ผู้ว่าฯ สมุทรสาครรุดตรวจสอบโรงงานหลอมอะลูมิเนียมในจังหวัดสมุทรสาคร หลัง กมธ.การอุตสาหกรรมปูดนำกากแร่แคดเมียมจาก จ.ตาก มาไว้กว่า 15,000 ตัน เซ็นประกาศสั่งห้ามเข้า 90 วัน ป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและร่างกายประชาชน
วันนี้ (4 เม.ย.) นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ร.ต.ต.สัณฐิติ ธรรมใจ หัวหน้าสำนัก ปภ.สมุทรสาคร นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร ดร.สุบรรณ มานะวิทยาการ นายก อบต.บางน้ำจืด นายมโนรัตน์ ฤทธิ์เต็ม ผู้แทนกองจัดการกากของเสียและสารอันตราย กรมควบคุมมลพิษ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ตั้งอยู่ภายในซอยกองพนันพล เลขที่ 132 หมู่ 2 ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เป็นโรงงานหลอมหล่ออะลูมิเนียมแท่ง อะลูมิเนียมเม็ด จากเศษอะลูมิเนียมและตะกรันอะลูมิเนียม (Scrap and Dross)
สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 3 เม.ย. นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวที่รัฐสภาว่า ทาง กมธ.การอุตสาหกรรมฯ ได้พิจารณาสอบข้อเท็จจริงกรณีมีการร้องเรียนว่ามีบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.ตาก ได้ขายกากแร่สังกะสีและกากแร่แคดเมียมที่ฝังกลบไว้ ขายให้กับบริษัทหนึ่งตั้งอยู่ใน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง เนื่องจากกากแร่ปนเปื้อนแคดเมียมเป็นสารก่อมะเร็ง ในกรณีได้สัมผัส สูดดม หรือปนเปื้อนไหลไปยังแหล่งน้ำ ถ้าประชาชนดื่มกินจะเป็นอันตราย รวมถึงสัตว์น้ำในบริเวณดังกล่าวด้วย กมธ.การอุตสาหกรรมฯ จึงได้เชิญหลายหน่วยงานมาชี้แจง ทราบว่าทางอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครได้อายัดกากแร่ดังกล่าวไว้แล้วเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่ทางตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครรายงานว่าจะกลับไปพิจารณาประกาศให้พื้นที่กองเก็บกากเเร่มีพิษอันตรายในจังหวัดฯ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ เพราะมีข้อมูลถูกนำไปเก็บไว้ในโรงงานแห่งหนึ่งกว่า 10,000 ตัน ใส่ในถุงบิ๊กแบ็กกว่า 1,000 ถุง เป็นการกองเก็บอย่างผิดกฎหมาย ผิดหลักเกณฑ์การจัดเก็บวัตถุอันตราย ทั้งนี้ นายอัครเดชกล่าวเน้นย้ำว่า ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณโดยรอบโรงงานที่เก็บกากแร่มีพิษอันตรายได้ฟังประกาศจากทางจังหวัดสมุทรสาครที่จะประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ และต้องดำเนินคดีต่อบริษัทต้นทางและบริษัทปลายทางด้วย รวมถึงต้องดูแลเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบทั้งในจังหวัดตาก และสมุทรสาคร รวมถึงให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วนก่อนที่จะสายเกินไป
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมคณะใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนออกมาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนในประเด็นดังกล่าวว่า จากการตรวจสอบวันนี้พบว่ามีกากแร่แคดเมียมที่ขนย้ายมาจาก จ.ตาก จำนวนประมาณ 15,000 ตัน ซึ่งทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฯ ได้ตรวจสอบและอายัดไว้แล้ว ส่วนใหญ่จะอยู่ในอาคารที่มิดชิดมีหลังคา มีที่อยู่ข้างนอกอีกประมาณ 100 ถุง ก็จะนำเก็บในอาคารภายในวันนี้ หลังจากนี้ทางสำนัก ปภ.สมุทรสาคร โดยผู้ว่าราชการจังหวัดฯ จะประกาศพื้นที่ภัยพิบัติไม่ให้บุคคลเข้าไปในอาคารที่จัดเก็บ และไม่ให้มีการหลอมกากแร่แคดเมียม ส่วนสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฯ ก็จะดำเนินการสั่งให้นำออกจาก จ.สมุทรสาคร โดยเป็นกากแร่แคดเมียมที่มาจาก จ.ตาก ที่จริงแล้วห้ามนำออกมาขนย้ายตาม EIA ที่ทำไว้ ซึ่งจะต้องขนย้ายกลับไปฝังกลบที่ จ.ตาก ตามเดิม โดยจะให้เวลาดำเนินการภายใน 7 วัน ส่วนกากแร่แคดเมียมถูกขนย้ายมาอยู่ที่โรงงานใน จ.สมุทรสาครได้อย่างไรนั้น ก็ต้องไปตรวจสอบที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดตาก ซึ่งเป็นผู้อนุญาตให้ขนย้ายมา
ด้านนายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบพบว่าโรงงานแห่งนี้ เป็นโรงงานที่ได้รับอนุญาตให้กักเก็บและบดย่อยกากอุตสาหกรรม และหล่อหลอมอะลูมิเนียมเท่านั้น แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้หล่อหลอมกากแร่แคดเมียม ดังนั้น การกระทำของโรงงานจึงถือว่ามีความผิดฐานประกอบการหล่อหลอมแคดเมียมโดยไม่ได้รับอนุญาต และยังเก็บวัตถุเป็นพิษโดยไม่ได้รับอนุญาตอีกด้วย มีโทษสูงสุดทั้งจำและปรับ ขณะที่กากแร่แคดเมียมมีการปรับเสถียรและทำลายฤทธิ์แล้วก่อนฝังกลบที่ จ.ตาก แต่การนำออกมาไว้ที่ จ.สมุทรสาคร เพื่อทำการหล่อหลอมนั้นเป็นสิ่งที่กระทำไม่ได้อย่างเด็ดขาด นอกจากความผิดที่พบขณะเข้าตรวจสอบแล้วนั้น ยังต้องรอผลการตรวจสอบจากฝ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย ทั้งจากเจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อมฯ ว่าสารแคดเมียมมีการกระจายออกสู่ภายนอกตัวอาคารหรือไม่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดฯ ตรวจหาว่ามีผู้ได้รับผลกระทบจากสารแคดเมียมหรือไม่ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ทำการสอบโดยเชิงลึกว่ามีการหล่อหลอมกากเหล่านี้ไปบ้างแล้วหรือไม่ เป็นต้น
ขณะที่ตัวแทนของโรงงานบอกว่า กากแร่แคดเมียมทั้งหมดนี้เริ่มมีการขนย้ายเข้ามาเก็บกองไว้ที่โรงงานตั้งแต่เดือน ส.ค. 2566 โดยใช้เวลากว่า 3 เดือน ซึ่งหลังจากที่หน่วยงานราชการเข้าตรวจสอบแล้วสั่งให้ขนย้ายกากแร่แคดเมียมทั้งหมดเข้าไปภายในตัวอาคารก่อน ก็จะรีบดำเนินการให้เสร็จภายในวันเดียว แต่เรื่องของการขนย้ายกลับไปยัง จ.ตากภายใน 7 วันนั้น ก็จะรีบทำให้เร็วที่สุด ส่วนที่ว่ากากแร่แคดเมียมทั้งหมดถูกนำมาทำอะไรนั้น ส่วนตัวแล้วไม่รู้ต้องถามทางเจ้าของโรงงาน รู้เพียงแค่ว่าเมื่อรับเข้ามาก็นำมากักเก็บไว้เท่านั้น
ล่าสุด ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด ได้ลงนามในประกาศกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร เรื่อง ห้ามมิให้บุคคลใดๆ เข้าไปอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใดในพื้นที่ใกล้จะเกิดสาธารณภัย มีใจความว่า ด้วยปรากฏข้อเท็จจริงจากการรายงานของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และจากการตรวจสอบของเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 พบว่ามีกากแคดเมียม และกากสังกะสี จำนวนมากอยู่ในพื้นที่โรงงาน บริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 132 หมู่ที่ 2 ซอยกองพนันพล ถ.เอกชัย ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร และโรงงานตั้งอยู่เลขที่ 136/2 หมู่ที่ 2 ซอยกองพนันพล ถ.เอกชัย ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยที่กากแคดเมียมซึ่งเป็นกากแร่อุตสาหกรรมอันตรายในปริมาณมากดังกล่าวมีลักษณะที่ใกล้จะเกิดสาธารณภัยอันเนื่องมาจากสารเคมีและวัตถุอันตรายขึ้นในพื้นที่ดังกล่าว และการอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใดๆ ในพื้นที่นั้นจะเป็นอันตรายอย่างร้ายแรงต่อชีวิตและร่างกายของประชาชน
เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและร่างกายของประชาชน ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 อาศัยอำนาจตามมาตรา 29 ของ พ.ร.บ.เดียวกันนี้ ประกาศห้ามมิให้บุคคลใดๆ เข้าไปอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใดๆ ในพื้นที่โรงงานดังกล่าวเป็นระยะเวลาเก้าสิบวัน นับแต่วันประกาศนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ หากผู้ใดมีความจำเป็นต้องเข้าไปดำเนินกิจการใดๆ ตามสิทธิหรือตามกฎหมายที่ให้อำนาจ หรือการดำเนินการเพื่อเป็นการบำบัดปัดป้องภัยพิบัติสาธารณะ หรือการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้แจ้งต่อนายอำเภอเมืองสมุทรสาครในฐานะผู้อำนวยการอำเภอก่อนเข้าดำเนินการ ให้ผู้อำนวยการอำเภอใช้ดุลพินิจพิจารณาผ่อนปรนให้บุคคลใดเข้าพื้นที่ไปดำเนินการใดๆ ได้ โดยให้พิจารณาจากสิทธิหรืออำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ความจำเป็น มาตรการป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากสารเคมีและวัตถุอันตราย และมาตรการป้องกันไม่ให้กากแคดเมียมส่งผลกระทบต่อประชาชนประกอบกัน