xs
xsm
sm
md
lg

โฆษกกองทัพไทยยันกัมพูชาเซ็นรับรองหลักเขตแดนพื้นที่หนองหญ้าแก้วแล้ว ยันเป็นพื้นที่ของไทย ถึงเขมรจะปฏิเสธก็ไม่เป็นผล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โฆษกกองทัพไทยยันกัมพูชาลงนามเอกสารรับรองหลักเขตพื้นที่ 'หนองหญ้าแก้ว' แล้วในปี 59 หลังสำรวจร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2549 และในที่ประชุม JBC 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายลงนามรับรอง เขมรจะบอกว่าไม่ยอมรับก็ไม่มีผล พร้อมระบุรั้วลวดหนามยังไม่ใช่เส้นเขตแดน แต่ทำเพื่อสร้างความปลอดภัยให้ ปชช.

วันที่ 23 ก.ย. 68 พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยถึงกรณีหลักเขตแดนที่ 42 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว และหลักเขตแดนที่ 43 ตั้งอยู่ที่บ้านโนนหมากมุ่น ตำบลโคกสูง อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้วว่า จริงๆ เอกสารที่เปิดไปเมื่อวันที่ 22 ก.ย.ได้รับมาจากกรมแผนที่ทหาร ซึ่งเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารที่ลงนามร่วมกันระหว่างหัวหน้าชุดตรวจหลักเขตไทย-กัมพูชา โดยมี พล.ท.ชาคร บุญภักดี เจ้ากรมแผ่นที่ทหารในปัจจุบัน ในขณะนั้นดำรงยศพันเอกในฐานผู้อำนวยการกองแผนและโครงการกรมแผนที่ทหาร (ฝ่ายไทย) และ นายลาย เซียงลี ปลัดกระทรวงกิจการชายแดนกัมพูชา โดยเอกสารดังกล่าวลงนามร่วมเมื่อปี 2559 และมีการสำรวจร่วมกันในปี 2549 และเสร็จจริงๆ ใน 74 หลัก ในปี 2550 ซึ่งเอกสารฉบับดังกล่าวถูกนำเสนอในการประชุม JBC แต่ก็ไม่เคยถูกนำเข้าไปอยู่ในวาระ และเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้แนบเอกสารนี้เข้าไป และทั้งสองฝ่ายมีการลงนามรับรองเอกสาร

เมื่อถามว่า หากฝั่งกัมพูชาไม่ยอมรับจะส่งผลอะไรหรือไม่ พล.ต.วิทัยกล่าวว่า “ไม่มีผล เพราะเอกสารก็คือเอกสาร ในเมื่อเอกสารเข้าที่ประชุมแล้ว เขายอมรับแล้ว แต่ก็ต้องเรียนให้สื่อมวลชนได้ทราบว่า เป็นการรับรองหลักเขตตามที่ MOU 2543 ได้กำหนดชัดเจนแล้วว่าจากหลักเขตที่ 41 42 43 และ 44 จะใช้เส้นตรงจากกึ่งกลางของหลักเขต


พลตรี วิทัยกล่าวต่อว่า ในส่วนของหลักเขตที่ยังตกลงกันไม่ได้ อย่างเช่น หลักเขตที่ 42 ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จะมีความแตกต่างที่ 80 เมตร ระหว่างหลักเขตที่ไทยยืนยันกับหลักเขตที่กัมพูชาอ้างว่า เป็นหลักเขตของเขา แต่ส่วนหลักเขต 43 จากการสำรวจล่าสุดว่าปี 2549 พบว่า หลักเขตล้มอยู่ ตอนแรกหาไม่เจอ แต่พอมาเจอพบว่าถูกดินกลบอยู่ ซึ่งทั้งไทย และกัมพูชามีการปักเสาชั่วคราว มาร์กจุดเอาไว้ ซึ่งถือว่าเป็นการรับรู้ว่าตรงนั้นคือหลักเขต 43 การที่กัมพูชาระบุว่าไม่ได้ยอมรับเรื่องเส้นหลักเขตในการประชุม JBC แต่ก็มีการยอมรับเรื่องหลักเขต และใน MOU 43 ระบุว่าจะลากเส้นหลักเขตเป็นเส้นตรงเท่านั้น นอกจากนี้หลักเขต 42 และ 43 ก็มีภาพถ่ายทางอากาศที่ชัดเจนอยู่แล้ว ยืนยันชัดเจนว่าบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่ในดินแดนอธิปไตยของประเทศไทย

ส่วนเรื่องรั้วลวดหนาม ยืนยันว่ารั้วลวดหนามไม่ใช่เส้นเขตแดน แต่เป็นการสร้างความปลอดภัยให้ประชาชน เพื่อไม่ให้ชาวกัมพูชาเดินทางข้ามมาได้ เนื่องจากพื้นที่ชายแดนจะมีชาวกัมพูชาข้ามเข้ามาก่อเหตุต่างๆ และสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวไทย จึงต้องสร้างรั้วเพื่อกั้นคนไม่ให้ชาวกัมพูชาเข้ามาก่อความเดือดร้อนได้




กำลังโหลดความคิดเห็น