"กรณ์" เตือนรัฐบาลไตร่ตรองให้ดีกู้เงินต่างประเทศในรอบ 25 ปี ชี้ไม่ใช่จังหวะที่เหมาะสม ตลาดพันธบัตรผันผวนสูง แจงหากกู้เงินสกุลดอลลาร์อาจต้องแบกภาระดอกเบี้ยเกิน 6% ขึ้นไป พร้อมความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน เทียบกับกู้เงินบาทแพงกว่าถึง 2 เท่า!
วันที่ 25 ต.ค. 2566 นายกรณ์ จาติกวณิช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า...
รัฐบาลจะกู้เงินต่างประเทศ !!?
เมื่อใครเข้ามาเป็นรัฐมนตรีคลัง ก็จะมีเจ้าหน้าที่การตลาดของวาณิชธนกิจจากต่างประเทศ เช่น JPMorgan Goldman Sachs หรือ UBS ขอคิวเข้าพบ
และหนึ่งบริการที่เขาจะพยายามเสนอขายคือ “การออกพันธบัตรดอลลาร์” พูดให้คนไทยเข้าใจง่ายๆ คือ *เสนอให้รัฐบาลกู้เงินต่างประเทศนั่นเอง*
ซึ่งวันนี้ผมเห็นรัฐบาลออกมาแสดงเจตจำนงจะออกพันธบัตรกู้เงินสกุลดอลลาร์ พร้อมคำอธิบายว่าเพื่อเป็นการ ‘เปิดตลาด’ และเพื่อสร้างราคาอ้างอิง (benchmark) - นั่นคือคำอธิบายที่พนักงานมาร์เกตติ้งธนาคารมักจะใช้ในการขายบริการนี้ ดังนั้น ผมคาดว่าครั้งนี้ก็ไม่ต่าง
แต่ก่อนที่รัฐบาลจะคล้อยตาม ผมขอให้ไตร่ตรองให้ดีครับ เพราะจังหวะเวลานี้ ต้องขอบอกว่าไม่ใช่จังหวะที่เหมาะสมเลยที่ไทยเราจะออกไปกู้เงินต่างประเทศในลักษณะแบบนี้
หากเป็นสองปีก่อน หรือแม้แต่ปีที่แล้ว ในช่วงก่อนที่ดอกเบี้ยจะขึ้น และในช่วงที่สภาพคล่องมีล้นเหลือยังพอว่า…
แต่วันนี้หากรัฐบาลไทยออกพันธบัตรกู้เงินสกุลดอลลาร์ น่าจะต้องมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยรัฐบาลอเมริกาอยู่ประมาณ 1% คือเท่ากับเราต้องจ่ายดอกเบี้ย 6% ขึ้นไป พร้อมกับการรับความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (เทียบกับการกู้เงินบาทโดยรัฐบาลในอัตราดอกเบี้ย 3.3% แพงกว่ากันประมาณ 2 เท่า)
ช่วงนี้ตลาดพันธบัตรผันผวนสูง และต้องไม่ลืมว่ารัฐบาลไทยไม่ได้กู้เงินต่างประเทศแบบนี้มาตั้งแต่ยุควิกฤตต้มยำกุ้ง!
ดังนั้นเรื่องนี้เป็นประเด็นละเอียดอ่อน เราต้องออกไปเปิดตัวในจังหวะที่ดี ทั้งในแง่สภาวะตลาด และในแง่ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจของเรา
ยิ่งถ้ามีการโยงว่า ‘รัฐบาลไทยออกพันธบัตรกู้เงินต่างประเทศครั้งแรกในรอบ 25 ปี เพื่อนำไปแจกเงินโครงการประชานิยม’ อันนี้ไม่ดีแน่นอน!