ทนายปราบโกง ยื่นหนังสือพร้อมหลักฐานให้ผวจ.นครราชสีมา ดำเนินการโรงงานแป้งมัน ลักลอบปล่อยน้ำเสียลงพื้นที่ สปก.กว่า 300 ไร่ ทำชาวบ้านเดือดร้อนพร้อมลงพื้นที่ตรวจดูน้ำเสียกับตา
เมื่อ เวลา 10.00 น. วันที่ 23 ก.พ.67 ที่ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายกฤษฎา อินทามระ ทนายความฉายาทนายปราบโกง เดินทางมายื่นหนังสือถึง นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครราชสีมา กรณีโรงงานแป้งมันสำปะหลังแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลหนองบัวศาลา อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ปล่อยน้ำเน่าเสียลงไปในที่ดินของ สปก.ประมาณ 300 ไร่ โดยมีนายอาทิตย์ ชามขุนทด ผอ.กลุ่มงาน ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้รับหนังสือ
ทนายกฤษฎา เปิดเผยว่า ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน บก.ปปป.ให้ดำเนินคดีเอาผิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผกก.3 บก.ปทส. 1 นาย และ เจ้าของโรงงานและกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทดังกล่าว 6 คนที่ร่วมกันสนับสนุนการกระทำความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ซึ่งก่อนหน้านั้น ป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องให้ตำรวจ บก.ปปป.ดำเนินคดีกับ เจ้าหน้าที่ สปก.โคราช 2 นาย ตามมาตรา 157 และ ให้เลขาธิการ สปก.พิจารณาลงโทษทางวินัยเจ้าหน้าที่ทั้งสองนายด้วย
วันนี้ ตนจึงเอาหลักฐานการดำเนินคดีทั้งหมดมามอบให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
ต่อจากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา พร้อมทนายกฤษฎา ลงตรวจพื้นที่ สปก.ดังกล่าว ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปด้านหลังโรงงานแป้งมันสำปะหลังดังกล่าว พบป้ายประกาศ“ห้ามบุกรุก พื้นที่บุคคล ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึง 06.00 น. ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย“ เมื่อเดินเข้าไปสำรวจพบบ่อกักเก็บน้ำที่มีสภาพเขียว จำนวนหลายบ่อ มีท่อส่งน้ำพร้อมปั๊มน้ำขนาดใหญ่ ที่กำลังเดินเครื่องระบายน้ำทิ้งจากบ่อหนึ่งไปอีกบ่อหนึ่ง โดยมีหมุด สปก.ปักแบ่งเขตในพื้นที่ดังกล่าว
ทั้งนี้ระหว่างคณะเจ้าหน้าที่จังหวัดและสื่อมวลชนกำลังตรวจดูพื้นที่มีคนของโรงงานขับขี่ จยย.มาถ่ายรูปเพื่อรายงานเจ้าของโรงงานด้วย
ด้าน นายอาทิตย์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ว่า จากการที่ทนายกฤษฎา มาร้องเรียน ผวจ.ว่าพบเห็นโรงงานประกอบกิจการที่มีการปล่อยน้ำเสียในพื้นที่ สปก.ประมาณ 300 ไร่ ทาง ผวจ.มอบหมายตนและ กอ.รมน.จว.มาร่วมทำการตรวจสอบ จากการเดินดูบริเวณพื้นที่ดังกล่าวเห็นสภาพบ่อน้ำตามที่มีการร้องเรียน นอกจากนี้พบเห็นหลักหมุดของสำนักงานปฏิรูปที่ดิน คาดว่าจะเป็นที่ดิน สปก ตามที่ทนายกฤษฎากล่าวอ้างมา จากนี้ตนจะเสนอผู้บังคับบัญชาแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบว่าเป็นไปตามที่ร้องเรียนว่าเป็นไปตามกฎหมายที่อนุญาตใช้ที่ดิน สปก หรือไม่ต่อไป
รายงานข่าวที่เชื่อถือได้ในพื้นที่สปก.นครราชสีมาแจ้งว่าจะทำการยึดพื้นที่ สปก.ทั้งหมด คืนมาเพื่อทำตาม
นโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการมอบที่ดินให้แก่เกษตรกรทำกินต่อไป
