ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เครือข่าย 22 องค์กรอนุรักษ์เขาใหญ่ร่วมกลุ่มเพื่อนเขาใหญ่จัดกิจกรรม “คอนเสิร์ตปกป้องเขาใหญ่จาก ส.ป.ก.” 24-26 ก.พ.นี้ บริเวณหน้าด่านทางขึ้นอุทยานฯ เขาใหญ่ อ.ปากช่อง ด้าน “น้าหมู” พงษ์เทพ ศิลปินเพลงเพื่อชีวิตชื่อดัง โพสต์เชิญชวนพี่น้องร่วม #Saveเขาใหญ่ เตรียมพบกันบนเวทีคอนเสิร์ต
วันนี้ (22 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีเปิดข้อพิพาท หลักหมุด ส.ป.ก.4-01 ปริศนา รุกป่าแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พื้นที่หมู่ที่ 10 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ส่งผลให้ทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีคำสั่งย้ายด่วน ส.ป.ก.จังหวัดนครราชสีมา พร้อมกับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา รวม 6 คน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งล่าสุดทาง นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าพบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เพื่อแจ้งความเอาผิดตามมาตรา 157 เจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.จังหวัดนครราชสีมาทั้ง 6 รายนั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ถนนเดชอุดม ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งพบว่าบรรยากาศที่ ส.ป.ก.นครราชสีมา ยังคงมีประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาจำนวนมากทยอยเดินทางมายื่นเอกสารยืนยันสิทธิในที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งจะหมดเขตภายใน 17 ก.ค. 67 นี้ นอกจากนี้ยังมีประชาชนบางส่วนเดินทางเข้ามายื่นเอกสารเพื่อขอเปลี่ยนสิทธิที่ดินทำกินจาก ส.ป.ก.4-01 เป็นโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตรกันอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน วันนี้ไม่พบว่า นายอัครเดช เรียนหิน ส.ป.ก.นครราชสีมา เดินทางมาทำงานแต่อย่างใด เนื่องจากที่จอดรถประจำตำแหน่งยังว่าง โดยมีการวางกรวยกั้นไว้ ส่วนในห้องทำงานไม่มีคนอยู่ ซึ่งคาดว่าย้ายไปประจำการที่สำนักงานส่วนกลาง ตามคำสั่งย้ายด่วนพร้อมกับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.นครราชสีมาอีก 5 ราย เพื่อเปิดทางการสืบสวนข้อเท็จจริงประเด็นนี้ต่อไป
ส่วนการยกเลิก ส.ป.ก.ทุกแปลงในพื้นที่มีปัญหานั้น แหล่งข่าวในสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาเปิดเผยว่า เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งประกอบไปด้วย ส.ป.ก.จังหวัด, กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช, กรมป่าไม้, กรมธนารักษ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวม 9 หน่วยงาน ที่จะทำงานร่วมกันเพื่อดำเนินการในที่ดินที่เป็นปัญหานี้ต่อไป
ขณะที่ทางด้านเฟซบุ๊กของ นายพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ หรือน้าหมู ศิลปินเพลงเพื่อชีวิตชื่อดังชาวโคราช ได้มีการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวเอาไว้ว่า “เขาใหญ่” และได้โพสต์บทกลอนที่แต่งขึ้นเองที่เกี่ยวกับเขาใหญ่เอาไว้ว่า
“ในหุบเขา ที่กลึงเกลา เว้าวงกต
เขากลึงพจน์ ยศนาม ธรรมสถิต
เทียวเที่ยวเขา ให้กลึงเรา วันละนิด
กลึงเกลาจิต ให้เหลือเขา ไม่เหลือเรา”
นอกจากบทกลอนแล้ว น้าหมู พงษ์เทพ ยังได้มีการโพสต์ภาพโขลงช้างป่าเขาใหญ่ที่มีข้อความว่า ชวนพี่เพื่อนพ้องร่วม “ปกป้องเขาใหญ่จาก ส.ป.ก. พบกับมินิคอนเสิร์ตจากกลุ่มเพื่อนเขาใหญ่ และกิจกรรมเพื่อเขาใหญ่ ที่บริเวณหน้าด่านทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 24-26 กุมภาพันธ์ 67 นี้ พร้อมกับติดแฮชแท็ก #Saveเขาใหญ่ให้ปลอดภัยจาก ส.ป.ก. แล้วพบกัน”
ทางด้าน นายวิทยา สกลเจริญเวช ผู้ประสานงานเครือข่าย 22 องค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า เครือข่าย 22 องค์กรปกป้องเขาใหญ่ต้องขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญในปัญหาหมุดปริศนารุกผืนป่าเขาใหญ่ อยากให้มีการตรวจสอบทั่วประเทศเพื่อความโปร่งใสและชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอย่างเขาใหญ่
ต้องขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ลงมาช่วยตรวจสอบและนั่งหัวโต๊ะแก้ปัญหากรณีดังกล่าว ซึ่งทางเครือข่ายฯ คิดว่าปัญหาที่เกิดจากการปักหมุด ส.ป.ก.ไม่ถูกต้องนั้นอาจจะได้คำตอบที่ชัดเจนให้สังคมทราบมากขึ้น ประกอบกับจะมีการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิทั่วประเทศที่อยู่บริเวณตะเข็บติดกับเขตอุทยานแห่งชาติและเขตป่าอนุรักษ์
สำหรับกิจกรรมการขับเคลื่อนของ 22 องค์กรหลังจากนี้ยังคงทำอย่างต่อเนื่องโดยรณรงค์ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวรับทราบข้อมูลในกรณีดังกล่าว รวมถึงยังติดตามความคืบหน้าของการตรวจสอบ หมุด ส.ป.ก.รุกป่าเขาใหญ่ เพื่อให้ได้ความชัดเจน และยังมีความห่วงใยต่อการปฏิบัติงานเนื่องจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนมรดกโลก เกิดอะไรกับกรณีดังกล่าวก็สุ่มเสี่ยงทำให้เขาใหญ่ถูกถอนจากการเป็นมรดกโลก
ดังนั้น ในวันที่ 24-25-26 กุมภาพันธ์นี้ เครือข่ายฯ จะมีการจัดกิจกรรมคอนเสิร์ตปกป้องเขาใหญ่ โดยกลุ่มเพื่อนเขาใหญ่ รวมถึงขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ให้ความสำคัญต่อเรื่องนี้และจะแก้ปัญหาข้อพิพาทดังกล่าวให้จบลงได้ด้วยดี และหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะกรณีดังกล่าวได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เครือข่าย 22 องค์กรปกป้องเขาใหญ่จาก ส ป.ก.อยากเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบการถือครองที่ดิน ส.ป.ก.ทั่วประเทศเพื่อความโปร่งใส ไม่ใช่ทำเฉพาะที่เขาใหญ่เท่านั้น