"กฤษฎา ทนายปราบโกง" ลุยต่อ ร้อง "อนุทิน" สั่งย้าย ผวจ.โคราช ปกปิดข้อเท็จจริงและรายงานอันเป็นเท็จโดยมีเจตนาพิเศษต้องการช่วยเหลือโรงงานแป้งมันฯ
วันนี้ (24 มิ.ย.) เวลา 10.00 น. ที่ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา อินทามระ เจ้าของฉายา “ทนายปราบโกง” ผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษเจ้าหน้าที่รัฐหลายรายในจังหวัดนครราชสีมาที่มีพฤติการณ์เอื้อประโยชน์ให้โรงงานแป้งมันสำปะหลังที่มีกำลังการผลิตสูงเป็นหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีการลักลอบปล่อยทิ้งน้ำเน่าเสียลงไปในที่ดินของ ส.ป.ก.เกือบ 600 ไร่ ในตำบลหนองบัวศาลา อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 67 เจ้าหน้าที่จากส่วนกลางหลายหน่วยงานได้ระดมสรรพกำลังเข้าจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชนหลายรายที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการยึดครองที่ดินของ ส.ป.ก.ไปโดยมิชอบ แต่กลับสร้างความเดือดร้อนเสียหายให้แก่ประชาชนในพื้นที่ด้วยการปล่อยน้ำเน่าเสียลงไปในที่ดินของ ส.ป.ก.มาเป็นเวลานาน ตามที่เป็นข่าวครึกโครมไปแล้วนั้น โดยย้อนไปเมื่อวันที่ 23 ก.พ. 67 ตนได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เรื่อง โรงงานแป้งมันสำปะหลังปล่อยน้ำเน่าเสียลงบนที่ดินของ ส.ป.ก.
ต่อมา วันที่ 8 พ.ค. 67 ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา กลับมีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงมายังตนในทำนองว่า เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 67 พนักงานเจ้าหน้าที่พบว่าบริษัทฯ ไม่มีการระบายน้ำออกนอกบริเวณโรงงานตามที่สั่งการไว้แล้ว และได้กำชับให้ประกอบกิจการให้เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาตอย่างเคร่งครัดต่อไป และในวันที่ 31 พ.ค. 67 ผู้ว่าราชการจังหวัด โดยศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา ก็ได้มีหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงมายังตนอีกในทำนองว่า เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 67 พนักงานเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อตรวจติดตามการปฏิบัติตามคำสั่ง พบว่าโรงงานได้หยุดระบายน้้ำทิ้งออกนอกบริเวณโรงงาน รวมทั้งได้มีการปิดช่องทางระบายน้ำจำนวน 2 จุด ทั้งในด้านในและด้านนอกบริเวณโรงงานเรียบร้อยแล้ว
และเมื่อวันที่ 23 พ.ค. 67 คณะผู้ตรวจสอบของจังหวัดนครราชสีมา นำโดย นายสุรพันธ์ ศิลปะสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าไม่มีการระบายน้ำออกนอกบริเวณโรงงานตามข้อสั่งการเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ คณะผู้ตรวจสอบได้กำชับให้ประกอบกิจการให้เป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต
การกระทำดังกล่าวของผู้ว่าราชการจังหวัดบ่งชี้ว่ามีการปกปิดข้อเท็จจริงและรายงานอันเป็นเท็จโดยมีเจตนาพิเศษต้องการช่วยเหลือบริษัทฯ ไม่ต้องถูกดำเนินคดีแพ่งและอาญาและไม่ต้องปิดกิจการแต่กลับสร้างความเดือดร้อนเสียหายด้วยการทิ้งน้ำเน่าเสียต่อไปได้โดยไม่ยำเกรงต่อกฎหมาย โดยหลังจากที่มีการแถลงข่าวการจับกุมผู้กระทำความผิดแล้ว ต่อมาในวันที่ 22 มิ.ย. 67 ผู้ว่าราชการจังหวัดกลับให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่าท่านไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการออก ส.ป.ก. 4-01 เพราะเป็นหน้าที่ของปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ขึ้นตรงต่อกระทรวงเกษตรฯ โดยมีเจตนาให้สัมภาษณ์เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นหรือปิดบังข้อเท็จจริงเรื่องการปล่อยน้ำเน่าเสียลงไปในที่ดินของ ส.ป.ก.เกือบ 600 ไร่ตามที่ตนได้ร้องเรียนไว้แล้วข้างต้น
การกระทำของผู้ว่าราชการจังหวัดดังกล่าวถือเป็นปฏิปักษ์อย่างร้ายแรงต่อการทำหน้าที่ติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดอาญาร้ายแรง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่จากส่วนกลางหลายหน่วยงานก็กำลังรวบรวมพยานหลักฐานและสืบสวนสอบสวนขยายผลไปให้ถึงตัวผู้ร่วมขบวนการทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชนหลายรายให้ได้รับโทษตามกฎหมายต่อไป
ในวันนี้ตนจึงต้องมาร้องขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพิจารณาออกคำสั่งโยกย้าย นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ออกนอกพื้นที่เป็นการด่วนทันที
เบื้องต้น หัวหน้ากลุ่มงานร้องทุกข์ ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย รับหนังสือไว้เสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาดำเนินการต่อไป