บและอยู่ในความดูแลของตำรวจ ถูกคุมตัวระหว่างพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
เจ้าหน้าที่ระบุเพิ่มเติมว่า บริษัทวิรัก ริทธี ทรานสปอร์ต ไม่มีบัญชีรายชื่อผู้โดยสารที่ถูกต้อง และอาจมีผู้โดยสารขึ้นระหว่างทางตามจุดจอดต่างๆ
หลังเหตุการณ์ ตัวแทนบริษัทได้มอบเงินช่วยเหลืองานศพรายละ 1 ล้านเรียล (ประมาณ 8,000 บาท) และสัญญาว่าจะจ่ายเงินชดเชยเพิ่มเติมผ่านบริษัทประกันภัยของบริษัท
นายสาร สุขา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตทุกคน
“เหตุการณ์ที่น่าสลดใจครั้งนี้เตือนให้เราตระหนักถึงคุณค่าของชีวิต และความสำคัญของการปฏิบัติตามกฎหมายจราจร อุบัติเหตุจำนวนมากสามารถป้องกันได้ หากผู้ใช้ถนนทุกคนมีความรับผิดชอบมากกว่านี้” เขากล่าว
รมว.มหาดไทยกัมพูชา เรียกร้องให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎหมายจราจร ไม่ขับรถเร็วเกินกำหนด ไม่ขับรถขณะมึนเมา ควรสวมหมวกนิรภัยหรือคาดเข็มขัดนิรภัย ไม่แซงอย่างประมาท และควรขับชิดขวาตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่โดยเฉพาะตำรวจจราจรและกระทรวงโยธาธิการและขนส่งต้องเพิ่มความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมาย การรณรงค์ให้ความรู้ การตรวจสภาพรถ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม
“การเคารพกฎหมายจราจรไม่ใช่แค่เพื่อไม่ต้องเสียค่าปรับหรือทำให้เจ้าหน้าที่พอใจ แต่เป็นการปกป้องชีวิตของตัวเอง จำไว้ว่าอย่ารีบร้อน ไปถึงช้าหน่อยแต่ปลอดภัย ได้กลับไปหาครอบครัว” นายสาร กล่าว
ทั้งนี้ รถบัสนอนคันดังกล่าวจมลงในน้ำลึกประมาณ 5 เมตร โดยอุบัติเหตุเกิดขึ้นเวลา 03.20 น. ขณะที่ผู้โดยสารกำลังหลับอยู่


