xs
xsm
sm
md
lg

“โจ๊ก” ไม่ยอมตายเดี่ยว “ต่อศักดิ์” เหนื่อยพอกัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ต่อศักดิ์” เหนื่อยไม่แพ้ “โจ๊ก” ต้องแก้คดีโยงเว็บพนันออนไลน์ หลัง “ทนายตั้ม” หอบหลักฐานแจ้งความ สน.เตาปูน แม้เส้นทางเงินโยงไม่ถึงตัวโดยตรง แต่เข้าบัญชีคนใกล้ชิดชัดเจน และยังดีที่ “รองฟาง-ดาบยาว” ลูกน้องคนสนิท แนบเนียนกว่า “รองคริษฐ์” ลูกน้องสุรเชษฐ์ เผยคดี “โจ๊ก” คืบหน้าเร็วเพราะพนักงานสอบสวนเก็บพยานหลักฐานมาก่อนแล้ว ส่วนคดี “ต่อศักดิ์” แม้ “โจีก” เก็บข้อมูลแบบลับๆ มานาน แต่เอาไว้แบล็กเมล์ ไม่เริ่มทำเป็นคดีตามขั้นตอนกฎหมาย จึงต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่



ในรายการ  “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” หรือ “สนธิทอล์ก”เมื่อวันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการได้กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้ใช้ “ทนายตั้ม” นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เป็นตัวการสำคัญในการตอบโต้เอาคืน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. หลังจากที่ตนเองเจอวิบากกรรมถูกดำเนินคดีพัวพันเว็บพนันออนไลน์ BNK MASTER ถึงขั้นถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน โดยตั้งแต่ วันที่ 26 มีนาคม 2567 หลังจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ โดนหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาที่ สน.เตาปูน ก็ได้ตัังทีมทนาย เดินหน้าโต้ตำรวจชุดทำคดีของนครบาล ว่าใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ในการสืบสวนสอบสวนคดีเว็บพนัน BNK MASTER

แถลงโต้ไม่พอ ยังมีการแฉฟาดไปที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ศัตรูคู่อาฆาต ว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ พัวพัน “เงินส่วย-เว็บพนันออนไลน์”


จากนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็ใช้ดาบสอง ส่ง “ทนายตั้ม” กับสื่อต่าง ๆ ในเครือ เพื่อเปิดฉากโหมโรงแฉ โดยได้นำหลักฐานเปิดโปง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ พร้อม 2 สมุนคู่ใจ คือ “รองฟาง” กับ “ดาบยาว” มือเก็บเงินส่วยให้ต่อศักดิ์ ว่า ไปพันกับบัญชีม้าผู้ต้องหาในคดี “เว็บพนันออนไลน์ BNK MASTER” ที่ชื่อ นางสาวพิมพ์วิไล ปล้องอ่อน เป็นคีย์สำคัญ

กระทั่งมีหลักฐานถึง “ภรรยา-เครือญาติ” ของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ที่มีการรับโอนเงินส่วยจากบัญชีม้าจำนวนหลายรายการ เป็นเงินหลักล้านบาท ตั้งแต่ปี 2563-2566 หลังจากที่ “ทนายตั้ม“ แฉกับสื่อจนหนำใจ ก็หิ้วหลักฐานทั้งหมดที่อ้างว่าได้มาจากสายลับผู้หวังดี ไปส่งให้ บก.ปปป. และ สน.เตาปูน เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์-ภรรยา-ญาติๆ และ “รองฟาง-ดาบยาว” ในฐานความผิด “สมคบฯ ฟอกเงิน-ร่วมกันฟอกเงิน”

“ท่านผู้ชมครับ สิ่งที่ผมพูดมาทั้งหมด ท่านผู้ชมอย่าคิดนะครับว่า ผม สนธิ ลิ้มทองกุล จะเลือกที่รักมักที่ชัง หลายคนพอผมออกมาเปิดเผยเรื่องความชั่วร้ายของ “สุรเชษฐ์ หักพาล” ก็จะมีหน้าม้า หรือ คนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวออกมาบอกว่า ทำไมไม่แฉเรื่องของ “ต่อศักดิ์ สุขวิมล” บ้าง ?

“พวกคุณนี่น่าจะความจำสั้น หรือ ไม่ก็รับงาน “สุรเชษฐ์ หักพาล” มาแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้ พวกคุณ ลืมไปแล้วหรือว่า ผมเป็นคนแรก และคนเดียวในประเทศไทยที่ออกมาเปิดเผยเรื่องคนที่อยู่เบื้องหลัง หลงจู๊สมชาย และการขนยาไอซ์ 1.5 ตันที่ถูกตำรวจจับที่ด่านห้วยยะอุ จ.ตาก ตั้งแต่ปี 2562


“เรื่องนี้ผมพูดมาตั้งแต่ปี 2564 ออกอากาศเมื่อ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 ใน Ep.73 หรือ 3 ปีกว่ามาแล้วมีคนชมไปแล้วหลายล้านคนทั่วประเทศ แต่ก็มีบางคนคนมาถามผมว่า ผมแฉแล้วทำไมคดีไม่เห็นคืบหน้า ?

“ประเด็นก็คือ ผมเป็นสื่อมวลชนนะครับ ผมมีหน้าที่เอาความจริงมาเปิดเผย ผมไม่ใช่ตำรวจ ไม่ใช่ ป.ป.ช., ไม่ใช่ ป.ป.ง ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐในการดำเนินคดี เพราะฉะนั้นผมทำหน้าที่ของผมแล้ว ส่วนผู้ที่ต้องรับผิดชอบก็ต้องไปดำเนินการเอาเอง

“นอกจากนี้ ต่อมาเมื่อเดือนมีนาคม 2567 หรือ เดือนกว่าๆ ที่แล้ว พอ “ต่อศักดิ์ สุขวิมล กับ สุรเชษฐ์ หักพาล” ออกมาเล่นละครแถลงข่าว ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ ก่อนที่จะถูกคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่สำนักนายกฯ ทั้งคู่ ผมก็เป็นคนออกมาเตือนทั้งคู่เองว่า
“อย่าเล่นปาหี่” เพราะพวกผมประชาชนนั้นไม่โง่ที่จะหลงเชื่อบทละครห่วย ๆ โดยผมเตือนไปแล้วว่า ถ้าพวกคุณไม่แฉ เดี๋ยวผมจะแฉทั้งคู่ให้เอง


“จากวันนั้นมาถึงวันนี้ที่ “สุรเชษฐ์ หักพาล” พบหลักฐานการกระทำผิดอย่างชัดเจน จนศาลอนุมัติออกหมายจับ ผมก็ใส่ไม่เลี้ยง ท่านผู้ชมเห็นแล้ว เพราะความผิดชัดเจน ส่วน “ต่อศักดิ์ สุขวิมล” แน่นอนผมไม่เลือกปฏิบัติ ผิดมาผมก็จัดหนักให้เช่นกัน แต่ก่อนที่จะถึงจุดนั้น ต้องเข้าใจว่าผมเป็นสื่อ เป็นสื่อที่ไม่เหมือนสื่ออื่นด้วย สื่ออย่างผมว่ากันด้วยความจริง ความจริงที่มีหนึ่งเดียว” นายสนธิกล่าว

นายสนธิกล่าวว่า ประเด็นแรก ข้อมูลหลักฐานที่ “ทนายตั้ม” ได้มานั้น เชื่อ 100% ว่า เป็นข้อมูลหลักฐานจริง รู้ด้วยว่า “ทนายตั้ม” ได้หลักฐานชุดนี้มาจากไหน อย่างไรก็ตาม ถ้าว่าตามหลักฐาน เส้นเงินนั้นเชื่อมโยงไปไม่ถึง “ผบ.ต่อศักดิ์” ผิดกับกรณี “สุรเชษฐ์ หักพาล” ที่นอกจากจะมีเส้นเงินเชื่อมไปถึง ญาติพี่น้องแล้ว ยังมีเส้นเงินเชื่อมโยงไปถึงตัวเองด้วย


แต่ไม่ได้หมายความว่า “พล.ต.อ.ต่อศักดิ์” จะขาวสะอาด เพราะไม่ต่างจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เท่าไหร่นัก เพียงแต่มีแต้มต่อตรงที่ลูกน้อง คือ “ฟาง-ยาว” แนบเนียน กว่า “รองคริษฐ์” ลูกน้อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เท่านั้นเอง

ประเด็นที่สอง นางสาวพิมพ์วิไล ปล้องอ่อน ที่ “ทนายตั้ม ษิทรา” พาตัวมาให้พนักงานสอบสวน สน.เตาปูน สอบปากคำนั้น เป็นคนรู้ใจของ นายณพรรษกร แหเกิด หรือ “อู๊ด หาดใหญ่” สองคนนี้ก็เป็นผู้ต้องหา ร่วมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ในคดีเว็บพนัน BNK MASTER อีกทั้ง คนที่ หาดใหญ่ ใคร ๆ ก็รู้ ว่า “อู๊ด หาดใหญ่” เป็นมือเก็บส่วยให้ใคร ?... คำตอบก็คือ “สุรเชษฐ์ หักพาล”


ตั้งแต่สมัย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็น ผู้กำกับ สภ.หาดใหญ่ ส่วน “พิมพ์วิไล” คนหาดใหญ่รู้กันทั้งบาง ว่าเป็น “เจ้าแม่เบอร์ต้นหาดใหญ่” โดยเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ถึง 2 เว็บ คือ วีนัส มาสเตอร์ และ ควีนมาเฟีย มาสเตอร์

แล้วแบบนี้มีหรือ ที่สองผัวเมียลูกน้อง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะไม่มีหลักฐานการจ่ายเงินส่วย ผัวเป็นหน้าเสื่อใหญ่ อ.หาดใหญ่ เมียเป็นเจ้าของเว็บพนันออนไลน์


พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ อาจจะสบายใจที่ไม่มีเส้นเงินบัญชีม้าถึงโดยตรง แต่สุขกับทุกข์มักอยู่ด้วยกันเสมอ บัญชีธนาคารหลายธนาคารของนางสาวพิมพ์วิไล มีการโอนเงินเข้าบัญชีม้าของ นายณัฐพงศ์ นาโสม และ นายคชาชาญ แพทย์วรกุล ซึ่ง 2 บัญชีม้านี้ ที่ทั้ง “รองฟาง-ดาบยาว” ลูกน้องคนสนิท พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ถืออยู่นั้น ตั้งแต่ปี 2563-2566 มีเส้นเงินโอนไปพันกับบัญชีธนาคารของ
1.นางนิภาพรรณ สุขวิมล(กุ๊กไก่ ภรรยา)
2. ลูกสาวคนหนึ่งของ ผบ.ต่อศักดิ์
3.นายเชิดพงษ์ สุขวิมล(พี่ชาย ผบ.ต่อศักดิ์)
4.นางสาวจีราภรณ์ สุขวิมล(น้องสาว ผบ.ต่อศักดิ์)และ
5.บัญชีธนาคารที่ชื่อ “ต่อบุญต่อศักดิ์”


ซึ่งเส้นเงินของการทำธุรกรรมการโอนเงินทั้งหมดนั้น เกิดขึ้นในหลายพื้นที่รับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็น
1.พื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
2. พื้นที่ในหลาย ๆ อำเภอของ จ.นนทบุรี
3. พื้นที่ อ.พล จ.ขอนแก่น
4. พื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และ
5.พื้นที่ กรุงเทพมหานคร ในหลาย ๆ เขต
ยอดรวมทั้งสิ้นกว่า 11 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามคดีที่ “สุรเชษฐ์ หักพาล” กำลังถูกกระหน่ำอยู่นั้น เกิดขึ้นจากการเก็บข้อมูลของพนักงานสืบสวนสอบสวน มาอย่างยาวนาน มีทั้งพยานบุคคล หลักฐานทางคดี เส้นทางการเงิน รูปถ่าย ภาพวีดิโอ ฯลฯ แต่ชาวบ้านประชาชนทั่วไปไม่เคยรู้ มารู้อีกทีก็เป็นข่าวใหญ่ข่าวโต จึงหลงนึกว่าทำไมเล่นแต่ “โจ๊ก” ไม่เล่น “ต่อศักดิ์” บ้าง

ทั้ง ๆ ที่จริงแล้ว “โจ๊ก สุรเชษฐ์” เก็บข้อมูล “ต่อศักดิ์” แบบลับ ๆ มานานแล้ว เพื่อมาแบล็กเมล ผบ.ต่อศักดิ์ โดยที่ไม่ได้เปิดเผยให้คนข้างนอกรับรู้ รับทราบ หรือ แจ้งความดำเนินคดีตามระบบขั้นตอนของกฎหมาย

ด้วยเหตุนี้สิ่งที่ “ทนายตั้ม ษิทรา” ออกตัวแรงมาฟาด “ต่อศักดิ์” แทน “สุรเชษฐ์ หักพาล” นั้นแท้จริงแล้วก็คือ “ทนายตั้ม” เอาเอกสารข้อมูลมาจาก “สุรเชษฐ์ กับ ทีมงาน” นั่นแหละ เพื่อร้องทุกข์พนักงานสอบสวน สน.เตาปูน แต่ยังไม่ผ่านขั้นตอนกระบวนการสืบสวนสอบสวนตามระบบระเบียบของกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็น การตรวจสอบข้อมูลความถูกต้องต่างๆ , การรวบรวมรายการเดินบัญชีธนาคารของผู้เกี่ยวข้อง ฯลฯ

ด้วยเหตุนี้พนักงานสอบสวน สน.เตาปูน จะต้องไล่กระบวนการเพื่อดำเนินการใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น การสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องที่ “ทนายตั้ม” กล่าวอ้างว่าเข้าข่ายความผิดมูลฐานเรื่องการพนันออนไลน์

ข้อมูลและหลักฐานที่ทนายตั้ม กล่าวอ้างนั้น มีการสืบสวนมาก่อนหรือไม่? ใครเป็นผู้สืบสวน สืบสวนจากเว็บไซต์พนันเว็บไซต์ใด?

บัญชีที่ใช้ในการเล่นเป็นบัญชีใด มีการโอนต่อเป็นทอด ๆ ไปยังบัญชีที่เกี่ยวข้องตามที่กล่าวอ้างหรือไม่?

ไหนจะหลักฐานธุรกรรมจากทางธนาคาร ที่ทางธนาคารกำลังรวมรวบส่งมาให้พนักงานสอบสวนอีก 

พอรวมหลักฐานครบ สอบปากคำครบ ชุดสืบสวนวิเคราะห์เส้นทางการเงิน ว่า มีความผิดมูลฐานฟอกเงินเกิดขึ้นแล้วหรือไม่ อย่างไร? เพราะการจะทำผิดฐานฟอกเงินได้ จะต้องมีความผิดมูลฐานเกิดขึ้นก่อน

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ เป็นสาระสำคัญทางคดีอย่างมาก มันเลยดูว่ากรณีของ “ต่อศักดิ์” เกิดความล่าช้า


แต่อย่างไรก็ตาม หากพยานหลักฐานปรากฏชัดว่า มีเงินที่โอนไปจากบัญชีที่เกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐานการพนันออนไลน์ โอนต่อไปยังบัญชีต่างๆ และมีพยานหลักฐานแวดล้อมประกอบ ไม่ว่าจะเป็น พยานบุคคล พยานหลักฐานการติดต่อสื่อสารทางแชตไลน์ หรือเทเลแกรม หรือเฟซบุ๊กแมสเซนเจอร์ หรือสื่อโชเชี่ยลต่างๆ คุยกันและปรากฏชัดในการสั่งการ หรือพูดคุยกันให้โอนเงินที่ได้จากการพนันออนไลน์ไปให้กัน และมีหลักฐานว่าปลายทางของการโอนเงิน ได้รับเงินไปเรียบร้อยและการรับเงินเหล่านั้น

คนรับ (ที่เป็นคนใกล้ชิด และอยู่รอบตัว พล.ต.อ.ต่อศักดิ์) ก็จะต้องรับรู้หรือควรรู้ว่า เป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ และมีส่วนใดส่วนหนึ่งไปถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ หรือ คนใกล้ชิด พนักงานสอบสวน ก็ต้องมีการดำเนินคดีไปตามพยานหลักฐาน เหมือนกับคดีกรณีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล กับพวก

การดำเนินการเรื่องราวใน “คดีของต่อศักดิ์” เหล่านี้ ต้องใช้เวลาพอสมควรเหมือนกัน จะแตกต่างจาก คดีของ “สุรเชษฐ์ หักพาล กับพวก” ที่มีการสืบสวนสอบสวน ตามระบบระเบียบอย่างถูกต้อง มาเป็นระยะเวลานานพอสมควรก่อนแล้ว และมีพยานหลักฐานเพียงพอที่กล่าวหาดำเนินคดี และศาลอาญาก็ได้ออกหมายจับไปเรียบร้อย และ สุรเชษฐ์กับพวก ก็ได้เข้าไปมอบตัว และรับทราบข้อกล่าวหา

“แต่ในอนาคต “ต่อศักดิ์ สุขวิมล” คุณฟังผมดี ๆ นะ คุณจะต้องเหนื่อยแน่ เหนื่อยไม่ต่างกับ “สุรเชษฐ์ หักพาล” วิบากกรรมของคุณสองคนกำลังทำงานอย่างหนัก คุณวิ่งหนีมันให้ทันแล้วกัน”
นายสนธิ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น